'ทักษิณ' ชำแหละปัญหายาเสพติด ซัด '3 ป.' หมดไฟ นั่งขวางยึดอำนาจ ทำประเทศเสียโอกาส

วานนี้ (11 ต.ค. 65) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงเรื่องการปราบปรามยาเสพติดและการควบคุมอาวุธ ในไลฟ์เฟซบุ๊กของกลุ่ม แคร์ คิด เคลื่อน ไทย

โดยเรื่องปืน อดีตนายกฯทักษิณ ระบุว่า มาพังตอนสมัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้โควต้าสั่งซื้อปืนสวัสดิการกับข้าราชการ ทำให้ปัจจุบันไทยมีการครอบครองปืนถึง 10.3 ล้านกระบอก เป็นปืนเถื่อน 40% และอัตราการครอบครองปืนของไทยเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนเป็นอันดับ 13 ของโลก

จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีเร่งจัดการเรื่องปืนเถื่อนโดยเร็วที่สุด โดยหยุดการนำเข้าปืนและระดมกวาดล้างปืนเถือนโดยให้โอกาสคนที่มีปืนเถื่อนให้นำมามอบให้เจ้าหน้าที่รัฐในเวลาที่กำหนด หากเกินกำหนดก็จะถูกดำเนินคดี แล้วให้รางวัลกับตำรวจที่จับปืนเถื่อน จากนั้นค่อยไปจัดการกับคนที่มีใบอนุญาตซึ่งอาจต้องจำกัดจำนวน

ส่วนเรื่องยาเสพติด อดีตนายกฯทักษิณ กล่าวว่า ขอยกคำพูดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค มาใช้โดยมองว่าส่วนหนึ่งของปัญหายาเสพติดเกิดจากเรื่องการซื้อขายตำแหน่งงาน ทำให้ตำรวจวิ่งเต้นหาเงินมาซื้อขายตำแหน่ง จึงต้องไปหากินกับ บ่อน ซ่อง หวย และยาเสพติด ซึ่งสมัยที่ตนเองเป็นนายกฯ มีการให้รางวัลนำจับเรื่อง ยาเสพติด แล้วนำมาเผาทำลาย แต่สมัยนี้ไม่เห็นว่ามีการเผาทำลายยาเสพติด จึงตั้งข้อสังเกตมีการเวียนเทียนกลับมาหรือไม่แต่ตนไม่ด่าฝ่ายตำรวจแต่จะด่าฝ่ายการเมืองที่หากินกับการโยกย้ายตำรวจ

และอีกปัจจัยคือความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ ทำให้คนมารับจ้างเดินยา วันนี้นายกฯต้องจัดการเรื่องซื้อขายตำแหน่งแม้ปัจจุบันจะน้อยลงแต่ก็ยังมีอยู่แต่ 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลแบบเช้าชามเย็นชามไม่มีการบริหารจัดการ

อดีตนายกฯทักษิณ กล่าวอีกว่าหลักการจัดการปัญหายาเสพติดต้องจัดการด้านอุปทานก่อน แล้วนำผู้เสพมาบำบัด รวมถึงปิดต้นทางการพ่อค้ายา โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน หากรู้ว่ามีแหล่งผลิตอยู่รอบประเทศจะต้องมีการเจราจากับประเทศผู้นำประเทศนั้นๆ ให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆแลกกับปิดเส้นทางการส่งยาเสพติดเข้ามาในไทย พร้อมกันนี้อดีตนายกทักษิณได้เล่าถึงวิธีการจัดการกับปัญหายาเสพติด และวันพรุ่งนี้ที่นายกรัฐมนตรีจะมีการประชุมเรื่องยาเสพติดสามารถนำวิธีการของตนไปใช้ได้ หรือหากทำไม่ได้หรือไม่ไหวให้ตนไปช่วยได้มั่นใจภายใน6เดือนเอาอยู่

อดีตนายกฯทักษิณ ยอมรับว่าการปิดเส้นทางของพ่อค้ายาทำให้มีส่วนหนึ่งมารวมกับกลุ่มพันธมิตรมาขับไล่ตนเอง

ทั้งนี้มีอยู่ช่วงหนึ่งโชว์หลักฐานว่าได้รับ SMS จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับสิทธ์กู้เงิน ซึ่งอดีตนายกฯทักษิณ บอกว่าเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ มีคอรัปชั่น และคนมองไม่เห็นโอกาส ดังนั้นจึงเป็นงานยากของรัฐบาลหน้าที่จะต้องมาแก้ปัญหา แต่เชื่อมือพรรคเพื่อไทยว่าสามารถแก้ได้

พร้อมกันนี้อดีตนายกฯทักษิณยังได้นำข้อความของพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิตร และพลเอกอนุพงษ์ พูดถึงเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดและปัญหาต่อเนื่องจนเกิดเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู เช่น บอกว่ามี "ร้อยนายกก็แก้ไม่ได้" / "จะทำอย่างไรก็คนมันติดยา" หรือ "ต้องให้ครูพกปืน"  ซึ่งจากคำพูดของทั้งสามคนมองว่าหมดไฟในการบริหารประเทศแล้ว และไม่ควรนั่งขวางอยู่ในอำนาจต่อ เสียดายโอกาสประเทศ ควรเปิดโอกาสให้คนใหม่เข้ามาบริหารแทน

อดีตนายกฯทักษิณ ยังกล่าวถึงข้อกล่าวว่าเรื่องฆ่าตัดตอน ในสมัยเป็นรัฐบาลจัดการปัญหากับยาเสพติด และถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยยืนยันไม่มีการฆ่าตัดตอนซึ่งขณะนั้นมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ผลสอบก็ออกมาว่าตนไม่ได้มีการสั่งฆ่าตัดตอนใครเลย และส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชน ยันเคารพสิทธิ ไม่ได้ละเมิด แต่การจัดการให้สังคมมีระเบียบเป็นเรื่องสำคัญ

อดีตนายกฯทักษิณ ยังพูดถึงการเปิดรับบริจาคของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู ขณะเดียวกัน กรณีที่หน่วยงานภาครัฐมีการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา โดยมีการขึ้นป้ายให้เห็นชัดเจนว่า แต่ละหน่วยงานได้บริจาคช่วยเหลือกันคนละเท่าไร เหมือนกับเป็นการโฆษณาห้างร้าน ส่วนเงินที่รัฐบาลกู้มาแต่ละครั้งนำไปทำอะไร ถึงไม่มีเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาส่วนนี้

ทั้งที่เรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่ จ.ภูเก็ต ชดเชยให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท แต่ให้ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงได้รับรายละ 2 แสนบาท มันน่าเกลียด คิดว่าควรจะให้ครอบครัวเหยื่อรายละ 1 ล้านบาท ตนรู้สึกสงสารอย่างมากเรื่องเปิดรับบริจาคอย่าทำเลย เพราะสะท้อนถึงความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/JLzK-DEvQ7g