เลือกตั้งและการเมือง

‘ยุทธพงศ์’ ถาม ‘บิ๊กตู่’ จะรับผิดชอบอย่างไร เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ชี้เรือดำน้ำจะสูญเสียขนาดไหน

โดย nicharee_m

22 ธ.ค. 2565

98 views

สภาเดือด! ‘ยุทธพงศ์’ ถามนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบอย่างไร เรือหลวงสุโขทัยอับปาง บอกตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เห็นลงพื้นที่ ชี้ขนาดอยู่บนน้ำยังสูญเสียขนาดนี้ เรือดำน้ำจะขนาดไหน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดถามถึงสาเหตุที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เช่นกัน ทั้งที่เรือสุโขทัยเป็นเรือที่มีความสมบูรณ์แบบ มีสมรรถนะรบได้ถึง 3 มิติ พร้อมตั้งคำถามไปถึงการแต่งตั้งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้มาดำรงตำแหน่งหรือมีความรู้เป็น 0 ทำให้การทำงานออกมาห่วยแตก และจนถึงขณะนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็น

จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีไปเช็คบิลเรื่องนี้ เพราะนอกจากเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางแล้ว ยังมีเรือพาณิชย์และเรือประมงอีกหลายลำอับปางเช่นกัน นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้อย่างไร และเพราะเหตุใดตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ นายกรัฐมนตรีจึงยังไม่ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง

พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มาตอบกระทู้สดแทนนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ กองทัพเรือเป็นส่วนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางทะเล ซึ่งก่อนจะส่งเรือหลวงสุโขทัยออกปฏิบัติการ ได้ประเมินขีดความสามารถและศักยภาพของเรือแล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศจึงทำให้เรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุขึ้น

พลเอกชัยชาญ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์และสั่งการมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและความปลอดภัยของกำลังพล ซึ่งหลังจากวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่สัตหีบ กองทัพเรือภาค 1 เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวกำลังพล และให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน และสั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ระดมสรรพกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ซึ่งขณะนี้มีเรือเข้าไปในพื้นที่จำนวน 8 ลำ นอกจากนี้ ยังมีเฮลิคอปเตอร์และอากาศยานจากกองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการแบ่งพื้นที่ให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อค้นหากำลังพลที่ยังสูญหาย และย้ำว่านายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง

นายยุทธพงศ์ ถามต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นชนิด MTU ของจีน เมื่อน้ำเข้า จึงทำให้เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าดับ และระบบต่างๆ ของเรือดับไปด้วย เรือจึงไม่มีกำลังที่จะฝ่ากระแสคลื่น เรือที่อยู่บนน้ำ ยังเกิดความสูญเสียกับเครื่องยนต์ขนาดนี้ แล้วสำหรับเรือดำน้ำ กองทัพเรือยังจะใช้เครื่องยนต์ของจีนอีกหรือไม่

ด้านพลเอกชัยชาญ ชี้แจงว่า ขณะนี้กองทัพเรือ ยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้เครื่อง MTU ที่ผลิตจากจีนหรือไม่ ซึ่งกองทัพเรือได้มีคณะกรรมการศึกษารายละเอียด ประสิทธิภาพ และจะไปดูถึงโรงงานผลิต เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมิน เพื่อให้ได้เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมาใช้ในเรือดำน้ำ

โดยเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน 2566 คณะกรรมการมีกำหนดการจะเดินทางไปถึงโรงงานผลิตที่ประเทศจีน ยืนยันว่ากองทัพเรือจะใช้งบประมาณโดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและความปลอดภัยของกำลังพลให้ปฏิบัติภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด



คุณอาจสนใจ

Related News