“อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทย” เผย สถานการณ์ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นสงครามเต็มรูปแบบ

สถานฑูตยูเครนประจำราชอาณาจักรไทยโดย อุปฑูต นายโอเล็กซานเดรอ ไลซัค (Mr.Oleksandr Lysak) ได้กล่าวคำปราศัยผ่านเพจสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่องการรุกรานด้วยอาวุธต่างๆ ของรัสเซียว่า ตามที่กองกำลังทหารจากรัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อาณาเขตของรัสเซีย เบลลารุส และบางส่วนที่ถูกยึดครองชั่วคราวของประเทศยูเครน ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้งในยูเครน แต่เป็นสงครามเต็มรูปแบบ ย้ำว่าการใช้การเจรจาด้วยถ้อยคำที่เหมาะสมทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญ



ขณะที่ตอนนี้ ขอเน้นย้ำให้ทุกคนตระหนักถึงสถานะการณ์ในยูเครน โดยจะต้องมีการอ้างอิง ชี้ให้เห็น ถึงรัสเซีย มีฐานะผู้รุกรานอย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ 2565 ได้รับการรับรองยืนยัน

โดยมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และได้รับการสนับสนุนจาก 141ประเทศ รวมทั้งราชอาณาจักรไทย



ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่รัสเซียหลายคน กล่าวหาต่อยูเครน เรื่องการกรุข่าวที่ไม่มีมูล เพื่ออ้างอิงสร้างข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จว่า ยูเครนครอบครองอาวุธชีวภาพ และเคมีภัณฑ์ ยืนยันว่าไม่มีอยู่จริง โดยคำกล่าวหาเหล่านี้ ได้รับการถอดถอน ณ การบรรยายสรุป คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อ วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2565 โดยผู้แทนระดับสูง ด้านกิจการด้านการปลดอาวุธ-ความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ และประเทศสมาชิกสมาคมสหปรชาชาติ

สรุปว่า การโฆษณากล่าวอ้างชวนเชื่อของชาวรัสเซียนั้น เป็นการโกหก ซึ่งเป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครน เท่านั้น



นายโอเล็กซานเดรอ ระบุว่า การบุกรุกโจมตี รุกรานของรัสเซียต่อยูเครน ประกอบไปด้วยพื้นที่อยู่อาศัยของเมืองต่างๆ เช่น คาร์คิฟ (Kharkiv), เฌอร์นิฮิฟ(Chernihiv), ซูมี่(Sumy), มาริอูโพล (Mariupol),เมลิโทโพล (Melitopol),ชานเมืองของเคียฟ และอื่นๆอีกจำนวนมากมาย ถูกยิงทำลายทิ้งอย่างหนักหนาสาหัส จึงส่งผลให้ ทุกวันมีพลเรือนผู้บริสูทธิ์ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน ซึ่งในเมือง Donetsk ถูกทำลาย เกือบจะกลายเป็นเมืองร้างทั้งเมือง



นายโอเล็กซานเดรอ บอกอีกว่า ผลรายงานจากข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR แจ้งว่าหลายคนสูญเสียที่พักอาศัย จึงมีผู้อพยพออกจากยูเครน จำนวน 2.7 ล้านคน และมีผู้พลัดถิ่น อย่างน้อย 1.8 ล้านคน

ซึ่งรัสเซียมีความได้เปรียบทางอากาศอย่างมาก ซึ่งถือใช้โอกาสนี้โจมตี ทิ้งระเบิดลงสนามบินของยูเครน และมีรายงาน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ. ศ 2565 ว่าที่ศูนย์รักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศในภูมิภาค ลวิฟ (Lviv) ถูกรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 134 รายและผู้เสียชีวิต 35 ราย


ส่วนเรื่องแผนการอพยพ นายโอเล็กซานเดรอ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ ศ 2565 มีทางเดินที่วางแผนเดินทางอพยพออก 7 แห่ง จาก 10 แห่ง ที่เปิดดำเนินการได้ โดยอพยพคนออกไปได้เกือบ 4,000 คน แต่น่าเสียดายที่ถูกกองกำลังทหารรัสเซียขวางไว้ มีรถที่ขับออกไปได้ เพียง 150 คันซึ่งสามารถขับออกไปได้ไม่กี่ร้อยคน


นายโอเล็กซานเดรอ กล่าวว่าการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่ไม่เคยมีมาก่อนในรัสเซีย มีสาเหตุ คือการแยกเศรษฐกิจรัสเซีย และการบ่อนทำลายความสามารถทางเศรษฐกิจทางการเงินอย่างรุนแรง เพื่อดำเนินการต่อการบุกรุกโจมตีต่อยูเครน จากความโหดร้ายที่รัสเซียยังคงกระทำต่อยูเครน ยืนยันว่าการคว่ำบาตรจะต้องมีความเข้มแข็งและขยายเลื่อนออกไปอีก

เป้าหมายหลักของยูเครน คือ การยุติสงคราม สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือ ยูเครนต้องการหยุดการยิง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และเสียชีวิตของพลเรือนเพิ่มเติม



นายโอเล็กซานเดรอ กล่าวทิ้งท้ายว่า ระหว่าง ยูเครนกับรัสเซีย ได้มีการเจรจา โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้น จำนวน 3 รอบที่ผ่านมา คือ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ,3 มีนาคม และ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา และรอบที่ 4 ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยจะมีเนื้อหากล่าวถึงการหยุดยิง และถอนกองทหารจากรัสเซียออกจากยูเครน โดยยูเครนจะไม่ยอมรับสัญญาโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเรื่องการบูรณภาพดินแดนบางส่วน