เลือกตั้งและการเมือง
‘พิธา’ งัด 3 ข้อโต้ กกต.ยื่นยุบ ‘ก้าวไกล’ มิชอบ - ‘ชัยธวัช’ ซัดอย่า 'ศรีธนญชัย' ยุบพรรคไม่ใช่เล่นขายของ
14 มิ.ย. 2567
68 views
วานนี้ (13 มิ.ย.67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีที่นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวชี้แจงการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีการสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า ผมขอกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าววันนี้ยืนยันว่าการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ได้ดำเนินการตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 จึงไม่มีเหตุต้องไต่สวน ซึ่งทำเช่นเดียวกับกรณีพรรคไทยรักษาชาติ ผมขอไล่เรียงเหตุผลเป็น 3 ข้อแบบนี้
(1) กกต.จะนำคดีไทยรักษาชาติมาอ้างไม่ได้ เพราะคดีนั้น ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยประเด็นกระบวนการการยื่นคำร้องเป็นประเด็นแห่งคดีแต่อย่างใด ดังนั้นในคดีดังกล่าว จึงไม่อาจเป็นบรรทัดฐานได้ แตกต่างจากคดียุบพรรคอนาคตใหม่ (กู้เงิน) ที่ศาลได้วินิจฉัยความเกี่ยวเนื่องของมาตรา 92 และมาตรา 93 เป็นประเด็นแห่งคดีไว้
(2) ในขณะเดียวกัน คำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ วางหลักว่ากระบวนการตามมาตรา 93 เกี่ยวเนื่องกับการเสนอคำร้องตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพียงแต่ขณะนั้นใช้ระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 ซึ่งกำหนดเรื่องกระบวนการเสนอคำร้องตามมาตรา 92 ให้นำระเบียบสืบสวนไต่สวนมาใช้บังคับโดยอนุโลม
โดยระเบียบสืบสวนไต่สวนดังกล่าว เป็นระเบียบที่ใช้ในการดำเนินคดีอาญา ซึ่งกำหนดให้ กกต.แจ้งข้อกล่าวหาก่อน แต่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การนำมาใช้โดยอนุโลม คือไม่ต้องนำทุกข้อมาใช้บังคับแก่กรณี ดังนั้น กกต.จึงไม่แจ้งข้อหาก่อน ย่อมถูกต้องแล้ว
แต่ปัจจุบัน ระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 60 ถูกยกเลิกไปแล้ว และมีการออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมืองปี 2566 ออกมาใช้บังคับกับกรณีการยื่นคำร้องตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ดังนั้น การเสนอคำร้องตามมาตรา 92 จึงต้องดำเนินการตามระเบียบปี 66 อย่างเคร่งครัด
(3) ตามมาตรา 93 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “ในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 92 คณะกรรมการจะยื่นคำร้องเอง หรือจะมอบหมายให้นายทะเบียนเป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทน“ ก็เป็นการเท้าความถึงมาตรา 92 อยู่นั่นเอง ถ้าบอกว่ามาตรา 93 ไม่เกี่ยวกับมาตรา 92 แล้วตามวรรคสองของมาตรา 93 จะอ้างอิงมาตรา 92 ทำไม?
ดังนั้น มาตรา 92 กับ มาตรา 93 ต้องใช้ประกอบกัน แยกเป็นเอกเทศไม่ได้
ผมและพรรคก้าวไกลเห็นว่าหลักการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ คือไม่ควรล้นเกิน แต่ต้องยึดหลักการมีส่วนร่วมและการถ่วงดุลกัน ดังที่เห็นในรัฐธรรมนูญไทยไม่ว่าฉบับ 2540, 2550 หรือ 2560
การยื่นคำร้องยุบพรรค ระบบกฎหมายกำหนดให้เป็นการแสดงเจตนาของ “องค์กรร่วม” เสมอมา เพื่อให้กระบวนการมีการกลั่นกรองและถ่วงดุลตั้งแต่ 2 องค์กรขึ้นไป ก่อนการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค
ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีที่ กกต.แถลงยืนยันทำตามกฎหมายในการยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกล โดยบอกว่า การยุบพรรคการเมือง มี 2 ช่องทาง คือ 1.ตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 92 ซึ่ง กกต.สามารถยื่นได้เลย หากมีหลักฐานอันควรเชื่อ โดยที่ไม่ต้องมีกระบวนการสอบสวน สามารถใช้ดุลยพินิจได้ตามอำเภอใจ ที่จะยื่นคำร้อง และ 2. ตามมาตรา 93 ซึ่งเป็นเรื่องของนายทะเบียน ไม่ได้เกี่ยวกับ กกต. หากมีความปรากฏว่า พรรคการเมืองกระทำผิดถึงขั้นยุบพรรค ก็ให้ไปสอบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงตามระเบียบที่ออกไว้
นายชัยธวัช บอกว่า "การอ่านกฎหมาย อย่าไปตีความแบบศรีธนญชัย กฎหมายเขียนลำดับไว้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจเจอคนขโมยของทำผิดซึ่งหน้า ยังต้องจับกุมไปดำเนินคดี เข้าสู่กระบวนการสอบสวนส่งอัยการ ก็ย้ำว่า นี่คือการยุบพรรคการเมือง ไม่ใช่เล่นขายของ"
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็โพสต์ข้อความตอบโต้ ไล่เรียง 3 เหตุผล ประเด็นสำคัญก็ชี้ว่า กกต.ไม่อาจนำคดีพรรคไทยรักษาชาติ เป็นบรรทัดฐานได้ เพราะแตกต่างจากคดียุบพรรคอนาคตใหม่
นอกจากนี้ บอกว่า การเสนอคำร้องตาม มาตรา 92 กฎหมายพรรคการเมือง ต้องทำตามระเบียบรวบรวมข้อเท็จจริงฯ ปี 2566 อย่างเคร่งครัด ซึ่งกกต. ต้องแจ้งข้อหาก่อน
นายพิธา ระบุว่า “ตนและพรรคก้าวไกลเห็นว่าหลักการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ คือไม่ควรล้นเกิน แต่ต้องยึดหลักการมีส่วนร่วมและการถ่วงดุลกัน”