เลือกตั้งและการเมือง

‘ศุภณัฐ’ จี้ กทม.ชี้แจงด่วน แฉ 9 พิรุธเช่ารถขยะไฟฟ้า รายเดียวชนะ 4 สัญญา ขรก.ลาออกหนีคดี

โดย chutikan_o

30 ก.ย. 2567

434 views

‘แบงค์ ศุภณัฐ’ จี้ กทม.ชี้แจงด่วน แฉ 9 พิรุธเช่ารถขยะไฟฟ้า รายเดียวชนะ 4 สัญญารวด ข้าราชการกลัวโดนอาญา ลาออกหนีตาย ถามมีธงไว้แล้วใช่หรือไม่ ทำไมอยากได้แต่รถไฟฟ้า งงคนกล้าซื้อ รถขยะ 1.5 พันล้าน มาปล่อยเช่าแลกสัญญา 241 ล้านบาท?


วันที่ 30 ก.ย. 2567 นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพเอกสารของ สำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมข้อความว่า 9 ข้อพิรุธ สัญญาเช่ารถขยะไฟฟ้า กทม. 241 ล้าน - ใช้วิธีคัดเลือกเชิญแค่บางราย เข้าเสนอราคา (ไม่ทำ e-bidding) - สรุปมี “รายเดียว” ที่เสนอราคาเข้าคัดเลือก จนชนะไปเลย 4 สัญญารวด - ซ้ำร้ายจนข้าราชการลาออก หนีตาย กลัวโดนคดีอาญา ขอยกเลิกนิติกรรมย้อนหลังทั้งหมด


ขอให้ กทม.ชี้แจงด่วน จากวันที่ 26/9/24 ที่ผ่านมา กทม.เพิ่งประกาศผู้ชนะ สัญญาเช่า รถขยะไฟฟ้า 270 วัน รวม 470 คัน วงเงิน 241 ล้านบาท ด้วยวิธีการ “คัดเลือก” (ไม่ทำ e-bidding) จนได้ผู้ชนะ เป็นบริษัทเดียวกันทั้ง 4 สัญญา ซึ่งทั้งข้าราชการ และคนในวงการประสานมาหาผม เพราะพบพิรุธส่อทุจริต หลายเรื่อง


1) ที่มาของการตั้งงบการเช่ารถขยะไฟฟ้า ระยะเวลา 270 วัน จำนวน 470 คัน โดย กทม. ได้สืบราคาโดยทำหนังสือถึง 10 บริษัท เพื่อให้เสนอราคาเพื่อมาทำราคาในการของบ ส่งหนังสือวันที่ 1/5/67 เพื่อให้เสนอราคาภายใน 9/5/67 แต่มี 1 บริษัท เหมือนรู้ล่วงหน้าทำหนังสือเสนอราคาตั้งแต่ 30/4/67


ไม่เพียงแค่นั้น บอกให้เอกชนเสนอถึง 9/5/67 แต่พอวันที่ 3/5/67 ปิดจบการเสนอราคา เจ้าหน้าที่เอาใบเสนอราคา 3 เจ้าไปทำราคาเพื่อของบเรียบร้อย ทำให้ราคาเจ้าอื่นที่อาจจะเสนอราคาต่ำกว่า ไม่เข้าพิจารณาตั้งงบประมาณ ทำให้งบประมาณราคาสูงกว่า เพราะการแข่งขันน้อยกว่า ทำให้ประเทศเสียหายทันที


2) ตอนขอราคาไป ขอให้เสนอราคารถดีเซลล์ หรือรถไฟฟ้าก็ได้ แต่ตอนทำเรื่องของบกลาง ไม่ทำ 2 แบบ แต่ตัดรถดีเซลล์ทิ้ง จะเอาแค่รถขยะไฟฟ้าเท่านั้น จนผู้ประกอบการสงสัย กทม.มีธงไว้หรือไม่ ว่าจะต้องเช่ารถขยะไฟฟ้า ให้ได้ และจงใจจะไม่เอาผู้ประกอบการรถดีเซลล์ใช่ไหม


3) เมื่อได้งบมาแล้ว ต้องจัดทำราคากลางใหม่อีกรอบ เพราะรอบที่แล้วเป็นเสนอราคาตั้งงบ แต่รอบนี้เป็นราคากลางเพื่อจะจัดหารถ ซึ่งทาง กทม.ได้ทำหนังสือ เชิญเฉพาะบางบริษัท เพื่อให้เสนอราคากลาง โดยในร่าง TOR ประกอบการเสนอราคา กทม.เขียนว่า ให้บริษัทเสนอราคาสำหรับเช่ารถ 270 วัน โดยให้ส่งมอบภายใน 30 วันหลังเซ็นสัญญา จนคนในวงการสงสัย จะประกอบรถให้ทันได้ไง ใน 30 วัน แต่บังเอิญ กทม. สามารถ หาบริษัท เสนอราคา ได้ 3 เจ้าพอดี


4) แต่ทว่าเมื่อได้ราคากลางแล้ว กทม.ได้ทำการ “เชิญบางราย” เพื่อ “คัดเลือก” เท่านั้น ไม่ได้เปิดกว้าง ไม่ได้ e-bidding สุดท้ายมี “แค่เจ้าเดียว” ที่ยื่นเสนอราคา ทำให้ชนะรวด 4 สัญญา 241 ล้าน ไม่ต้องแข่งกับใคร ที่งงคือ อีก 2 เจ้าที่เพิ่งให้ใบเสนอราคากลางมาเป็นคู่เทียบ ครบ 3 เจ้า ทำไมไม่เสนอราคาแข่ง แต่ตอนเสนอราคามาเป็นคู่เทียบ 3 เจ้ากลับเสนอ


5) ยิ่งไปกว่านั้น การที่ไปเชิญบางรายเพื่อคัดเลือกนั้น ตามหลักการคือ ต้องเป็นเจ้าที่มีศักยภาพสูง ไม่งั้นจะไปเชิญทำไม แต่ทำไม “คณะกรรมการเช่าโดยวิธีคัดเลือก” ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาหรือไม่ เพราะไปเลือกเชิญ บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท รายได้ทั้งปี 1.8 ล้าน และไม่ได้จดวัตถุประสงค์บริษัทว่า ประกอบกิจการด้านการให้เช่ารถบรรทุกขยะ แต่ทำไม กทม.ตรัสรู้ ว่าต้องไปเชิญบริษัทนี้มาร่วมคัดเลือก?


6) หลังประกาศผู้ชนะ 26/9 วันรุ่งขึ้น 27/9 เจ้าหน้าที่ที่นั่งคณะกรรมการฯ ขอลาออก และยกเลิกนิติกรรมทั้งหมดย้อนหลัง เพราะกลัวจะโดนคดีอาญา แต่ทำไม กทม.ถึงกล้าจะเซ็นสัญญาอยู่ดี ทำไมไม่ตรวจสอบ?


7) อย่างที่แจ้งไปในข้อ 3 เราต้องเข้าใจว่า รถขยะไฟฟ้า เป็นรถเฉพาะกิจ ไม่ได้มีพร้อมขายสำเร็จรูป ต้องใช้เวลา สั่งรถและนำไปประกอบ หากจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งคัน กว่าจะผลิต ขนส่งทางเรือ ผ่านศุลกากร จดทะเบียน เป็นการยากมากที่จะส่งมอบรถ ได้ทัน ภายในระยะเวลาเพียง 30 วัน และหากจะบอกว่ารถขยะไฟฟ้าที่เสนอมาเป็นรถเก่า ก็คงต้องให้ชี้แจงว่า รถขยะไฟฟ้าทั้ง 470 คัน มีการนำเข้ามาวันที่เท่าไหร่ จดทะเบียนเมื่อไหร่ และนำไปใช้งานอะไร และด้วยกฎหมายไม่ให้นำเข้ารถบรรทุก มือ 2 แล้วจะไปหารถ มือ 2 จากไหน ในเมื่อในไทยไม่มีใครใช้รถขยะไฟฟ้า และถ้ารถมือ 1 จะไปประกอบไงทัน ถ้าไม่สั่งของไว้ก่อน?


ทำไมถึงมีคนกล้าซื้อ รถขยะมูลค่า 1,500 ล้าน มาปล่อยเช่าแลกกับสัญญา 241 ล้านบาท?


9) ตอนทดสอบรถขยะเมื่อสิ้นปี 66 เกิดไฮโดรลิครถพังกลางทาง และคนที่ดูแลเรื่องการทำสอบ กลับเป็น กรรมการบริษัทเอกชน ที่เข้ารับการทดสอบด้วย conflict o finterest หรือไม่


เท่าที่ทราบตอนนี้ ผู้บริหาร กทม. ลอยตัว เพราะโยนให้ข้าราชการ เซ็นสัญญาทั้ง 4 สัญญาแทน โดยวันนี้ จะมีการเตรียมเซ็นสัญญาลงนาม กับบริษัท “เจ้าเดียว” ที่ชนะการคัดเลือกทั้ง 4 สัญญารวด และจากพิรุธมากขนาดนี้ ผู้บริหาร กทม. คงจะปฎิเสธ ไม่รู้เรื่องไม่ได้แล้ว เพราะเป็นต้นเรื่อง จะเอารถขยะไฟฟ้าให้ได้


และเรื่องนี้ ป.ป.ช. ก็มีหนังสือแจ้งถึงพฤติกรรมส่อทุจริตมาโดยตลอด ที่สำคัญ ถ้าโครงการนี้มีการฟ้องร้องจนไม่สามารถจัดเช่ารถไฟฟ้าได้ทัน คน กทม.จะเจอวิกฤตไม่มีรถเก็บขยะ แล้ว กทม.จะทำอย่างไร เพราะสัญญารถขยะเดิมจะหมดลงในปีนี้



คุณอาจสนใจ