“สนธิรัตน์” พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ยันส่งครบ 400 เขต ไม่กังวลใจกระแส “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง” ฟีเวอร์

“สนธิรัตน์” พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ยันส่งครบ 400 เขต อุบแคนดิเดตนายกฯ ย้ำแก้ปัญหาศก.ได้ นานาชาติยอมรับ ไม่กังวลใจกระแส “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง” ฟีเวอร์

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นบัตร 2 ใบ และคาดว่ากฎหมายลูกก็น่าจะแล้วเสร็จทัน ดังนั้นเป้าหมายของการเลือกตั้ง ทุกพรรคที่เตรียมการเลือกตั้ง ทั้ง 400 เขต เนื่องจากต้องเก็บโควต้า ส.ส.บัญชีรายชื่อ

โดยพรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้น ในแง่ของความพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ได้ดำเนินการไปแล้ว ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญและการแข่งขันค่อนข้างมาก จึงใช้เวลามากในการเตรียมว่าที่ผู้สมัครของพรรคที่จะลงสู่สนามการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พยายามจะเน้นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าสู่การเมือง ส่วนตัวตั้งใจอยากการเมืองมีตัวเลือกใหม่มากขึ้น ไม่ติดเดตล็อก หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และไม่มีคนใหม่ การเมืองก็จะอยู่ในโครงสร้างเดิมๆ

ส่วนการเปิดตัว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและมีการวางนโยบายและแลนสไลด์ว่า พรรคเพื่อไทยก็มียุทธศาสตร์ทางการเมืองของพรรค ซึ่งทุกพรรคพยายามจะหาจุดขายของตัวเอง เมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่ละพรรคก็ต้องสร้างจุดขาย และสร้างความเข็มแข็งไม่เหมือนกัน แต่ละพรรคก็ต้องสร้างจุดขายเพื่อให้ได้ ส.ส. มากที่สุด

ในส่วนพรรคสร้างอนาคตไทย มีเป้าหมายต้องการที่เข้ามาเป็นตัวเลือก และเป็นทางออกในการแก้ปัญหาของประเทศ ไม่ได้ต้องการสร้างความแตกแยกในสังคม จะไม่สร้างปัญหา แต่ตั้งใจสร้างความสมานฉันท์ในสังคม และพรรคพร้อมในเรื่องของทีมเศรษฐกิจที่พรรคประเมินแล้วว่า ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้พรรคพร้อมที่จะทยอยเปิดตัวบุคคลากรทางเศรษฐกิจของพรรค เป็นคนสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศ เน้นมืออาชีพ ไม่มีประวัติด่างพร้อย

สำหรับกระแส นายทักษิณ และอุ๊งอิ๊งฟีเวอร์นั้น นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ไม่รู้สึกกังวลใจ แต่ทำตัวเองให้พร้อมให้ประชาชนเชื่อมั่นมากที่สุด พรรคต้องสร้างตัวเองให้พร้อมสู่ชัยชนะเช่นกัน พร้อมเปิดเผยว่าเตรียมเปิดโครงสร้างของพรรคหลังการประชุมใหญ่ต้นเดือนเมษายน ที่จะสามารถเปิดให้เห็นตำแหน่งต่างๆ

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตอนนี้ยังมีเวลา เพราะพรรคให้ความสำคัญกับคุณสมบัติแคนดิเดตมากกว่าตัวบุคคล โดยต้องมีความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาให้กับประเทศได้ มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหา และจะต้องมีประวัติการทำงานที่พิสูจน์ได้สะอาดและโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะคนเก่งหาได้ แต่ต้องเป็นคนดีด้วย สุดท้ายปัญหาของประเทศต้องมองรอบด้านในเรื่องของการแข่งขัน และต้องเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ

ขณะที่ไทม์ไลน์ที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประเมินว่าอาจจะยุบสภาหลังการประชุมเอเปคเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้น นายสนธิรัตน์ เห็นว่าอำนาจขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แม้สถานการณ์แบบนี้หลายฝ่ายจะไม่แน่ใจ แต่ก็เชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็จะพาประเทศให้พ้นการประชุมเอเปค ไม่คาดหวังว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ แต่เตรียมความพร้อมไว้ทุกสถานการณ์