เลือกตั้งและการเมือง
‘ลิณธิภรณ์’ ซัดฝ่ายค้านเลิกมโน ดิสเครดิตรัฐบาล แนะดูตัวเลขงบประมาณ 67-68 ชี้แก้ไขปัญหาภาคใต้จริงจัง
โดย nicharee_m
3 ธ.ค. 2567
63 views
‘ลิณธิภรณ์’ เตือนนักการเมืองพรรคฝ่ายค้าน ‘เลิกมโน ดิสเครดิตรัฐบาล’ ดูตัวเลขงบประมาณ 67-68 รัฐบาลเพื่อไทยใส่ใจแก้ไขปัญหาภาคใต้จริงจังยั่งยืน
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.บัญชีรรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีน้ำท่วมภาคใต้ ที่กำลังส่งผลกระทบในหลายจังหวัด จนเกิดกระแสโจมตีการทำงานของรัฐบาลเพื่อไทยและนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ถึงกระบวนการทำงานที่ล่าช้า ละเลยปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ จากนักการเมืองฝ่ายค้าน มุ่งสร้างความบิดเบือนต่อข้อเท็จจริงจนกลายเป็นนิสัย
นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยได้เข้ามาบริหารประเทศอดีตนายกฯเศรษฐา ได้อนุมัติงบกลางและงบประมาณแผ่นดิน ปี2567 เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ถุงยังชีพ กว่า 40 ล้านบาท และเงินเยียวยาครอบคลุม 30 อำเภอที่ได้รับผลกระทบในปลายปี 66 กว่า 1,816 ล้านบาท
และภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร รัฐบาลเพื่อไทยได้ดำเนินการสั่งการ เตือนภัย เฝ้าระวังและมีแผนเตรียมรับมือกับปริมาณฝนตกหนัก กำชับเจ้าหน้าที่ และคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.67 และเมื่อสถานการณ์ทวีความรุนแรงก็ได้อนุมัติงบกลางปีฉุกเฉิน 6 จังหวัดปี 2568 จาก 50 ล้านบาทเป็น 70 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน
นี่ยังไม่รวมโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ในปีงบประมาณ 67 พัฒนา 7 จังหวัดภาคใต้และรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชนรวมมูลค่ากว่า 754 ล้านบาท รวมทั้งการมีแผนจะสานต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้แบบไร้รอยต่อจากนายกฯเศรษฐา ทั้งแผนการสร้างสนามบินอันดามัน การจัดการขยะในเมืองท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ด้วยระบบ Biometric เพื่อฟื้นฟูตลอดจนวางแผนเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะเติบโต
นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 67-68 สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ว่า รัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร หัวใจคือประชาชน ได้อนุมัติงบประมาณและไม่เคยละเลยปัญหาของคนภาคใต้ ไม่ว่าจะในสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉินหรือการวางแผนพัฒนาภาคใต้ในระยะยาว เพราะตระหนักดีว่ารัฐบาลมีหน้าที่รับใช้ประชาชน และการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาขนทุกภาคของประเทศอย่างทั่วถึงเท่าเทียม คือหัวใจที่ทำให้ประเทศชาติเจริญ
“ฝากถึงนักการเมืองฝ่ายค้าน ช่วยศึกษาข้อมูลมากกว่าใช้ความมโนและอารมณ์ อาศัยคำตำหนิแบบไร้ความรับผิดชอบ ดิสเครดิตรัฐบาล แต่มาช่วยสร้างสรรค์การเมืองใหม่ที่เห็นผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งอย่างแท้จริง”