สังคม

ย้อนรอยคดีพิพาทที่ดินมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุฯ 4 พันไร่ หลังศาลตัดสินจำคุก 'บุญช่วย' 8 ปี

โดย panwilai_c

25 ก.พ. 2566

460 views

คดีพิพาทเรื่องที่ดิน 4 พันไร่ ที่จันทบุรี ซึ่งเคยเกิดเหตุรุนแรงยิงกันเสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่ายต่อหน้าบัลลังก์ศาลจังหวัดจันทบุรีมาแล้ว ล่าสุดศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก จำเลย 2 คนที่ปลอมแปลงเอกสารเท็จ ในการครอบครองที่ดินจำนวนเกือบ 4 พันไร่ ใน จ.จันทบุรี หลังจากตำรวจสอบสวนกลางได้หาพยานหลักฐานอย่างรัดกุม เนื่องจากจำเลยได้ปลอมแปลงเอกสาร เพื่อยึดที่ดินเป็นของตัวเอง เพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่าที่ดิน เจ้าของเดิมมีเจตนารมณ์มอบให้กับมูลนิธิ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนา



ที่ดินผืนใหญ่ 4 พันไร่ มีโฉนดเป็น นส.3 กินเนื้อที่ใน 2 อำเภอ ทั้งอ.ท่าใหม่ และ อ.คิชกูฎ จังหวัดจันทบุรี โดยในปี 2515 พระกิตติวุฒโฒ พระนักเทศน์ ขอซื้อในนามมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย จากนายสมพล โกศลานันท์ เจ้าของที่ดิน เป็นเงิน 12 ล้านบาท โดยมีญาติธรรมร่วมบริจาค 8 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาปากเปล่า ไม่มีการทำหนังสือสัญญาตั้งแต่ปี 2515-2538 พระเณรจึงเข้าไปใช้พื้นที่นั่งวิปัสนา กรรมฐาน ต่อมาในปี 2538 นายสมพล เสียชีวิตลง โดยยังไม่ได้โอนที่ดิน และเจตนารมย์ยังไม่มีเปลี่ยนแปลง กระทั่งปี 2548 พระกิตติวุฒโฒ มรณภาพ จากนั้นขบวนการสร้างเอกสารเท็จเริ่มต้นขึ้นในปี 2550



ตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งได้รับเรื่องร้องทุกข์จากมูลนิธิอภิธรรมหมาธาตุวิทยาลัย พบเอกสารเท็จ ทำขึ้นเองจากนายบุญช่วย เจริญสถาพร อายุ 43 ปี น้องชายของพระกิตติวุฒโฒ อดีตประธานมูลนิธิอภิธรรมหาธาตุ ร่วมกับนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความ โดยให้นายเรวัต โกศลานันท์ บุตรชายคนโตของเจ้าของที่ดิน ซึ่งป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน เป็นผู้เซนรับรองการใช้ที่ดินให้นายบุญช่วย ไปยื่นต่อศาล จ.จันทบุรี



เมื่อได้หลักฐานจากศาลแล้ว นายบุญช่วยและนายบัญชา ทนายความ จึงนำไปเป็นหลักฐานไปยื่นต่อพนักงานที่ดิน แต่พนักงานที่ดินเห็นว่านายเรวัตมิใช่บุตรคนเดียว จึงไม่โอนที่ดินให้



แต่นายบุญช่วยและทนายความได้ร่วมกันทำเอกสารเท็จฉบับที่ 2 เพื่อให้นายเกษม และนายกำพล โกศลานันท์ บุตร คนที่ 2 และ 3 เซนรับรอง โดยจ่ายเช็กให้ 2 ล้านบาท ยื่นต่อศาลจันทบุรี กระทั่งชนะคดี เมื่อได้คำตัดสินของศาลจึงนำไปยื่นต่อที่ดินอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ที่ดินต้องโอนที่ดิน 4,000 ไร่ ตามคำสั่งของศาลให้นายบุญช่วย



หลังจากนั้นนางสาวเขมจิรา บัณฑูรนิพิท หนึ่งในลูกสาวของเจ้าของที่ดินได้ออกมาคัดค้าน แต่ถูกนายบุญช่วยและนายบัญชา ทนายความ แจ้งข้อหาฟ้องเท็จจำนวน 3 คดี ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกรวม 7 ปี โดยรอลงอาญาไว้ก่อน ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนำไปสู่การยิงกันต่อหน้าบัลลังก์ศาลจ.จันทบุรี เมื่อพศจิกายน 2562 โดยพล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตสามีของ นส.เขมจิรา ยิงนายบัญชา, และนายวิจัย ทีมทนายความเสียชีวิต และ พล.ต.ต.ธารินทร์ ถูก นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายความ ใช้ปืนของตำรวจศาลยิงเสียชีวิตเช่นกัน



ตำรวจสอบสวนกลางได้รับแจ้งความจากมูลนิธิกระทั่งจับกุมนายบุญช่วย ในเดือนมิถุนายน 2563 ขณะนั้นนายบุญช่วยอายุ 80 ปีในชั้นสอบสวนขนายบุญช่วย และนายกิตติพงษ์ บุตรชาย อายุ 43 ปี ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่พยานทั้งหมด100 กว่าปาก ไม่มีพยานใดระบุว่าที่ดินเป็นของนายบุญช่วยเลย



วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ศาลตัดสิน นายบุญช่วย ซึ่งขณะนี้อายุ 83 ปี จำคุก 8 ปี ฐาน "เบิกความเท็จต่อศาล,ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ และร่วมกันยักยอกทรัพย์" ส่วนนายกิตติพงศ์ บุตรชายอายุ 46 ปีจำคุก 1 ปี ส่วนที่ดิน 4 พันไร่ เป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ ตามเจตจำนงเจ้าของที่ดินเดิม

คุณอาจสนใจ

Related News