'พีมูฟ' ชูข้าวต้มมัด ย้ำ 8 พรรครักกันให้มั่น เคารพเสียงประชาชน ยันรอได้ 10 เดือน ปิดสวิตช์ สว.

วานนี้ (วันที่ 25 ก.ค) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) อ่านแถลงการณ์ยืนยันหลักการ 8 พรรคร่วม ตามเจตนารมณ์ประชาชน พร้อมรอ 10 เดือน ปิดสวิตช์ สว. ณ มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย รามคำแหง กรุงเทพมหานคร โดยแสดงจุดยืน และเรียกร้องต่อพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 8 พรรค รักกันมั่น ไม่ทิ้งกัน และเรียกร้องสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้เคารพเสียงประชาชน

จำนงค์ หนูพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริหารพีมูฟ อ่านแถลงการณ์ระบุว่า

จากการประชุมสภา เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 และ วันที่ 19 ก.ค. 2566 นับเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับภาคประชาชน จากปรากฏการณ์การเปิดประชุมสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากพรรคที่ได้เสียงข้างมากกว่า 14 ล้านเสียงโดยการนำของพรรคก้าวไกล และรวมกันของอีก 7 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ รวมคะแนนได้ 312 เสียง เพื่อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ข้อตกลง MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล 

แต่ถูกสกัดกั้นจากฝั่งผู้มีอำนาจทุกวิถีทาง ทั้งการใช้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และการอภิปรายถึงการแก้ไขมาตรา 112 ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่โจมตีฝั่งตรงข้าม รวมถึงท่าทีของสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่สนับสนุนฝั่งที่ได้เสียงข้างมากขึ้นมาเป็นรัฐบาล

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากกว่า 14 ล้านเสียง ถูกกดดันอย่างหนักจาก สว. และพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการที่ต่างออกปากว่า จะไม่ร่วมรัฐบาล และไม่โหวตให้ หากมีพรรคก้าวไกลร่วม ท่ามกลางความพยายามของพรรคเพื่อไทยในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งทำให้เรากังวลว่า พรรคก้าวไกลอาจถูกบีบออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนั้นการสังฆกรรมกับพรรคฝ่ายเผด็จการ อาทิ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ และชาติไทยพัฒนา ถือเป็นการละเลยเสียงเรียกร้องของประชาชน ที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก การดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่แล้ว

และเกิดกระแสตีกลับไปที่พรรคก้าวไกล ซึ่งเราเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเป็นเกมการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งที่ ความผิดนั้นเป็นของพวก สว. ที่ไม่เคารพเสียงของประชาชน เป็นไส้ติ่งของระบอบเผด็จการ

โดยพีมูฟประกาศจุดยืนและข้อเรียกร้อง ดังนี้

1. พรรคฝั่งประชาธิปไตย ต้องยึดมั่น เคารพเสียงประชาชน ยืนยันตามครรลองตามประชาธิปไตย หากมีความจำเป็น พีมูฟขอยืนยัน รอได้ 10 เดือน เพื่อปิดสวิตช์ สว. เนื่องจากเราอยู่ในรัฐบาล คสช. มา 9 ปี

และรอมาแล้วกว่า 91 ปี นับตั้งแต่การใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรก อยู่ในสังคมที่เสื่อมทรามไร้ความเป็นธรรมมาอย่างยาวนาน เราไม่ต้องการดำรงอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการอีกต่อไป และหากพรรคการเมืองใดคิดจะจับมือฝ่ายสืบทอดอำนาจเผด็จการ เราจะไม่ยอมรับรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม ไม่เคารพ และหักหลังประชาชน

2. เราขอส่งเสียงไปถึงสมาชิกวุฒิสภา ให้ยึดมั่นยืดหลักเคารพและฟังเสียงประชาชน โดยการโหวตสนับสนุนให้พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ที่มาจากเสียงข้างมากและยืนหยัดอุดมการณ์เคารพเสียงประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้ายังไม่เคารพเสียงข้างมากของประชาชนก็ลาออกไปเสีย อย่ามากินภาษีประชาชนอีก

3. เรายืนยันผลักดันการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา เดินหน้ามุ่งสู่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็นมรดกเผด็จการ เป็นกลไกสืบทอดอำนาจที่เหนี่ยวรั้งประเทศให้ถอยหลัง

“เราทนดำรงอยู่อย่างเจ็บปวดภายใต้รัฐบาลเผด็จการ ได้รับผลกระทบหนักท่ามกลางความเหลื่อมล้ำต่ำสูง แบกความหวังในนามประชาชนเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งหวังเปลี่ยนแปลงสังคมไม่ใช่เพื่อให้ใครมาทำลายความหวังในอนาคตที่ดีกว่าของเรา เสียงของพวกเราประชาชนคือเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรมีใครที่จะขัดเจตนารมณ์อันส่งสิทธิ์ของเราได้แม้สักคน เราไม่ยอม!” แถลงการณ์ระบุ

ในระหว่างการอ่านแถลงการณ์ ได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการนำข้าวต้มมัดผูกด้วยเชือกสีส้มและสีแดง 8 มัดมาวางไว้ และถือโลโก้พรรคร่วมตาม MOU 8 พรรค โดยจำนงค์ระบุว่า เป็นการแสดงออกข้อเรียกร้องของพีมูฟว่าพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 8 พรรคต้องรักกันให้มั่น ไม่ทิ้งกัน เหมือนข้าวต้มมัด

“สัญลักษณ์ของข้าวต้มมัด คือการยืนยันว่า 8 พรรคการเมืองต้องรักกันให้เหมือนข้าวต้มมัด ก่อนหน้านั้นก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปไม่ได้เพราะติด สว. ติด กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องรักก้าวไกลให้เหนียวแน่นเหมือนข้าวต้นมัด ไม่สามารถถีบพรรคก้าวไกลออกจากพรรคร่วมได้ ถ้าเพื่อไทยรักประชาธิปไตย ก็ต้องรักก้าวไกลและพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคที่ร่วมลงนามใน MOU ด้วย” จำนงค์กล่าว

-----------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/szRL_vClgO4