‘มงคลกิตติ์’ ก้มกราบพื้นสภาฯ ขอทำหน้าที่ ส.ส. วันสุดท้าย 17 ก.พ. คืนอำนาจอธิปไตยให้ ปชช.

‘มงคลกิตติ์’ อภิปราย ‘บิ๊กตู่’ ปล่อยลูกสมุนทุจริต-สร้างความเสียหายให้ประเทศ ก่อนก้มกราบพื้นสภาฯ  ประกาศคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน ขอทำหน้าที่ ส.ส. วันสุดท้าย 17 ก.พ. ขอโอกาสประชาชน 66 ล้านคน หากเห็นประโยชน์โปรดเลือกกลับมาใหม่

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปราย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ไร้ปัญญาในการบริหารเศรษฐกิจ หาเงินไม่เป็นเก่งสร้างหนี้สินให้ประเทศ สร้างหนี้สินให้ประชาชนปล่อยลูกสมุนทุจริตทุกรูปแบบ สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทำให้เศรษฐกิจพังประชาชนเป็นหนี้ไร้ซึ่งอนาคต ปล่อยให้มียาเสพติดทุกประเภทเต็มเมือง การพัวพัน การทุจริต e-bidding ภาครัฐ และเงินส่วยพนันออนไลน์เพื่อเอาเงินเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการขายแผ่นดินบรรพบุรุษหรือที่เรียกว่าคนขายชาติ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีการรับส่วนพนันออนไลน์ว่า พลเอกประยุทธ์มีการแต่งตั้งพลตำรวจตรี ปิยพันธ์ ปิงเมือง รองเลขาธิการ ปปง. เป็นเลขาธิการ ปปง. และแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ ปปง. สายผู้ทรงคุณวุฒิปล่อยให้เปิดเว็บการพนันออนไลน์ทั่วบ้านทั่วเมือง พลเอกประยุทธ์จับปฏิเสธว่าไม่รู้จักก็คงไม่ได้แต่จะร่วมมือกันหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เชื่อว่าประชาชนสามารถตัดสินได้

การที่ พลเอกประยุทธ์ บอกว่าไม่เคยทุจริตแม้แต่วันเดียว ต้องขอถามว่าประชาชนทั้งประเทศเชื่อหรือไม่ว่าพลเอกประยุทธ์ไม่เคยทุจริตและไม่เคยปล่อย ลูกน้องและอยากใกล้ชิดทุจริตทุกรูปแบบ และการทุจริตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการทุจริตอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเป็นการทุจริตที่ได้มา ซึ่งอำนาจในการปลดของประเทศคือใช้อำนาจปืนและรถถัง

ทำให้นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วง ว่า นายมงคลกิตติ์ อภิปราย เป็นการใส่ร้ายป้ายสีพลเอกประยุทธ์นายกรัฐมนตรีมาโดยตลอดและขอถามว่ามีคำตัดสิน หรือไม่ว่าพลเอกประยุทธ์เคยทุจริตขอให้ถอนคำว่าทุจริตเดี๋ยวนี้

ขณะที่นายศุภชัย โพสุ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้น ขอไม่ให้ย้อนกลับไปสมัยที่พลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจเพราะมันนอกเหนือการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

จากนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันยังมีการดีไซน์หรือออกแบบ การทุจริตเข้าสู่อำนาจมีการดูด ส.ส. ซื้อ ส.ส. ปล้น ส.ส. พรรคอื่น ที่เห็นแก่เงินและขายวิญญาณ ขอถามพลเอกประยุทธ์ว่าในจิตวิญญาณของท่านมีความสุจริตหลงเหลือหรือไม่ แต่ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินที่คูหาเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ในช่วงท้ายนายมงคลกิตติ์ ประกาศว่าจะทำหน้าที่เป็นวันสุดท้ายในสภาผู้แทนราษฎรที่ตนภูมิใจ และคืนอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนมอบให้ตนในระยะเวลาสี่ปี ต้นได้ทำหน้าทีฝ่ายรัฐบาล 11 เดือนและได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านและฝ่ายค้านอิสระสามปี เขามีความภาคภูมิใจมาก สามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า เขาเป็นผู้แทนที่มาจากประชาชน 100% ด้วยความสุจริตไม่ได้ซื้อเสียงมาแม้แต่คะแนนเดียว ถึงแม้คะแนนไม่มาก แม้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่สมบูรณ์แบบตามระบบประชาธิปไตยก็ตาม ที่ผ่านมาเขาได้เดินทางไปทั่วประเทศรับฟังข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แม้ตนจะยังบกพร่องอยู่บ้าง พร้อมยอมรับว่าเขาก็ไม่ใช่ ส.ส. ที่สุจริตร้อยเปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ เขาจะคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนเพื่อพิจารณาใหม่อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าผู้แทนแบบเขาและพรรคไทยศรีวิไลย์ที่มีตนเป็นหัวหน้าพรรคยังมีประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ก็ขอประชาชน 66 ล้านคนเลือกกลับมา ก่อนจะก้มกราบที่พื้นสภา กลางห้องประชุม และจบการอภิปราย

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบเพิ่มเติม และได้รับคำยืนยันว่านายมงคลกิตติ์ จะยื่นใบลาออก จากการเป็น ส.ส. ต่อ ประธานสภาฯในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 09.09 น.