เลือกตั้งและการเมือง

กมธ.กาสิโน ชูผลโพลประชาชนหนุน 80.67% คาดเสนอปธ.สภาภายใน 27 ก.ค.

โดย paranee_s

6 ก.ค. 2565

72 views

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้าหลังจากได้เดินทางไปศึกษางานและจัดสัมมนาในพื้นที่ต่างๆ คือ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.65 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก, ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25-26 มิ.ย.65 ที่ จ.เชียงราย และ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2-3 ก.ค.65 ที่ จ.สระแก้ว


โดยสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 5 ประเด็น ได้แก่

1.ด้านความมั่นคง และมาตรการป้องกันการพนันผิดกฎหมายในภาพรวม และด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแนวทางการควบคุมการบริหารจัดการการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรฯ

2.ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการจัดเก็บรายได้และภาษีจากการเปิดดังกล่าว

3.ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ความคุ้มค่าในการลงทุน และความเหมาะสมเกี่ยวกับสถานที่ ภูมิศาสตร์ในการเปิด

4.ด้านมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบเชิงวัฒนธรรมจากการเปิด

5.ด้านความคุ้มค่าในการลงทุนรูปแบบการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และรูปแบบธุรกิจ Gaming ที่เหมาะสม ทั้ง ออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจของประเทศไทย


นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้มอบหมาย ให้คณะทำงานจัดทำรายงาน ไปสำรวจเก็บแบบสอบถาม และสัมภาษณ์เชิงลึกในพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการจัดทำรายงาน โดยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร พบว่า เห็นด้วย 80.67%


แบ่งเป็นเหตุผลด้านเศรษฐกิจ โดยมองว่าคนในพื้นที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 69.33% เกิดการลงทุนในพื้นที่ 51.18% การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 39.23% เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 44.27% และแก้ไขปัญหาเงินรั่วไหลออกนอกประเทศ 32.68%


ส่วนเหตุผลด้านสังคม ประชาชนมองว่าเกิดความเจริญในชุมชน 61.35% คุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ดีขึ้น 45.33% เกิดการพัฒนาทักษะแรงงานในพื้นที่ 41.08% และเกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 26.91%


สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเปิดประชาชน 56.13% มองว่า กทม.และพื้นที่อีอีซี อยู่ในรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภาเหมาะสม รองลงมาได้แก่จังหวัดท่องเที่ยวเมืองหลัก 54.25% และ พื้นที่ชายแดน (ที่มีด่านตรวจคนเข้าเมือง) 27.67%


ขณะที่ข้อกังวล 5 อันดับแรก ได้แก่ปัญหาอาชญากรรม 54.49% ปัญหาหนี้สิน 52.40% ปัญหาการถูกครอบงำจากต่างชาติ 39.71% ปัญหาครอบครัว 37.56% ปัญหาด้านเงินลงทุน 30.49% ซึ่งทั้งหมดเป็นผลสำรวจโดยวิทยาลัยการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา


นายจักรพล กล่าวว่า ขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯ จากนี้จะพิจารณาและลงมติเห็นชอบกับรายงานฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ และภายในวันที่ 27 ก.ค.65 จะนำเสนอรายงาน พร้อมข้อสังเกตไปยัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News