เลือกตั้งและการเมือง

'ธรรมนัส' ลั่นเตือนแล้วนะ มีเบ็ดรอบก.เกษตรฯ - 'บิ๊กเต่า' เผยกำลังรวมหลักฐานรวบ 'ปลาใหญ่'

โดย nattachat_c

30 ม.ค. 2567

9 views

ความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจ 4 ป. บุกรวบนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน หลังร่วมกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช. ข่มขู่อธิบดีกรมการข้าวโดยเรียกเงิน 3 ล้านบาท ก่อนเจรจาต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว และโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว โดยอ้างว่าพบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต


ล่าสุดวานนี้ (29 ม.ค.67) ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้หลักฐานเพิ่มเติมจากทนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ซึ่งทนายดนุเดช ได้เปิดคลิปเสียงและอนุญาตให้เผยแพร่



คลิปเสียงการสนทนานี้ เป็นคลิปเสียงระหว่าง ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว และ นาย จ. ด้วยนาย จ. มีการอ้างร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าทราบเรื่องรีดทรัพย์ทั้งหมด


คลิปนี้ ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ถามกับ นาย จ. ว่า “แล้วแบบนี้เจ้านายเขาว่ายังไงบ้าง” // นาย จ. ถามกลับว่า “หมายถึงผู้กองเหรอ” // ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว จึงตอบว่า “ใช่ค่ะ หมายถึงผู้กองธรรมนัส”


นาย จ. จึงตอบว่า “เจ้านายเขาว่า เอาตามที่พี่ ศ.ว่า ให้มันจบๆไปเสีย จะได้ไม่มีเรื่องมัวหมอง ท่านก็บอกว่า เอาตามนั้นละ ให้มันจบๆไป


ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว จึงถามว่า แล้วเรื่องนี้ท่านรู้ด้วยหรอคะ? // นาย จ. ตอบว่า “ทำไมจะไม่รู้ ระดับผู้กองมีหรือจะไม่รู้ // ผู้กองก็รู้ว่า ศ. คือ ศรีสุวรรณ ซึ่งผู้กองก็ถามว่า “พี่เจ๋ง ถามหน่อสิว่า พี่ศรีสุวรรณ เขาจะเอาไง ตนก็ตอบกลับว่า เดี๋ยวผมไปถามให้ๆ


พอไปถามแล้วก็ได้ความว่า “เขาขอ 3 ขอ 3” ผมก็เลยมาแจ้งกับผู้กองเมื่อวันอังคาร ว่า “ผมขอ 3 นะ” // ผู้กองจึงบอกว่า “ไม่รู้อ่ะ ไปว่ากันเอาเอง จัดการให้เรียบร้อยก็แล้วกัน”


จากนั้น นาย จ. เล่าต่อว่า ได้โทรเคลียอีกรอบแล้วว่าเหลือ 1.5 ก็เอาให้จบๆไป เป็นพวกกัน เพราะอธิบดีกรมการข้าวก็น้องผม


ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว จึงถามต่อว่า แล้ว 1.5 ผู้กองรู้หรือไม่ // นาย จ. บอกว่า ไม่รู้ เรื่องแบบนี้ ผู้กองเขาไม่รู้ เขาไม่รับรู้ เพียงแต่ว่าให้จบเรื่องเท่านั้น ให้เคลียร์กันให้จบระหว่างศรีสุวรรณกับทางนี้ ขอแค่ว่าเคลียร์ให้จบ แต่ไม่เกี่ยวด้วยว่าจะเท่าไหร่ เขาต้องการให้หนังมันจบ จะได้ไม่ต้องปวดหัว // เพราะผู้กองอยากให้เรื่องจบ ไม่อยากให้เรื่องถึงกระทรวงเกษตรฯ เขาถึงสั่งให้เคลียร์ เพราะทุกคนมีซุ้มกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอธิบดีเองก็ลูกน้องของผู้กอง และมีพวกเยอะแยะ ผมก็เห็นเป็นพวกอีกคนหนึ่ง  แล้วถ้าเป็นพวกกับตนแล้วก็ต้องป้องให้เต็มที่ ถ้าคนไหนเป็นพวกผมป้องตาย ผมสู้ยิบตา ผมจะเป็นคนกันหนังหน้าไฟให้เอง ไม่ต้องกลัว     ถ้าผมรับหน้าเสื่อมาแบบนี้แล้ว คุณนายสบายใจได้เลย รับรองว่าจบ ไม่ต้องห่วงเพราะถือว่าโจ (ชื่อเล่น อธิบดีกรมการข้าว) เป็นน้องผมแล้ว

-----------

วานนี้ (29 ม.ค.67) ร้อยเอกธรรมนัส​ พรหม​เผ่า​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และ​สหกรณ์​ ระบุถึงกรณีที่นายศรี​สุวรรณ​ จรรยา นายยศวริช​ ชูกล่อมหรือ เจ๋ง​ ดอกจิก​และ​ อดีตผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ​​ ถูกกล่าวหาร่วมกันตบทรัพย์ร่วมอธิบดีกรมการข้าว​ ว่า ผู้ร้องเรียนร้องมายังกระทรวงแล้วถึงโครงการต่างๆ ซึ่งอยู่ในปีงบประมาณ 2565-2566 ซึ่งไม่เกี่ยวกับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งตนกำลังบริหารจัดการอยู่ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องเก่าๆที่เรากำลังจะไปทำความสะอาดบ้าน​และตนทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามที่ร้องขึ้นมา​ ตนจะทำหนังสือไปถึงปลัดกระทรวง​ ซึ่งเป็นหัวหน้าของข้าราชการ ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริง​ เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าส่อในทางทุจริต​ ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่ละเรื่อง ส่วนเรื่องของบุคคลภายนอกผมยืนยันเหมือนเดิมว่าจะต้องตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา​ ซึ่งในเวลานี้มีจำนวน 3 คน​ ซึ่งตนได้สั่งการให้ปลัดฯตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกี่ยวข้องกับข้าราชการหรือไม่​ และให้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ


ส่วนกรณีที่เป็นประเด็นสังคมตนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ​กระทรวง​ทั้ง 2 คนที่กำกับดูแลกรมดังกล่าว​ลงไปดู​ด้วยตัวเองและให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดอย่างปลัดฯ รับผิดชอบในเรื่องนี้


โดยร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวต่อว่า​ กรณีดังกล่าวต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน​ คือผู้ถูกร้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ​ ต้องให้ปลัดเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากนั้นให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน​ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ


ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการจะเป็นเมื่อใดนั้น​ ร้อยเอกธรรม​นัส​ กล่าวว่า​ เนื่องจากเป็นเรื่องประเด็นสำคัญที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจ จะต้องเร่งตรวจสอบให้ได้ และจะมานำเสนอต่อประชาชนต่อไป และไม่ว่าตนจะทำเรื่องอะไรก็ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีและนายภูมิธรรมเวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงรับทราบ


ร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวว่า​ ขณะนี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าผู้ถูกกล่าวหาไปพบรัฐมนตรีช่วยท่านใด เนื่องจากเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องดำเนินการตรวจสอบก่อน


เมื่อถามว่านอกจากกรมการข้าวแล้ว​ ยังมีกรมอื่นหรือไม่​ ร้อยเอกธรรม​นัส​ กล่าวว่า​ จากการ รับข้อมูลจากตำรวจ​ ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงเกษตรฯเท่านั้น พร้อมกับระบุอีกว่า​ ตนมีฝ่ายกฎหมายกว่า​ 20 คน ทั้งแต่งตั้งและไม่แต่งตั้ง


"ตนเตือนแล้ว​ ตั้งแต่ยุคที่แล้ว จะทำอะไรต้องพึงระวัง เพราะตนมีฝ่ายกฎหมายที่มีประสบการณ์ ทั้งที่แต่งตั้งแล้วไม่แต่งตั้ง ยอมรับว่ามีหลายกลุ่ม​ แต่ยังไม่เป็นประเด็น"


ส่วนคลิปเสียงที่ออกมามีการพาดพิงถึง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร้อยเอก​ธรรมนัส​ กล่าวว่า​ ตนได้มอบหมายให้ไปตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงข้อกฎหมาย ต้องยอมรับว่ากระทรวงเกษตรฯมีหน่วยงานเยอะที่สุด​มี ถึง​ 14 กรม เป็นการบริหารงานคนเกือบแสนคน​ แต่ละคนที่มีปัญหาจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และกล่าวย้ำว่าตนไม่ยอม ให้มีเรื่องแบบนี้ในยุคผมก็ไม่มีเด็ดขาด


ส่วนที่นายเจ๋ง​ ดอกจิก​ อ้างว่า มีผู้ใหญ่ให้มาเคลียร์ โดยเฉพาะที่ปรึกษา​ ร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวว่า​ คลิปที่ตนได้รับมาเยอะกว่านี้​ และกำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ที่มีการพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ตนจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าผู้ที่ถูกถูกพาดพิงเกี่ยวข้องอย่างไรแต่ตรวจสอบเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องของราคาคุยมากกว่า​ พร้อมกับกล่าวว่า​ ตนฝากว่าต้องการเป็นนักสะท้อนสังคมขอให้พึงระวัง ว่าจะคุยอะไรกับนักกฎหมายต้องระวัง​ นักกฎหมายไม่โง่


ส่วนห่วงหรือไม่ว่าจะกระทบต่อกระทรวงเกษตรฯ​ ซึ่งเป็นประเด็นตลอด​ จะถูกปรับครม.​ ร้อยเอกธรรมนัส​ ถามกลับว่า​ เรื่องอะไรที่เสียหายที่เกิดในยุคของตน ยืนยัน​ ทุกเรื่องในยุคนี้​ต้องโปร่งใส สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเก่าๆทั้งนั้น จำเป็นต้องปัดกวาดทั้งกระทรวง


โดยก่อนเดินทางกลับร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวย้ำอีกว่า กรอบเวลาการตรวจสอบจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดโดยให้ปลัดกระทรวงเป็นผู้ดำเนินการ ก่อนที่จะกล่าวว่าฝากไปบอกด้วยนะ​ กระทรวงเกษตรมีเบ็ดอยู่รอบกระทรวงเลยนะ ใครจะเดินเข้าไป ระวังติดเบ็ด ตรรกะง่ายๆถ้าอธิบดีกรมการข้าวเขาผิดจริง เขาคงไม่เปิดตัวแบบนี้พยานหลักฐานที่เขามีอยู่ในมือค่อนข้างแน่น และยังกล่าวถึงท้ายว่าไม่อยากพูดมีเบื้องหลังอีกเยอะ​ และยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการตลบหลังนายศรีสุวรรณ​ เขาน่าจะถูกข่มขู่ ฟังอะไรต้องฟังให้หมด แต่ทุกวันนี้ถูกตัดออกมาเป็นท่อนๆ ต้องเปิดฉบับเต็มไปเลย

--------------
วานนี้ (29 ม.ค.67) พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการ ตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมชุดสืบสวน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นคณะทำงานเพื่อคลี่คลายคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกรวม 3 ราย ได้ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าวจำนวน 3 ล้านบาท แลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการทุจริต


โดยก่อนเข้าประชุม พลตำรวจตรีจรูญเกียรติได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จะมีการพูดคุยกับคณะทำงานในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดี รวมทั้งมีการพิจารณาว่าคดีดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินหรือไม่ โดยได้มีการเชิญ ปปง.ในฐานะคณะทำงานมาร่วมพิจารณาข้อกฎหมายด้วย โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง และจะเดินหน้าสืบสวนสอบสวนในทุกมิติเพื่อคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ต่อมา พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมชุดสืบสวนนัดแรกกว่า 2 ชั่วโมงในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกรวม 3 ราย ได้ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าวจำนวน 3 ล้านบาท แลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการทุจริต


โดยกล่าวว่า การสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยเฉพาะคำให้การของอธิบดีกรมการข้าวที่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และยังมีพยานหลักฐานอื่น ๆ อีกหลายส่วน ซึ่งสามารถระบุถึงพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าวได้ชัดเจนว่ามีการวางแผนทำเป็นขั้นตอน ทั้งคนชี้เป้า คนเคลียร์ คนรับเงิน และยังพบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายคน ซึ่งจะต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำ


โดยมีคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นคนให้ข้อมูลกับระดับ ’ผู้สั่งการ’ ในขบวนการดังกล่าวให้ร้องเรียนในที่ต่างๆ และยังมีข้อมูลว่ามีหน่วยงานอื่นที่ถูกเรียกรับทรัพย์จากกลุ่มดังกล่าวในระดับร้อยล้านบาท แต่ยังไม่มีการจ่ายเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานดังกล่าวว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่


ทั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่า น่าจะมีผู้สั่งการในระดับที่สูงขึ้นไปอีกนอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ยืนยันว่า ตำรวจยังต้องการตัว ’ปลาใหญ่’ กว่านี้ แต่ไม่ขอระบุเป็นนักการเมืองหรือไม่ ส่วนกรณีของอธิบดีกรมฝนหลวงที่อาจจะถูกกลุ่มนี้เรียกรับเงินนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูล ซึ่งหากตำรวจพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงกรณีอื่นก็จะเปิดเผยให้รับทราบ


ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบวงจรปิดบริเวณรอบบ้านนายศรีสุวรรณ รวมถึงโทรศัพท์ของผู้เสียหายนั้น อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบทุกขั้นตอน คาดว่าจะแล้วเสร็จวานนี้ (29 ม.ค.67) แต่จะเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินหรือไม่นั้นยังต้องตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับ การรับผลประโยชน์ในคดีก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง // ทั้งนี้ ยืนยันว่าชุดพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองมา แต่อย่างใดและ ยังไม่มีใครติดต่อมา หากมีก็รับมาตรา 157 ไปก่อน


ส่วนกรณีที่ในคลิปเสียงสนทนามีการกล่าวอ้างถึงบุคคลอื่นในขบวนการ เช่น นักข่าว หรือตำรวจก็อาจต้องเรียกมาชี้แจง แต่ผู้ต้องหาก็สามารถการกล่าวอ้าง หรือมีสิทธิ์พูดอย่างไรก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับฟัง แต่จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ


พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงพฤติการณ์ของบุคคลเหล่านี้ว่า มีการกระทำกันจนย่ามใจ ไม่รู้ว่าขอบเขตของกฎหมายเป็นอย่างไรและบางคนในทรัพย์สินร่ำรวย มีบ้าน 10 หลัง มีที่นาเป็น 100 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป

-----------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/seSGQmRPhGk







คุณอาจสนใจ

Related News