เลือกตั้งและการเมือง
'บิ๊กตู่' ยังไม่มีอะไรฝากถึงรัฐบาลใหม่ 'สุชาติ' ซัด 'พิธา' เหมือนเด็กงอแง มีแค่ 14 ล้านเสียง ไม่ถึงครึ่งของผู้มีสิทธิ
โดย nattachat_c
18 พ.ค. 2566
816 views
วานนี้ (17 พ.ค. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่เผยแพร่คลิปขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ว่า เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณประชาชนใช่ไหมล่ะ
ส่วนจะฝากอะไรถึงรัฐบาลชุดใหม่ ที่กำลังฟอร์มทีมอยู่นั้นเห็นว่ายังไม่ใช่เวลา และเรื่องนี้ยังมีกระบวนการอยู่
เมื่อถามย้ำว่า วันนี้อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะมีการพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกันนั้น
พลเอกประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม แต่ยกมือโบกแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธ
สำหรับกรณีที่สังคมกดดัน สว.ให้เลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภาบ้างหรือไม่
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะขึ้นรถกลับ
-------------
วานนี้ (17 พ.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงจุดยืนของพรรค กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ทุกท่านการเมือง โหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผ่าทางตันเพื่อปิดสวิตช์ส.ว. ว่า
ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค รทสช. ซึ่งเป็นเรื่องของพวกเขาเองที่ต้องไปคุยกันเองในช่วงเย็น ขอใจเย็นๆ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่า เมื่อรับรองส.ส.แล้วจะได้จำนวนเท่าใด พร้อมยังว่าคนไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคจึงตอบแทนไม่ได้
แต่ส่วนตัวไม่ได้มีนโยบายหรือความคิดตรงกับพรรคก้าวไกล ผมจะไปอยู่กับเขาได้อย่างไร เขาได้คะแนน 30% ของผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 14 ล้านเสียง ได้ไม่ถึงครึ่ง ต้องถามกลับ
ส่วนที่มากดดันให้ ส.ว.ต้องเคารพเสียงประชาชน
นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องเป็น กระจกเงาสะท้อนกลับไปบ้าง เหมือนเด็กงอแงกินขนม เรียกกินอมยิ้มอย่างเดียว มันต้องดูเหตุและผล ผู้ใหญ่หลายพรรคก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว แต่ละพรรคมีจุดยืน มีนโยบายพรรคของตนเอง เขาจะไปแหกข้อบังคับพรรคเขาอย่างไร
ก่อนจะย้ำว่า แต่ละพรรคมีนโยบายและจุดยืนเป็นของตัวเองที่ไปหาเสียง แม้ประชาชนจะเลือกเขามา 1-2 ล้านเสียง ก็มาเพราะนโยบายนี้ ถ้าไปช่วยคนที่นโยบายไม่เหมือนกัน แล้วจะอยู่กันอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า การที่ ส.ส.จะไม่โหวตให้ ไม่ใช่การไม่เคารพเสียงจากประชาชน ใช่หรือไม่
นายสุชาติ กล่าวว่า เขามีแค่ 14 ล้านเสียง จาก 40 ล้านเสียง แล้วถ้าคนที่เขาเลือกผมมา 4 ล้านเสียง เพราะเขาไม่เอานโยบายพรรคของนายพิธา ถ้าผมโหวตให้นายพิธาแล้วผมจะกลับบ้านได้อย่างไร
พร้อมขอสื่อมวลชนอย่าหลงกลเขา ต้องให้ข่าวความจริงสะท้อนกระจกให้เขาฟัง อย่าให้เขามองว่า เอาตรงนั้นตรงนี้ออกมาช่วย เอาตรงนั้นจะออกมากดดัน คุณมีแค่กี่เปอร์เซ็นต์ มี 14 ล้านเสียง คุณก็ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ มันเป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ
ส่วนที่เอากระแสสังคมมากดดัน ส.ส.และส.ว. จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่
นายสุชาติ ย้ำว่า ต้องให้สื่อมวลชนพูดความจริงกับประชาชนว่า เขามี 14 ล้านเสียง เขาไม่ได้มี 30 ล้านเสียง ถ้าเขาจำเป็นต้องใช้เสียงคนอื่น แต่คนอื่นไม่มีนโยบายตรงกับเขา แล้วจะไปกันอย่างไร เช่น นโยบายเขาไม่เอาลุง แต่ผมมีลุง แล้วจะไปอย่างไร ถูกไหม เพราะคนที่เขาเลือกผมมา ก็เพราะไม่เอาพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้อะไรที่คนไทยรับไม่ได้
ถามย้ำว่า อย่างไรก็รวมกันไม่ได้กับพรรคก้าวไกลแน่นอน ใช่หรือไม่
นายสุชาติ กล่าวว่า การเมืองจะมองเป็นของเล่นไม่ได้ การเมืองคือประเทศชาติบ้านเมือง การเมืองคือพี่น้องประชาชน การเมืองคือความยั่งยืนของลูกหลานเราในอนาคต เราจะมองการเมืองเป็นของเล่นแค่อารมณ์ชั่ววูบ เหมือนไฟไหม้ฟางหรือ มันไม่ใช่นะครับ เราต้องมีอุดมการณ์ที่เข้มแข็งและชัดเจน ไม่ใช่อุดมการณ์ที่จะไปช่วยเขา แล้วมันเกี่ยวอะไร มันไม่เกี่ยวกัน ส่วนตัวมีเอกสิทธิ์ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ทุกคน
เมื่อถามว่า ได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ หากพรรคลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อาจจะมีความวุ่นวายตามมา
นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคลำดับที่ 1 จะต้องไปคิดเอง จริงๆ แล้ว ถ้าเขาได้เกิน 250 เสียง ก็ได้ไป แต่ได้ 151 เสียง ก็ต้องไปขอใคร เขาว่าใครไว้ แล้วใครจะไปยอม แต่ละคนก็มีแฟนคลับ
ส่วนถ้าพรรคไกลไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ แล้วพักอื่นมาชวนไปร่วมรัฐบาล
นายสุชาติ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนพรรคได้
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคลำดับที่ 2 จัดตั้งรัฐบาล แล้วมาชวน จะโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคลำดับที่ 2 หรือไม่
นายสุชาติ ย้อนถามกลับว่า ต้องถามที่จุดยืนของผมก่อน ว่าคืออะไร ผมไม่เอาพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว ถ้าไม่มีนโยบายที่ไปแตะต้องสิ่งที่คนไทยนั้นหวงแหนก็พอแล้ว
ถามย้ำอีกว่า แสดงว่าพร้อมเปิดช่องให้กับพรรคอื่น ยกเว้นพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่
นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องยอมรับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแช่แข็งทางการเมือง เรามองว่าเป็นการแช่แข็งหรือเปล่า ตรงนี้ผมคิดเองนะ แต่ถ้าพรรคก้าวไกลเรียกออกมาช่วยเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ คุณด่าเขาทุกวัน แล้วเขาจะไปอยู่กับคุณได้อย่างไร และต้องกลับไปถามชาวบ้าน เพราะชาวบ้านเรียกเรามา ผมเองก็ต้องกลับไปถามประชาชน ไม่ได้พูดเล่นนะ
ถามว่า พรรคจะโหวตนายกรัฐมนตรีไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่
นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว แต่ขอย้ำว่า ต้องกลับไปถามประชาชน
อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ ยังกล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า
สื่อมวลชนต้องช่วยกัน อย่าไปหลงกลเขา ว่ามี 14 ล้านเสียง แล้วเป็นรัฐบาล เขามีเสียงถึงกึ่งหนึ่งหรือไม่ และต้องถามกลับว่า คุณจะรวมเสียงอย่างไรต้องไปหากันเอง แต่ถ้าจะมากดดันส.ส. แต่ถ้าจะมาเรียกร้อง ส.ส.พรรคต่างๆ โหวตให้เขาผ่าน ผมว่ามันไม่ใช่แล้ว แบบนี้มันไม่ใช่การเมือง
------------
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความโต้ นายสุชาติ ระบุว่า
"พวกคุณกับ ส.ว.นี่แหละงอแง ไม่รู้จักแพ้ ไม่รู้จักแม้แต่ประชาชน ฝ่ายค้านเดิมเกิน 300 เสียง ประยุทธ์ประวิตรคุยกันเลิกคิดตั้งเสียงข้างน้อย ประกาศยอมรับผลเลือกตั้ง นำ 2 พรรค ยกมือหนุนพิธาเป็นนายกฯ แล้วเป็นฝ่ายค้าน ทั้ง 2 คน พากันกลับบ้าน ถ้าทำอะไรไม่ถูกไว้ ก็เตรียมรับผิดชอบ ประเทศจะได้เดินต่อ"
------------