ตั้ง กก.สอบ-สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตร.รีดทรัพย์ นศ.สาว 1 หมื่น บังคับมีเซ็กส์แลกพ้นคดีเมาแล้วขับ

นศ.ปี 4 ร้อง ‘ปวีณา’ ถูกตำรวจ สภ.ธัญบุรี รีดทรัพย์ 1 หมื่น บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ แลกไม่ดำเนินคดีเมาแล้วขับ ล่าสุดตั้ง กก.สอบ พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว

วานนี้ (9 ก.ย. 2567) นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังถูกตำรวจยศ สิบตำรวจตรี ทำหน้าที่สิบเวร สภ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เรียกเงิน 10,000 บาท และบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาแล้วขับ โดยข่มขู่ถ้าไม่ยอมทำตามจะต้องติดคุก และเสียค่าปรับ 20,000 บาท ผู้เสียหายก็เลยยอมทำตาม แต่ปรากฏว่าตำรวจนายดังกล่าวยังไม่ยอมจบ ติดต่อมาแบล็กเมลเพื่อจะให้ไปนอนด้วยอีก จนผู้เสียหายซึ่งป่วยซึมเศร้าอยู่แล้ว เครียดจัดต้องเข้าแอดมิตโรงพยาบาล 3 วัน สุดท้ายทนไม่ไหวต้องมาร้องขอความเป็นธรรม

ผู้เสียหาย กล่าวว่า คืนวันที่ 30 สิงหาคม ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. หลังจากดื่มกับเพื่อนและกำลังขับรถกลับบ้าน จังหวะกำลังจะเลี้ยวซ้าย รถเกิดไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งอีกคันที่ย่านคลองสี่ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี รถเกิดความเสียหายทั้ง 2 ฝ่าย จึงได้เรียกประกันมาจัดการ จากนั้นผู้เสียหายเดินทางไปที่ สภ.ธัญบุรี ส่วนคู่กรณีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

ระหว่างอยู่ที่โรงพักตำรวจสิบเวรมาเรียกให้เข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งอยู่กันแค่ 2 คน สิบเวรจะให้เป่าแอลกอฮอล์ โดยเขาเป่าให้ดูก่อนปรากฎว่าขึ้นที่ 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นให้ผู้เสียหายเป่า ผลออกมา 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เธอกลัวจะถูกดำเนินคดี สิบเวรเลยเรียกไปคุยที่หน้าห้องน้ำด้านข้างอาคาร ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด

จากนั้นตำรวจได้ยื่นข้อเสนอ ให้ผู้เสียหายเซ็นใบที่เป่าแอลกอฮอล์ไว้ทั้ง 2 ใบ แต่จะเอาใบที่เป็น 0 ให้กับประกันเพื่อที่รถจะได้เครมซ่อมได้ แต่ต้องจ่ายให้ทางตำรวจนายนี้ 10,000 บาท ถ้าไม่รับข้อเสนอก็จะติดคุก และถูกปรับ 20,000 บาท ด้วยความกลัวผู้เสียหายจึงตกลงทำตาม โดยให้เธอเขียนข้อมูลส่วนตัว ชื่อนามสกุลที่อยู่ เบอรโทรติดต่อ และให้นั่งแท็กซี่กลับบ้านไปก่อน ซึ่งกว่าจะเสร็จเรื่องก็เป็นเวลาตี 2 ของวันที่ 31 สิงหาคม และวันนั้นเธอยื่นเงินให้ แต่ตำรวจนายนี้ไม่รับ แล้วบอกว่าจะติดต่อหาอีกที

ต่อมาวันที่ 1 กันยายน ช่วง 14.00 น. ตำรวจนายเดิมได้ขับรถกระบะมารับผู้เสียหายที่คอนโดฯ ย่านรังสิต ก่อนจะพามาลงบันทึกประจำที่ สภ.ธัญบุรี โดยระบุว่ากรณีรถเฉี่ยวชนเกิดจากความประมาทของผู้เสียหาย หลังเสร็จแล้วตำรวจก็ได้ขับรถพากลับมาส่ง ระหว่างทางเขาบอกว่าได้คุยกับร้อยเวร สารวัตร และผู้กำกับให้แล้วไม่มีปัญหา จากนั้นตำรวจได้จอดรถให้ผู้เสียหายลงไปกดเงินสด 10,000 บาทมายื่นให้เขาในรถ แล้วผู้เสียหายก็ขอใบเป่าแอลกอฮอล์ที่ระบุ 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่ตนเองเซ็นเอาไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะเอามาดำเนินคดีอีก แต่ตำรวจก็ยื้อไว้ไม่ยอมให้

วันรุ่งขึ้น 2 กันยายน ผู้เสียหายอยากได้เอกสารใบเป่าแอลกอฮอล์ ตำรวจจึงนัดให้ไปหาที่ สภ.ธัญบุรี บอกว่าเดี๋ยวเราไปหาที่นั่งคุยกันเงียบๆ จากนั้นตำรวจพาไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นผับ เขาได้จองโต๊ะไว้แล้ว และดูเหมือนเขาจะรู้จักกับเด็กเสิร์ฟในร้านแทบทุกคน

ระหว่างที่นั่งกินเขาก็บังคับให้ชนแก้วหลายครั้ง ผู้เสียหายพยายามขอใบเป่าแอลกอฮอล์ ตำรวจก็บอกว่า ต้องมีอะไรกับเขาก่อนถึงจะคืนให้ คืนนั้นเขาก็ตามมาที่คอนโดฯ และมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ไม่มีการป้องกัน หลังมีเพศสัมพันธ์เขาก็ยังไม่ยอมคืนใบเป่าแอลกอฮอล์ อ้างว่าที่ผ่านมาต้องเก็บไว้ทุกใบ ไม่เคยให้ใครเลย

คืนนั้นหลังจากที่ตำรวจกลับไป ผู้เสียหายซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว อาการกำเริบขึ้นมาต้องไปพบแพทย์ นอนแอดมิตที่โรงพยาบาลถึง 3 วัน 3-6 กันยายน เมื่อกลับบ้านเขาก็ยังโทรมาหาบอกอีกว่า จะมาหาที่คอนโด ตอน 20.00 น. วันที่ 9 กันยายน ผู้เสียหายสับสนและกลัวมาก

นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนักศึกษาผู้เสียหายกับตำรวจ ซึ่งผู้เสียหายพยายามสอบถามเรื่องใบผลเป่าแอลกอฮอล์ ขณะที่ตำรวจถามว่า ถ้าได้ใบแล้วพี่ได้อะไร เอาอะไรมาแลก ผู้เสียหายตอบกลับ พี่ได้หนู ได้เงิน แล้วหนูได้อะไรจากพี่ ตำรวจยังขู่ว่า ถ้าหนูโดนดำเนินคดีหนูแย่นะ ติดคุกนะ หนูเอางั้นเหรอ และในคลิป ตำรวจยังนัดเจอน้องผู้เสียหาย ไม่ให้มาที่ สภ.เดี๋ยวพี่ไปหา ผู้เสียหาย บอกไปว่า วันจันทร์ 20.00 น. เจอที่คอนโดพร้อมใบ จะทำอะไรหรือเปล่า ตำรวจบอก ถ้าทำเดี๋ยวเอาถุงไปด้วย โอเคหรือเปล่า

ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหา สิบตำรวจตรี แล้วเปิดใจว่า เรื่องเงิน 10,000 บาท น้องนักศึกษาให้มาเอง เพราะน้องเมาให้ช่วยคุยกับคู่กรณี น้องไม่อยากให้ทางบ้านรู้ และไม่อยากให้คู่กรณีเอาเรื่อง นั่งร้องไห้ในห้องแจ้งความ เขาก็สงสาร จึงคุยกับประกันให้ จนประกันยอมเครมรถให้ทั้งสองฝ่าย ยอมรับน้องนักศึกษาให้เงินตนเอง 10,000 บาท แล้วพูดว่า “หนูจะได้โล่งพี่เอาไปเถอะ”

และยอมรับว่าพาน้องไปนั่งดื่มที่ผับจริง เพราะคุยกันว่าถ้าคุยจบเดี๋ยวไปนั่งคุยกันเท่านั้น ไม่ได้คุยเรื่องเงินเพื่อแลกไม่ถูกดำเนินคดีเมาขับ ให้ประกันมาเป็นพยานก็ได้ น้องนักศึกษาให้ข่าวฝ่ายเดียว ตนเองไม่มีโอกาสได้พูด ยืนยันไม่ได้บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ แต่เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเมา ซึ่งทีแรกสั่งเหล้ามาแบนเดียว แต่น้องไปสั่งเหล้าเพิ่มอีก 1 กลม จากนั้นก็ไปส่งที่คอนโด ยอมรับขึ้นไปที่ห้อง ตอนแรกนอนเฉยๆ จากนั้นตัวโดนตัว น้องก็เมา ตนเองก็เมา ส่วนเรื่องมีเพศสัมพันธ์ไม่ขอพูด

ส่วนเรื่องใบเป่าแอลกอฮอล์ คิดว่าน้องนักศึกษาคงไม่พอใจที่ไม่เอาไปให้ จึงมาร้องเรียน แต่ความจริงใบเป่าเป็นหลักฐานทางคดี จึงให้น้องไม่ได้ เป็นคดีของร้อยเวร เขาเป็นแค่สิบเวรรับแจ้งความเท่านั้น ทราบแล้วว่าน้องนักศึกษาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งพร้อมเข้าให้ข้อมูลกับผู้บังคับบัญชา

ต่อมานางปวีณา ได้พานางสาวเอ เข้าพบพันตำรวจเอก จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผู้กำกับการ สภ.ธัญบุรี โดยรับเรื่องพร้อมสั่งชุดสืบสวนไปตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้เสียหายว่า วันเกิดเหตุไปที่ไหนมาบ้าง รวมทั้งสั่งการให้ สิบตำรวจตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกอับอาย ถ้าเป็นเรื่องจริงที่ตำรวจทำซะเองถึงขนาดนี้ เดี๋ยวจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย หากสอบแล้วเข้าข่ายความผิดใดจะต้องดำเนินคดีทุกข้อหา

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/qxvRJRd__F0