เลือกตั้งและการเมือง

‘ณัฐชา’ เย้ย รบ.เพื่อไทย วันๆ มีแต่เรื่องสับเปลี่ยนรมต. – ‘ไอติม’ เหน็บ 40 สว.ใช้อำนาจ แทรกแซงถอนนายกฯ

22 พ.ค. 2567

230 views

“ณัฐชา” เย้ยรัฐบาลเพื่อไทย ไม่มืออาชีพ ซัดวันๆมีแต่เรื่องตำแหน่ง รมต. ลาออก-เข้าใหม่ ด้าน “ไอติม” เหน็บ สว.รักษาการ พยายามใช้อำนาจแทรกแซง ถอดถอนนายกฯ ผ่านคุณสมบัติ “พิชิต” ย้ำฝ่ายค้านใช้กลไลสภาฯตรวจสอบแน่ เชื่อหากไม่เหมาะสมประชาชน จะลงโทษผ่านเลือกตั้ง

วานนี้ 21 พ.ค.2567 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้ สัมภาษณ์ หลังเกิดกรณีนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประกาศลาออก ว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยใช้นำเสนอกับประชาชนช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่บอกว่า ทำงานเป็น บริหารแบบมืออาชีพ ไม่แน่ใจว่ามืออาชีพแบบไหน ปรับ ครม.เข้าใหม่ 4 คน ลาออก 3 คน จัดสรรแต่ตำแหน่งตามโควตาไม่สนความสามารถและประวัติคุณธรรมจริยธรรม สร้างผลกระทบประเทศไม่เดินหน้า แต่บะวันมีแต่ข่าวตำแหน่งรัฐมนตรีปรับเข้า ย้ายออก ลาออกพอใจ ไม่พอใจ ทำเหมือนการบริหารประเทศเป็นเพียงการสนองความต้องการของคนไม่กี่คน ทั้งๆที่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอคอยความแก้ไขปัญหาอยู่ รอมา 10 เดือนสิ่งเดียวที่เห็นเป็นรูปธรรมคือการทดแทนบุญคุณ ลูกน้องคนสนิท บริวารคนใกล้ชิด ส่วนนโยบายหรือสิ่งที่รับปากกับพี่น้องประชาชนไว้ก็คงต้องรอกันต่อไป


ส่วนกรณี นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ประกาศลาออกเพื่อหวังชิงตัดวงจรกระบวนการตรวจสอบไปแล้วนั้น ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีผลใดๆ เนื่องจากว่าองค์ประกอบที่ทางสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กว่า 40 คนได้เข้าชื่อ และ ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภา เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 1 และ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ นั้น เป็นองค์ประกอบที่ นายกรัฐมนตรี ใช้เกณฑ์ในการพิจารณา แต่งตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติ หรือคุณสมบัติไม่เหมาะสม มาดำรงตำแหน่ง ซึ่งการดำเนินการแต่งตั้งได้แล้วเสร็จไปแล้ว คงต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป


“ผมหวังว่าจะได้รับคำอธิบาย และความรับผิดชอบจากผู้นำประเทศที่ตัดสินใจลงไป โดยหลบซ่อน และปล่อยผ่านเหมือนตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดเพราะถือว่า ท่านนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจในการแต่งตั้งบุคคลว่าบริหารราชการแผ่นดิน”

-------------------------

ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สว. 40 คน เข้าชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติและมาตรฐานทางจริยธรรมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า สว.ได้ใช้กลไกของศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความเรื่องคุณสมบติ ซึ่งเป็นช่องที่เปิดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นความพยายามอีกครั้งของสว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งที่จะเข้ามามีบทบาทในการกำหนดว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลหรือใครจะปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกฯ และหากย้อนไป 1 ปี จะเห็นว่าสว.ที่มาจากการแต่งตั้งใช้อำนาจที่มีในการเลือกนายกฯมาแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล และตอนนี้อยู่ในช่วงรักษาการก็ยังพยายามใช้อำนาจที่มีในรัฐธรรมนูญปี 60 เข้ามาแทรกแซงว่าใครจะปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐบาล หรือนายกฯต่อไป


“ผมคิดว่าประชาชนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคน และตามครรลองประชาธิปไตยรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ นายกฯจะอยู่ได้หรือไม่ รัฐมนตรีที่ตั้งมาเหมาะสมหรือไม่ ผมคิดว่าควรจะถูกตัดสินโดยประชาชนผ่านการเลือกตั้ง และถ้ามีกรณีไหนที่นายกฯตั้งรัฐมนตรีที่อาจจะไม่มีความเหมาะสม คิดว่าสิ่งที่ปกติที่สุดคือรัฐบาลต้องรับผิดชอบทางการเมือง ”

เมื่อถามถามถึงกรณีที่ทางรัฐบาลยืนยันว่าการแต่งตั้งนายพิชิตถูกต้อง การรับผิดชอบอาจจะไม่จำเป็นต้องมี นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการตัดสินใจทางการเมืองของรัฐบาลว่าจะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร และในเชิงกฎหมายตนคิดว่าเป็นข้อถกเถียงกันคนละข้อ ทั้งคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามที่มีการส่งให้กฤษฎีกาตีความ กับคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามที่ทางสว.ยื่นเข้าไป ตนตั้งข้อสังเกตว่าในเชิงการเมืองประชาชนมีสิทธิ์ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของรัฐมนตรีแต่ละคน หากประชาชนมองว่านายกฯตั้งรัฐมนตรีไม่เหมาะสม และประชาชนจะลงโทษรัฐบาลผ่านคูหาเลือกตั้ง


ส่วนกลไกของฝ่ายค้านจะทำอย่างไรนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราจะใช้กลไกสภาฯในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ทั้งการดำเนินนโยบาย หรือความโปร่งใส่ในการดำเนินงานของรัฐมนตรีแต่ละคน และเมื่อสภาฯเปิดก็จะเห็นกลไกที่พรรคก้าวไกลใช้เต็มที่ในการตรวจสอบรัฐบาล ฉะนั้น พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นแน่นอน


เมื่อถามว่า ในกรณีดังกล่าวมีการวิเคราะห์ว่าอาจจะเปลี่ยนตัวนายกฯหรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาล มองว่าเป็นไปได้หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์ไปไกล โดยในเชิงกฎหมายต้องดูขั้นตอนก่อน และตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับเรื่อง ส่วนหากรับเรื่องจริงๆ ตนคิดว่าในมุมของพรรคก้าวไกลเราคงทำงานต่อในฐานะฝ่ายค้าน และท้ายที่สุดสิ่งที่เราตรวจสอบคือวาระของรัฐบาลภาพรวม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายกฯคนใดคนหนึ่ง หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ฉะนั้น ในมุมการทำงานของพรรคก้าวไกลเราเดินหน้าต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามที่สว.ยื่นเข้าไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/9nG4fM9c_Nk


คุณอาจสนใจ

Related News