เศรษฐกิจ

ก.ท่องเที่ยวปลื้ม ตั้งแต่ต้นปี นทท.เข้าไทยเกิน 10 ล้านคน - 'สงกรานต์สนามหลวง' สร้างเม็ดเงินเกือบ 3 พันล้าน

โดย nattachat_c

17 เม.ย. 2567

134 views

วานนี้ (16 เม.ย. 67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 14 เม.ย. 67 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย แตะระดับ 10 ล้าน


โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก  จากการมีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ที่มีการจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรม และบันเทิงในหลายพื้นที่


อีกทั้ง การเดินทางในช่วงวันหยุดต่อเนื่องในประเทศมุสลิม ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวมุสลิมเพิ่มขึ้นกว่า 96,000 คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 1 หรือเพิ่มขึ้น 78,297 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้า


ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 735,802 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 117,970 คน หรือ 19.09% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 105,115 คน


โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่

1. มาเลเซีย (150,390 คน)

2. จีน (148,653 คน)

3. อินเดีย (36,056 คน)

4. รัสเซีย (34,671 คน)

5. เกาหลีใต้ (30,427 คน)


โดย นักท่องเที่ยวมาเลเซีย จีน และเกาหลีใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 108.61%, 17.45% และ 1.81% ตามลำดับ ในขณะที่ นักท่องเที่ยวรัสเซีย และอินเดีย ปรับตัวลดลงเล็กน้อย


สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่

1. การสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด ที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียออกเดินทาง

2. การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

3. การยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน และคาซัคสถาน


สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 15 เม.ย. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 14 เม.ย. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 10,723,953 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 518,036 ล้านบาท


โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. จีน (2,031,552 คน)

2. มาเลเซีย (1,391,057 คน)

3. รัสเซีย (695,624 คน)

4. เกาหลีใต้ (619,186 คน)

5. อินเดีย (546,935 คน)

-------------
วานนี้ (16 เม.ย. 67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยผลการจัดงาน 'Maha Songkran World Water Festival 2024' หรือ 'เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567' ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง และพื้นที่ท้องสนามหลวง ตลอดทั้ง 5 วัน คือ วันที่ 11-15 เมษายน 2567 บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ เข้าร่วมงานถึง 784,883 คน ซึ่งนับว่าสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เกือบ 4 เท่าตัว


โดยแบ่งเป็นสัดส่วนชาวไทย 88.33% และชาวต่างชาติ 11.67% อันดับ 1 เป็นยุโรปอันดับ 2 เป็นเอเชีย


สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2,886.82 ล้านบาท เนื่องจากงานครั้งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก เกิดการใช้จ่ายต่อเนื่อง ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และการใช้บริการต่าง ๆ


ทั้งนี้ มียอดขายร้านค้าภายในงาน รวม 9,334,335 บาท เกิดจากโซน OTOP 7,299,899 บาท โซน Soft Power 1,933,276 บาท และโซนกิจกรรมย้อนยุค 101,160 บาท


ผลสำรวจชาวไทย และชาวต่างชาติ มีความพึงพอใจในการจัดงานระดับมากที่สุด ทั้งในส่วนของร้านค้า และขบวนพาเหรด ต้องการให้มีการจัดงานลักษณะนี้อีกครั้ง


โดยส่วนใหญ่คิดเป็น 70% ตั้งใจมาเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ผลของการจัดงาน ยังช่วยร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงกว่า 4,732 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ได้กว่า 380 ต้นต่อปี


ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2,908,600 คน ที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนเมษายน จะมีโอกาสได้เข้าร่วมงานสงกรานต์ที่จัดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย สร้างรายได้ 131,992 ล้านบาท


ด้านตลาดในประเทศ คาดว่า จะมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-21 เมษายน 2567 ประมาณ 15.03 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 52,500 ล้านบาท


สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร คาดว่าในช่วงการจัดกิจกรรมสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12 - 16 เมษายน 2567 จะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 3,690 ล้านบาท และมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 653,590 คน–ครั้ง

-------------




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0v_JoYKHq_M

คุณอาจสนใจ

Related News