‘โทนี่’ มั่นใจ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ทำหน้าที่นายกฯได้ดีกว่าพ่อ เชื่อการตัดสินใจลูกสาว ชี้ครอบครองได้แต่ครอบงำไม่ได้

“ทักษิณ” เชื่อหาก “อุ๊งอิ๊ง” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ได้ดี บอกครอบครองได้แต่ครอบงำไม่ได้ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับลูกสาว มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อไทยใครก็ได้เหมาะนั่งนายกฯทุกคน 

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวช่วงหนึ่งในไลฟ์ของกลุ่มแคร์ถึงกระแสพรรคเพื่อไทยที่แรงขึ้นอย่างต่อเนื่องว่าการที่คนจะเลือกพรรคเพื่อไทยวันนี้กระแสแรงคล้ายกับตอนที่ตนเองได้ 377 เสียง แต่ก็มีความต่างเพราะตอนนั้นคนอยากให้ตนอยู่ต่อแต่ตอนนี้ คนอยากให้รัฐบาลไปเสียที จึงไม่แปลกใจหากพรรคเพื่อไทยจะได้ 300 เสียง

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้ 310 เสียงขึ้นไปในฐานะเป็นพ่อของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เชื่อว่านางสาวแพทองธารจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายทักษิณ มั่นใจว่านางสาวแพทองธารจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ดี แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับนางสาวแพทองธารต้องเป็นคนเลือกเองว่าจะเป็นหรือไม่เป็น ต้นครอบครองในฐานะเป็นพ่อได้แต่ไม่สามารถครอบงำไม่ได้

เพราะนางสาวแพทองธารโตแล้วคิดเองได้ และก็มีครอบครัวแล้ว ตนไม่ชี้นำ แต่สิ่งที่นางสาวแพทองธารทุ่มเทการทำงานให้กับพรรคเพื่อไทยทั้งที่ท้องแก่ ก็ยังขยัน ตนจึงรู้สึก graceful มาก และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็ graceful กับนางสาวแพทองธารเช่นกัน เพราะ นางสาวแพรทองธารมีคาแรกเตอร์บางอย่างที่ตนไม่มีเนื่องจากได้ดีเอ็นเอมาจากแม่ และบางอย่างนางสาวแพทองธารก็ทำได้ดีกว่าตน


นายทักษิณยังย้ำถึงนางสาวแพทองธารว่าสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือก ตั้งแต่ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีทั้งหมด 3 คนซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 5 เมษายนนี้

ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า หลายคนมองว่านายเศรษฐาเหมือนตนตอนเข้ามาเล่นการเมืองใหม่ๆ เป็นนักธุรกิจสไตล์ ทำงานมีเป้าหมาย แล้วก็ตรงเป็นขวานผ่าซากเหมือนตอนแรกที่ตนเข้าพรรคพลังธรรม แรงแบบเดียวกันเลยแต่ตอนหลังค่อยเบาลง


ซึ่งตนเชื่อว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้ง3 คน ใคร ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะนางสาวแพทองธารเล่าให้ฟังว่า ทั้งสามคนคนละคาแรกเตอร์ มีความชำนาญคนละด้าน หากใครคนนึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่เหลือต้องคอยช่วยเหลือ โดยนางสาวแพทองธารมีความชำนาญด้านการเมืองมานาน เพราะเรียนรู้เรื่องการเมืองกับตนเองมาตั้งแต่เด็กจึงมี empathy สูง และมีความเป็นคนรุ่นใหม่เข้าใจเทคโนโลยี

ส่วนนายเศรษฐามีความถนัดด้านเศรษฐกิจและธุรกิจและการหารายได้  ขณะที่อีกคนยังไม่บอกว่าเป็นใครแต่จะเป็นคนละคาแรกเตอร์กันซึ่งไม่ใช่นักธุรกิจเหมือนอย่างนายเศรษฐา เมื่อถึงเวลาทำงานหากใครได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่เหลือก็จะมาช่วยเหลือกัน ช่วยคิดและช่วยให้แนวทาง ก็เลยไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะปกติแล้วต่างคนต่างจะแย่งกันแต่ครั้งนี้ต่างคนต่างเสียสละให้กัน

“ ตนถามน้องอิงค์น้องอิงค์ก็บอกว่าให้พี่นิดเป็นเถอะพี่นิดเค้าเก่ง ส่วนนิดก็บอกว่าน้องอิงค์เหมาะมาก ต่างคนต่างบอกใครก็ได้แล้วมาช่วยกัน สงสัยต้องให้พรรคเพื่อไทยจับฉลาก”

เมื่อถามย้ำถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย คือใคร เพื่อให้นายทักษิณวิเคราะห์ถึงคุณสมบัติในฐานะรุ่นพี่ที่เป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณย้ำว่าตนก็ยังไม่รู้ ก่อนจะกล่าวติดตลกว่าตนเป็นรุ่นพ่อนายกแล้ว

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/JxmO_P5RG_g