'บิ๊กตู่' ลั่นต้องแข็งกร้าว เพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับประเทศ เสียเพื่อน เสียมิตร ก็ต้อมยอม

เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (27 ต.ค. 65) พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายก​รัฐมนตรี มีงานนอกทำเนียบรัฐบาล ไป​ร่วมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "Accelerating Thailand เร่งเครื่องประเทศไทย" หลักๆ เป็นการโชว์วิสัยทัศน์ผลงานที่ผ่านมา ใช้เวลากว่า 30 นาที

ท่านนายกฯ ย้ำว่า หลักการสำคัญที่เป็นแนวทางการทำงาน สรุปได้ในสามคำ คือ "ทำให้สำเร็จ" (GET THINGS DONE) โดยมุ่งเป้า ยกระดับความมั่งคั่งไปทั้งประเทศ ยกระดับความรุ่งเรืองไปทุกพื้นที่ ทำเรื่องที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคนทุกระดับในสังคม บนเส้นทางที่ยั่งยืน

โดยมีการชูกลยุทธ์ 3 แกนสร้างอนาคต คือ โครงสร้างพื้นฐาน / อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และภาคการธนาคาร

อย่าง อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ท่านนายกฯ ย้ำว่า ได้ขับเคลื่อนสุดกำลัง และตั้งเป้าที่จะทำให้สำเร็จเรียบร้อย ภายในไม่เกิน 12 เดือนข้างหน้านี้ และเมื่อเราทำสำเร็จ "ก็เหมือนเราเร่งเครื่องผ่านเนินเขาช่วงที่ชันที่สุดไปได้ แล้วประเทศไทยก็จะวิ่งต่อไปข้างหน้า สู่การเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก"

ทุกคนทราบกันดีว่าการสร้างความมั่งคั่งให้แผ่กระจายไปทั่ว อย่างกว้างขวางไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการแบบเร่งรีบ ฉาบฉวยหรือการแจกเงิน แต่ต้องทำให้ประเทศมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง มีสิ่งพิสูจน์ ให้เห็นมาแล้วเป็นร้อยๆ ปีว่า คือวิธีการที่ดีที่สุดในการเร่งสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน ในทุกระดับของประเทศ

ได้ริเริ่มโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เป็นโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง เมื่อทุกส่วนแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะเป็นการเปิดประตูเดินหน้าสู่ช่วงเวลาที่จะเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองที่สุด ยุคหนึ่งของประเทศไทย โครงสร้างพื้นฐานระบบรางเดินหน้ามาได้ไกลมาก

เช่นเดียวกับการสร้างระบบรางที่ทันสมัยสำหรับประเทศไทย ในเวลาแค่ 5 ปีที่ผ่านมาได้ก่อสร้างเส้นทางรถไฟ เป็นระยะทางมากกว่าระยะทางทั้งหมดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ใช้เวลา 50 ปีกว่าจะสร้างเสร็จ และกำลังสร้างเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จะเปิดให้บริการได้ในอีก 3 ปี

นอกจากนี้ เรื่องของโครงสร้างพื้นฐานระบบราง "ผมจะทำให้ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองของกรุงเทพฯ อยู่ในระดับเดียวกับที่โตเกียว และใกล้เคียงกับที่ลอนดอน"

นอกจากนี้ ท่านนายกฯ พูดถึงการทำงาน ชี้ว่าเสียงวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ เราไม่ควรเสียสมาธิไปจากเรื่องใหญ่ที่สำคัญ เพราะไม่มีอะไรมาทดแทนผลงานจริงได้

อีกทั้ง ระบุว่า "การที่เราจะเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ ต้องมีความอดทน และเข้าใจ เมื่อผลที่ได้อาจจะไม่เพอร์เฟกต์ หลายคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจ แต่เป็นวิธีการบริหารที่ผมเชื่อว่า สังคมจะเดินหน้าไปได้โดยไม่ทิ้งรอยแตกร้าวระหว่างคนกลุ่มต่างๆ"

ช่วงหนึ่ง ท่านนายกฯ บอกว่า "ผมตระหนักดีว่า บางครั้งความแข็งกร้าว ทำให้ต้องเสียเพื่อน เสียมิตร แต่เป็นสิ่งที่ผมต้องยอมแลก เพื่อจะทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับประเทศ ให้เกิดขึ้นจริงให้ได้"

----------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/xBba5v44BOc