เลือกตั้งและการเมือง
'อมรัตน์' ถามเพื่อไทยให้ข่าวนัดคุย 8 พรรค แต่ไม่บอกก้าวไกล ถ้าจะล้างไพ่ก็บอกมาตรงๆ
โดย nattachat_c
2 ส.ค. 2566
24 views
วานนี้ (1 ส.ค. 66) ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในการวิเคราะห์ชะตากรรม "ก้าวไกล" หรือจะซ้ำรอย "อนาคตใหม่"
โดยท่อนนึงในรายการ นางสาวพรรณิการ์ เผยว่า “ดูปากของดิฉันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นก้าวหน้า ไม่เคยมีการไปตกลง พท. ว่าถ้าไม่มี 2 ลุง กก. จะยอมไปเป็นฝ่ายค้าน”
และได้ตั้งคำถามกลับไปยังนายภาคภูมิว่า ถ้าทำแบบนี้ ทำไปเพื่ออะไรคะ
-----------
วันที่ 1 ส.ค.2566 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุ พรรคก้าวไกล ไม่โง่ ตามเกมสกปรก ลักหลับ บีบ 151 เสียงโหวต ว่า
น่าเสียดายที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 376 เสียง ถ้าสามารถทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกป่านนี้ประเทศไทยคงได้คณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศแล้ว ใครจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิ แต่ต้องไม่ลืมว่า 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย โหวตให้นายพิธา 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่มีแตกแถวแม้แต่เสียงเดียวทุกครั้ง
แม้ถึงวันนี้พรรคเพื่อไทยมีที่นั่งห่างจากพรรคก้าวไกลเพียง 8 ที่นั่ง และมีแนวโน้มที่ระยะห่างจะใกล้เข้ามาอีก แต่พรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วยดีมาตลอด แม้แต่กรณีโหวตรองประธานสภาจากพรรคก้าวไกลก็ 141 เสียงเต็มพิกัด
เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเป็นแบบนี้ แม้กองเชียร์แฟนคลับพรรคเพื่อไทยจำนวนมากจะไม่สบายใจ แต่ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยก็โหวตให้นายพิธา เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง พรรคก้าวไกลเคยเสนอ สส.ซีกพรรครัฐบาลเดิม ต้องเคารพฉันทามติจากประชาชน โหวตเลือกพิธาเป็นนายกฯ เพื่อปิดสวิตซ์ สว.แล้วกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ทำไมพอจะโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยบ้าง ถึงสร้างเงื่อนไขขึ้นมา
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ความกลัวทำให้เสื่อม ย่ามัวแต่ฟาดงวงฟาดงา ถ้าพอมีเวลาลองไปถอดบทเรียนจากผลนิด้าโพลที่ชี้ประชาชนมองพรรคก้าวไกลผิดพลาด เพราะไม่ยอมยกเลิกบางนโยบาย ไม่ใช่ไปโทษทุกคน แล้วตัวเองไม่ยอมปรับตัว สิ่งใดทำผิดก็ปรับแก้ทำใหม่ ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยมีใครพูดว่าหลังเลือกตั้งจะโหวตนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียว
ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหาเลย เพียงแต่จะนำข้อหารือจากพรรคการเมืองต่างๆเข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคให้ได้ร่วมกันตัดสินใจ ไม่ควรมีใครใช้วิธีขอเสียงสนับสนุนไป ด่าไป เราจะขอเสียงจากเขา โดยไม่คุยกับใครเขาเลยได้อย่างไร
-----------------
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยทางเฟซบุ๊กต่อท่าทีการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเสนอทางออกแบบที่ไม่ทำร้ายจิตใจประชาชนซึ่งเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ความว่า ทางออกที่ไม่ทำร้ายจิตใจประชาชน ในวันนี้และผูกพันถึงอนาคต 4 ปีข้างหน้า
1.รอ 10 เดือน รอให้ สว. ที่ฉุดรั้งความเจริญของประเทศหมดอายุไป ตั้งรัฐบาล 312 เสียง ตามความต้องการประชาชน
2.ถ้าไม่อยากรอนานก็ต้องมาร่วมกันอย่างจริงใจ ดัน ม.272 ผ่าน ปลดล็อกอำนาจมืด ให้อำนาจประชาชนได้บริหารประเทศ 4 ปีต่อไปอย่างสง่างาม
อย่ากลัวถูกยึดอำนาจ เพราะขนาดยอมทุกอย่างเขาก็ยึดมาแล้ว
อย่ายอมตั้งคนที่เขาส่งมา เพราะตั้งตามเขาขอมาทุกอย่างเขาก็เอาคนเหล่านั้นมาแว้งกัดเราอยู่ดี
จดจำการถูกหลอกลวงทุกครั้งในอดีตให้ได้ แล้วจะไม่ถูกพวกปรสิตพวกนี้หลอกเอาอีก
เกมสับขาหลอกว่าไม่มีลุงแล้วจะกดดันให้โหวตกันไปก่อน ใครจะเชื่อก็เชื่อไป #แต่ผมไม่เชื่อ เข้าใจตรงกันนะครับ
ให้ช่วยกัน ปิดสวิตซ์ สว. ดันมาพร้อมใจกัน ปิดสวิตซ์ ก้าวไกล ? [กลัวอะไร ??]
----------
วันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการนัดประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยจะมีขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเป็นการหารือครั้งสุดท้าย ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี 4 สิงหาคม 2566
ความคืบหน้าล่าสุด ที่ จ.ราชบุรี แกนนำพรรคก้าวไกลคนสำคัญอย่าง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ, นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นายสุเทพ อู่อ้น, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และสมาชิกพรรคส่วนหนึ่ง ได้มาร่วมพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการถึงจุดยืนของพรรค ก่อนจะโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
โดย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ณ เวลานี้ทางพรรคก้าวไกลยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือสัญญาณใดๆ จากพรรคเพื่อไทยให้เข้าร่วมประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ในทางกลับกันทางพรรคได้รับทราบข่าวดังกล่าวจากทางสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม การที่พรรคก้าวไกลจะได้เป็นฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ ยังไม่สะเทือนใจมากไปกว่า ความผิดหวังที่พี่น้องประชาชนตั้งคำถามว่า “สรุปแล้วเราเลือกตั้งไปทำไม” เป็นความเสียใจ เสียเวลา เสียความรู้สึก เป็นบรรยากาศของความหดหู่สิ้นหวัง
การจะยกมือโหวตให้พรรคเพื่อไทย ก็ต้องดูความชัดเจนก่อนว่า ข้อตกลงใน MOU ที่ทำร่วมกันทั้ง 23 ข้อ อาทิ ปฏิรูปกองทัพ กระจายอำนาจ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ทลายทุนผูกขาด ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่มีนอกเหนือจากมาตรา 112 แล้ว พรรคร่วมจะสามารถให้สัญญากับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ว่า จะยังดำเนินการอยู่ ต้องระบุให้ชัดเจนว่า จะฉีกข้อไหน และทำข้อไหนได้บ้าง
ในวันนี้ทางพรรคสูญเสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานสภาไปแล้ว หากจะต้องสูญเสียการเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล ถูกฉีก MOU ทั้งหมด แล้วจะยกมือโหวตให้ได้อย่างไร เราจะโง่ขนาดนั้นเลยหรือ?
ได้โพสต์ว่า #หลักการ ที่ไม่ใช่ #หลักกู 1. จะปิดสวิตช์ สว.ไม่ใช่การให้ก้าวไกลเสียสละโหวตให้ โดยอ้างว่าไม่มีสองลุงแล้ว 2. จะปิดสวิตช์ สว.ในบริบทการเมืองที่บิดเบี้ยวผิดปกติ เพื่อไทยต้องไปขอพรรคอื่น ๆ ร่วมใจรักษาหลักการโหวตให้ #สภาล่าง ตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากที่มาจากการเลือกตั้งได้สำเร็จ ภาพนี้คือเหตุผลที่เพื่อไทยต้องทบทวน
และได้โพสต์ว่า #เพื่อไทย ให้ข่าวกับสื่อว่า นัดพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมวันที่ 2 ส.ค. แต่กลับไม่มีการติดต่อนัดหมายมายังแกนนำพรรคก้าวไกล ถ้าจะรวมหัวสมคบกัน #ล้มล้างผลการเลือกตั้ง ผลัก #ก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน ก็ควรพูดเป็นรูปธรรมกับพี่น้องประชาชนให้ชัดว่า ยังเหลืออะไรใน MOU ที่จะยอมทำบ้าง ?
------------
ด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองเลขาธิการพรรค เปิดเผยว่า วันนี้เราได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยได้เดินหน้าหาเสียงจากพรรคอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกันออกมาผ่านสื่อต่างๆ แต่ทั้ง 7 พรรคร่วมก่อนหน้านี้ไม่ได้ทราบข้อมูลด้วย
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยควรนำเรื่องที่ไปรวบรวมมาพูดคุยกันบนโต๊ะกับ 8 พรรคร่วม เพื่อให้แต่ละพรรคตัดสินใจร่วมกันว่า จะเดินต่อไปกันอย่างไร การจะให้พรรคก้าวไกลร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ควรหยิบยกขึ้นมาพูดคุยและให้ประชาชนรับทราบ ทางพรรคไม่ติดขัดว่าไปทางไหน พร้อมที่จะทำงาน แต่ขอให้มีความชัดเจน
ซึ่งสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารก็คือ 8 พรรค 312 เสียง เป็นเสียงข้างมากที่สง่างามที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น หากทั้งหมดจับมือกันแน่น ไม่แอบไปเจรจาต่อรองกับใคร 312 เสียง จะสามารถผนึกกำลังจะตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ก่อนเลือกตั้งทุกพรรคมองว่า สว. คือปัญหา แต่หลังเลือกตั้งแต่ละพรรคกลับมีมุมมองที่เปลี่ยนไป จึงทำให้การจัดตั้งรัฐบาลผิดทิศผิดทางไปหมด ทั้งนี้ตนเชื่อว่า ถ้าทุกพรรคยังจัดรัฐบาลตามเสียงสนับสนุนของพี่น้องประชาชน ถ้า สว. ไม่เอาด้วย แรงกดดันทั้งหมดจะอยู่ที่ สว. และประชาชนก็จะรับรู้ว่า สว. คือแรงฉุดรั้งของการจัดตั้งรัฐบาล
------------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LKgiYHgLtYc