สังคม
หนุ่มช้ำใจ โพสต์ตามหา จยย.หาย เจอมิจฉาชีพสวมรอยเป็น ตร.เรียกเงิน สุดท้ายเสียทั้งเงินและรถ
โดย nattachat_c
28 มิ.ย. 2567
11 views
หนุ่มเมืองกาญจน์สุดช้ำ ถูกหัวขโมยลัก จยย.คู่ใจ ก่อนนำคลิปโพสต์หาเบาะแส ผ่านเฟซบุ๊ก กลับถูกมิจฉาชีพสวมรอยเป็นตำรวจหลอกเงินซ้ำอีก สุดท้ายสูญทั้งเงินสูญทั้งรถ
วานนี้ (27 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานมาคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ของร้านขายโทรศัพท์ ริมถนนแสงชูโต บริเวณฝั่งตรงข้ามซุ้มประตูวัดถาวรวราราม เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี บันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อเวลา 22.50 นาฬิกา ของวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ขณะที่ ชายคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาจากฝั่งซุ้มประตูวัดถาวรวราราม และเดินมาตามริมถนนก่อนจะเดินเข้าไปหารถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave ที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้าร้านสินเชื่อรถจักรยานยนต์ โดยชายคนดังกล่าว ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมา แทงเข้าไปที่บริเวณรูกุญแจของจักรยานยนต์ด้วยความชำนาญ ก่อนจะขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
โดยหลังเกิดเหตุ นายพี อายุ 29 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ Honda Wave ที่ถูกก่อเหตุ ได้นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน แฟนสาวของนายพี ได้นำคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมรูปถ่ายรถจักรยานยนต์คันที่ถูกก่อเหตุไปโพสต์ลงใน เฟซบุ๊ก เพจ คนเมืองกาญจน์2 (รีเทิร์น) เพื่อตามหาเบาะแสของจักรยานยนต์ และคนร้ายที่ก่อเหตุ
กระทั่ง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ได้มีโทรศัพท์สายหนึ่ง โทรเข้ามาหานายพี ซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่ถูกก่อเหตุ โดยอ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอกของสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี และแจ้งให้นายพีทราบว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายพร้อมจักรยานยนต์ที่ถูกก่อเหตุไว้ได้แล้ว ในพื้นที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมขอให้นายพี โอนเงินค่าใช้จ่ายเป็นค่าแจ้งเบาะแสของสายข่าว จำนวน 3,000 บาท และค่าจ้างรถขนส่ง เพื่อนำจักรยานยนต์คันที่ถูกก่อเหตุ กลับมาส่งคืนให้กับนายพี จำนวน 1,300 บาท
ด้วยความดีใจ และอยากจะได้จักรยานยนต์คืนเร็ว ๆ ทำให้นายพีตัดสินใจโอนเงินไปให้กับมิจฉาชีพรายดังกล่าวทันที แต่สุดท้าย เมื่อติดต่อกลับไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก็ได้รับคำตอบว่า ยังไม่มีการจับกุมคนร้ายที่ขโมยรถจักรยานยนต์รายนี้ได้แต่อย่างใด
และเมื่อนายพีพยายามโทรศัพท์กลับไปหาผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ของสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพรายนี้สวมรอยเป็นตำรวจหลอกให้โอนเงินไปให้ ทำให้ต้องสูญเสียทั้งจักรยานยนต์และเงินอีก 4,300 บาท
นายพี กล่าวว่า ตนเชื่อว่า มิจฉาชีพรายนี้น่าจะเห็นโพสต์ที่แฟนตนโพสต์เรื่องจักรยานยนต์ของตน ที่ถูกขโมยลงในเฟซบุ๊ก และสวมรอยปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรมาหลอกตน ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แฟนของตนทิ้งไว้ในโพส ประกอบกับในช่วงที่มิจฉาชีพรายนี้โทรมา ตนกำลังร้อนใจและอยากได้รถคืนเร็ว ๆ จึงตัดสินใจโอนเงินไปให้ โดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน ทำให้ต้องเสียทั้งรถ และเสียทั้งเงิน
นายพี ยังฝากถึงผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตนและอาจจะถูกมิจฉาชีพสวมรอยเข้ามาหลอกซ้ำ โดยขอให้ตั้งสติให้ดี ก่อนจะหลงเชื่อหรือตัดสินใจดอนเงินไป ควรโทรศัพท์สอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีหรือพยายามถามหาหลักฐานให้แน่ใจว่า ผู้ที่ติดต่อเรามาเป็นตำรวจจริงๆ ไม่ใช่มิจฉาชีพ
ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอกสุรยุทธ เมฆมังกร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ มีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยโทรศัพท์ไปหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ และต้องสูญเสียทรัพย์สิน จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ เพราะหากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง เมื่อสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ขโมยรถ หรือทรัพย์สินของประชาชนไปได้ จะไม่มีการโทรศัพท์ไปเรียกรับเงินจากผู้เสียหายอย่างแน่นอน
-------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AtY0dFWpPWg
แท็กที่เกี่ยวข้อง กาญจนบุรี ,มิจฉาชีพสวมรอยเป็น ตร.เรียกเงิน ,ตามหารถหาย ,รถหาย