เลือกตั้งและการเมือง

'ทิพานัน' ซัดกลับ พท.ใครกันแน่ที่ขายชาติ 'สิระ-ปารีณา' ประสานเสียงค้านขายที่ดินให้ต่างชาติ

โดย nattachat_c

31 ต.ค. 2565

36 views

จากกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ต.ค. มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … โดย

  • ต้องนำเงินมาลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในธุรกิจหรือกิจการตามที่ร่างกฎกระทรวงกำหนด
  • ต้องคงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี
  • ขอใช้สิทธิถือครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่


พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงเรื่อง การซื้อที่ดินของคนต่างด้าวที่รัฐบาลผลักดัน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยวิตกกังวล และไม่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงที่รัฐบาลจะออกตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ เนื่องจากการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว จะมีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยอย่างกว้างขวาง  


เนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 ในเรื่องเดียวกันนั้น มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลังปี 2545 มีต่างชาติ สามารถซื้อที่ดินได้เพียง 8 ราย แต่ของปี 2565 จะทำให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินได้มากขึ้น เพราะซื้อได้ง่ายกว่า

-------------

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงเรื่องการซื้อที่ดินของคนต่างด้าวว่า ในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว การให้สิทธิคนต่างด้าวถือครองที่ดิน 1 ไร่นั้น มีเงื่อนไขที่สำคัญคือ ต้องเป็นคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa เท่านั้น คือ


1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง คือ มีทรัพย์สินอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญสหรัฐ, มีรายได้ส่วนบุคคลขั้นต่ำ 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการลงทุนในไทยอย่างน้อย 500,000 เหรียญสหรัฐ


2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ คือ มีอายุ 50 ปีขึ้นไปที่รับเงินบำนาญ และมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี หรือมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และมีการลงทุนในไทยอย่างน้อย 250,000 เหรียญสหรัฐ


3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทยคือ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปีและจบการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A ในธุรกิจไม่น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ, ทำงานในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 3 ปีที่ผ่านมา และมีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี


4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ คือ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา, มีสัญญาจ้างทำงานมีทักษะเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี


ทั้งนี้ กลุ่มต่างด้าวทั้ง 4 กลุ่มต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศ ไทยไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ


น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ดังนั้น จากหลักเกณฑ์เข้มงวด ที่ต้องเป็น LTR Visa ก่อนมีที่ดิน จึงมีการลดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุนลงจาก 5 ปีเหลือ 3 ปี เพื่อจูงใจบุคคลที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทนี้มาลงทุน  จึงไม่ได้ลดเพื่อให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ง่ายขึ้น  แต่กลับคัดกรองคนคุณภาพเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมกับเงินลงทุน  40 ล้านบาท และหากผิดเงื่อนไขในรายละเอียดที่กำหนดจะต้องมีการขายคืนที่ดิน  ทั้งนี้กลุ่มบุคคลนี้จะนำเม็ดเงินเข้าประเทศ และเกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้น และเพิ่มการกระจายรายได้เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สร้างรายได้ต่อเนื่องให้คนไทยในทุกกิจกรรมที่กลุ่มนี้พำนักอยู่ มีศักยภาพถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนไทย จะส่งผลให้เกิดการลงทุนมากขึ้นและเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ


น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ในส่วนที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่า “เนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 ในเรื่องเดียวกันนั้น มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า” นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะกฎกระทรวงปี 2545 อนุญาตให้ “คนต่างด้าวทุกคน” ที่มีเงิน 40 ล้านบาทก็ซื้อที่ดินได้แล้ว  แต่ร่างกฎกระทรวงปี 2565 ใหม่นี้ อนุญาตให้เฉพาะ “คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa” เท่านั้น รัฐบาลยังถามความเห็นไปหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้ยืนยันวิเคราะห์ว่า หลักการในร่างกฎกระทรวงปี 2565 “ไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน ทั้งด้านการกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และไม่เพิ่มแรงกดดันให้ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นอกจากนี้ ที่ดินที่อนุญาตให้ซื้อเป็นที่ดินมีพื้นที่กำหนดชัดเจน


“ลักษณะการกระตุ้น และจูงใจต่างชาติเข้าลงทุนแบบนี้ ในต่างประเทศก็มีเช่นกัน ซึ่งสิทธิประโยชน์แต่ละที่ก็แตกต่างกันไป ซึ่งหลายประเทศก็จูงใจนักลงทุนสามารถขอถือสิทธิการพำนักอาศัยถาวร จนเป็นสิทธิพลเมืองนั้นได้” น.ส.ทิพานันกล่าว


น.ส.ทิพานันกล่าวอีกว่า สิ่งที่สังคมสงสัยคือ กฎกระทรวงนี้ก็มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทย และที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ากฎกระทรวงปี 2545 ออกเพราะผลกระทบจากวิกฤตต้มยำกุ้ง และการชำระหนี้ไอเอ็มเอฟนั้น หากเป็นไปตามคำกล่าวอ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทำไมไม่เคยให้ความสำคัญปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงฯ เรื่องถือครองที่ดินในช่วงระหว่างปี 2545-2560 เลยทั้งที่ในช่วงนั้นพรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล แต่วันนี้กลับมาบอกว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะแก้ได้ดีกว่านี้ แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นในช่วงนั้นคือ พรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมหมกมุ่นให้ความสำคัญแต่กับการแก้ไข พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย เสียมากกว่า


“แต่ในทางตรงกันข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พิจารณาและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบให้ทันสมัย และเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างรัดกุม และเพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสมอ และยังเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 77 ที่บัญญัติให้ รัฐยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจําเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิต หรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้าเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน” น.ส.ทิพานันกล่าว


น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นได้ เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเสมอมา ไม่เคยมีนโยบายขายชาติ ไม่เคยมีการเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติเพื่อผลประโยชน์ใดๆ รัฐบาลนี้มีแต่ทำประโยชน์ให้คนไทย พัฒนาหารายได้ และฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาวะวิกฤต พร้อมมุ่งจัดสรรที่ดิน และคืนสิทธิที่ดินทำกินให้กับพี่น้องเกษตรกร และยังเดินหน้าสร้างโครงการที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


“อยากให้พรรคเพื่อไทยทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ นายกฯที่กอบกู้ชาติ มาจากนายกฯขายชาติ อันมีพฤติการณ์เช่น ฮั้วต่างชาติโกงโครงการรับจำนำข้าวจนชาวนาไทยเสียชีวิต และทรัพย์สิน โกงบ้านเอื้ออาทรจนประชาชนไม่มีที่อยู่ อนุมัติเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เมียนมาโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน ตรงนี้ต่างหากคือนิยามของนายกฯขายชาติ”

-------------

นายวิโรจน์ ระบุว่าในปัจจุบันการถือครองที่ดิน อาคาร และกิจการของชาวต่างชาติ มีการใช้คนไทยมาเป็นตัวแทน หรือ “นอมินี” กันเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว จึงไม่ได้กังวลว่านโยบายนี้จะเป็นการ “ขายชาติ” ได้แบบเทน้ำเทท่า แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่า คือการนำไปสู่ความต้องการซื้อที่ดินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบให้คนไทยต้องซื้อที่ดินในราคาที่แพงขึ้น เป็นเจ้าของที่ดินได้ยากลำบากมากขึ้น


นอกจากนี้ อาจจะทำให้เกิดการตั้งบริษัทนอมินีที่เอารัดเอาเปรียบคนไทยมากขึ้น ในลักษณะของการทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้าง เพื่อสร้างบ้านขายชาวต่างชาติเดียวกัน โดยที่คนไทยได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยจากการจ้างงานพื้นฐานเท่านั้น


นายวิโรจน์ ยังระบุอีกว่า ตัวเองไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวางการลงทุนจากต่างประเทศ เพียงแต่ต้องการให้การลงทุนจากชาวต่างชาติมีความเป็นธรรมกับคนไทย ทั้งการจ้างงาน การจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์ การพัฒนาธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานที่ต่อเนื่อง และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพราะทุกวันนี้บริษัทนอมินีต่างๆ ก็ไม่มีกลไกจากภาครัฐในการควบคุมดูแลอยู่แล้ว อย่างที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทุกวันนี้นักลงทุนชาวจีนมาเปิดบริษัทนอมินีร่วมกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ยึดครองธุรกิจต่างๆ แบบกินรวบ จนเม็ดเงินก้อนใหญ่จากการท่องเที่ยวไปตกอยู่ที่นักลงทุนชาวจีน โดยที่คนเชียงใหม่ได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น


“ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการควบคุมการลงทุนจากชาวต่างชาติให้มีความเป็นธรรม ไม่มีระบบนอมินี การจะให้สิทธิชาวต่างชาติซื้อที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ผมคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย แต่ถ้ารัฐบาลยังคงปล่อยปละละเลยอย่างที่เป็นอยู่ ในที่สุด ก็จะเกิดบริษัทนอมินีมาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ทำเองขายเองให้กับชาวต่างชาติ ชาติเดียวกันแล้วก็ขนเงินขนกำไรกลับประเทศ ในขณะที่คนไทยได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจน้อยมาก หนำซ้ำยังอาจจะได้รับผลกระทบจากราคาที่ดินที่แพงขึ้นอีกด้วย” นายวิโรจน์กล่าว

-------------

นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนขอพูดในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับมติ ครม. ให้ชาวต่างชาติลงทุนในไทย 40 ล้านบาท 3 ปี สามารถซื้อที่ดินไทยได้ 1 ไร่ ไม่ว่าจะลงทุนของตั๋วแลกเงินหรือฝากเงิน


ซึ่งตนเห็นว่าแผ่นดินไทยต้องเป็นของคนไทย ที่ผ่านมาตนรู้อยู่แล้วว่าจะมีกรณีแบบนี้ แต่ไม่ใช่ลักษณะขายแผ่นดินแบบนี้ อยากจะฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทบทวนมติครม.ให้รอบคอบมากกว่านี้ และอยากให้ฟังความเห็นจากประชาชนก่อนไม่ใช่มัดมือชก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศชาติ เกี่ยวกับคนทั้งประเทศ ตนคิดว่าไม่ยุติธรรมกับแผ่นดินไทย ที่บรรพบุรุษใช้เลือดเนื้อเข้าแลกมา เพื่อให้เรามีประเทศนี้ แต่รัฐบาลกลับมาทำแบบเรื่องนี้ ตนจะคัดค้านให้ถึงที่สุด


“ผมจะไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ตรวจสอบมติครม.ดังกล่าวขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้นำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณามีผลดี ผลเสียอย่างไร และ อยากให้ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผมจะได้รวบรวมข้อมูลความคิดเห็น เพื่อส่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯต่อไป” นายสิระ กล่าว


นายสิระ ระบุด้วยว่า อยากถามว่า ในวันหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นปราศรัยให้คำมั่นสัญญาว่า “แผ่นดินนี้ให้ผมเกิด ให้ผมกินอยู่ ให้ผมหลับนอน ให้ผมมีอาชีพ ผมต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้กับลูกหลานในอนาคต” ท่านยังจำคำพูดตัวเองได้หรือไม่ แล้วทำไมมติครม.ถึงทำสวนทางกับสิ่งที่พูดไว้ หรือความจำเสื่อมไปหมดแล้ว


นายสิระ ยังกล่าวฝากถึงนายกฯว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทีมเศรษฐกิจเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาล้มเหลว ผิดพลาด ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษกิจสำเร็จเป็นรูปธรรมเลย มีแต่เสนอให้กู้เงินอย่างเดียว รวมทั้งเรื่องล่าสุดให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้อีก ทั้งที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายอย่าง แต่ทีมเศรษฐกิจคิดไม่เป็น ควรจะพิจารณาตัวเองลาออกไปได้แล้ว อย่าอยู่ขวางคนอื่นที่เขามีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานแทนดีกว่า

-------------

วันที่ 29 ตุลาคม น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีเสียงวิจารณ์ต่อร่างกฎกระทรวงอนุญาตให้คนต่างชาติถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แลกกับนำเงินมาลงทุนในไทยอย่างน้อย 40 ล้านบาท ว่า “เป็นการเปิดช่องให้มีนอมินีทุนต่างชาติเข้ามาใช้สิทธิซื้อที่ดิน หรือมีการปลอมแปลงข้อมูลเพื่อให้เข้าเงื่อนไขใช้สิทธิได้หรือไม่ ว่า


เมื่อประชาชนไม่ต้องการแลกเงินลงทุนจากต่างชาติกับผืนแผ่นดินไทย สละไม่เอาเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และสละได้แม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้ลูกหลานเรา อย่างที่บรรพบุรุษไทยเคยทำกันมา


อนาคต… ถึงลูกหลานจะสามารถอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย แต่มันคือการ… เช่า …ที่มีนายกกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นต่างชาติ จึงขอให้นายกฯด้วยโปรดฟังเสียงประชาชน


รักเธอประเทศไทย”

จากใจสลิ่มชื่อปารีณา ที่จะเป็น fc พลเอกประยุทธ์ตลอดชีวิต

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ptT5CMDXLmk

คุณอาจสนใจ

Related News