2 กลุ่มนัดรวมตัว ฟังคำตัดสิน นายกฯ 8 ปี - นักวิชาการวิเคราะห์ 'ทิศทางการเมืองไทย' หลังศาลชี้ชะตา 'ประยุทธ์'

วานนี้ (29 ก.ย. 65) นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ได้ลงนามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณ หรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

เพื่อให้กระบวนการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงออกประกาศกำหนดให้อาณาบริเวณหรือพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ตามแนวเขตเป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน

และห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงาน หรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและค;ามสงบเรียบร้อย

มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน เวลา 19.00 น. ถึงวันที่ 3 ตุลาคม เวลา 06.00 น.

-------------
ในวันนี้ (30 ก.ย. 65) จะมีกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม คือ

• กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มีการกิจกรรมตั้งทีวีถ่ายทอดสดติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ บริเวณสกายวอล์ก ปทุมวัน บ่ายสองโมง และอาจมีรอบสี่โมงเย็น
• คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา) จัดกิจกรรมชุมนุมบริเวณด้านข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ห้าโมงเย็น

------------

รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ถึง ทิศทางการเมืองไทย จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมวาระ 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งในมุมที่พ้นจากตำแหน่ง และกรณีไม่พ้นจากตำแหน่ง

กรณี พลเอกประยุทธ์ ไม่พ้นจากตำแหน่ง

สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป แต่จะเกิดแรงกระเพื่อมในฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง โดยเฉพาะในพรรคพลังประชารัฐ และการมีพรรคใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์แทน จะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อที่พลเอกประยุทธ์จะสามารถทำหน้าที่ได้ไปจนครบวาระ ในปี 2566

โดยอาจจะไม่มีการยุบสภา ตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง เพราะมีหมุดหมายที่จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคได้อย่างภาคภูมิ รวมถึงเป็นหนึ่งไปประวัติศาสตร์ของการเลือกตั้ง ในการทำหน้าที่รัฐบาลอยู่ครบวาระแบบรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร 

ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง เชื่อว่ามีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่โอกาสจะจุดติดเป็นไปได้อยาก เพราะเป็นช่วงที่รู้อยู่แล้วว่า อยู่ในช่วงที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในปี 2566 อีกทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านอาจจะไม่ออกมาสนับสนุนการประท้วง เพราะต้องการให้อยู่ในกติกาทางการเมือง ไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไขของการรัฐประหาร อีกทั้งฝ่ายค้านยังหวังด้วยว่า จะมีโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งครั้งหน้า

หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าพลเอกประยุทธ์ไม่รอด

รัฐบาลทั้งคณะก็กลายเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ โดยที่พลเอกประยุทธ์อาจจะไม่เลือกเป็นนายกฯรักษาการ พลเอกประวิตรก็จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าสภาจะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งมีโอกาสสูงที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีพรรคการเมือง เพราะมีบทบาทคุมเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา

แต่พลเอกประวิตร มีแนวโน้มที่จะทำหน้าที่ไปเพียงระยะหนึ่ง และจะยุบสภา เมื่อพรรคพลังประชารัฐพร้อมสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดการขยับขยายทางการเมือง หากพรรคพลังประชารัฐมั่นใจในเสียงของบ้านใหญ่ ทำให้การเลือกตั้งอาจเกิดได้ไวขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร

ดร.สิริพรรณ ยังกังวลถึงสถานการณ์ที่จะเกิดจากปัญหาของกติกาในการเลือกตั้ง ที่จะนำมาสู่สุญญากาศทางการเมืองได้

หากร่างกฎหมายเลือกตั้งที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้ มีปัญหาบังคับใช้ไม่ทันเดือน ต.ค. นี้ ทิศทางการเลือกตั้งอาจจะสะดุดลง เพราะอย่าลืมว่า ภายใต้กติกาสูตรหาร 100 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคพลังประชารัฐไม่ได้เปรียบ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐจะยอมเสี่ยงเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ที่ตัวเองไม่มีโอกาสชนะหรือไม่

“ถ้าเขาไม่มั่นใจ ว่าเขาจะกลับมาได้ เขาจะใช้เครื่องมือไหนในการชะลอการเลือกตั้ง ดังนั้น สัญญาณของการจะมีเลือกตั้งหรือไม่ จะต้องดูว่าร่างกฎหมายเลือกตั้งจะผ่านภายในเดือน ต.ค.หรือเปล่า”

ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้งสูตรหาร 100 และสูตรหาร 500 ผิดรัฐธรรมนูญทั้งคู่ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะนำไปสู่การแก้รัฐรรมนูญอีกรอบ ซึ่งจะใช้เวลานานและจะไม่ทันไทม์ไลน์เลือกตั้งที่ กกต. กำหนด

ในขณะที่สภาก็ครบวาระ แต่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ จะเกิดสุญญากาศทางการเมืองโดยตั้งใจ ที่รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้มีบทบัญญัติให้ตีความไว้ได้ และจะกลับไปสู่อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญอีกรอบ เพื่อเป็นข้ออ้างชะลอการเลือกตั้ง

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mD9ZUVmMOts