สังคม
พบเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำแล้ว ยันเรือเป็นส่วนหนึ่งเครือข่ายผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน 'โจ้ ปัตตานี'
โดย parichat_p
16 มิ.ย. 2567
45 views
ตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่าตรวจพบเรือของกลางบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ที่หายไปแล้ว ขณะลอยลำในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย กัมพูชา และเวียดนาม ขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่ ได้เข้าประกบ เพื่อให้นำกลับมาจอดเทียบท่า ที่จังหวัดสงขลา ส่วนน้ำมันเถื่อนที่บรรทุกบนเรือทั้ง 3 ลำ จะยังเหลืออยู่หรือไม่ ต้องรอตรวจสอบ โดยผู้บังคับการตำรวจน้ำจะแถลงข่าววันพรุ่งนี้
พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ยืนยันว่าพบเรือของกลางที่บรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว โดยมีลูกเรือบางส่วนอยู่กับเรือด้วย
วันพรุ่งนี้ตำรวจน้ำ จะนำเรือเข้าเทียบท่า ที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ส่วนรายละเอียด ได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรีพฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจ เป็นผู้แถลงข่าวที่กองกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา เวลา 12.00 น. วันพรุ่งนี้
ขณะที่พลตำรวจตรีพฤทธิพงศ์ เปิดเผยเบื้องต้นว่า ตำรวจน้ำ ได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จนเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พบเรือของกลางที่บรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำ กำลังลอยลำอยู่ในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะสามประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าน้ำมันบางส่วนหายไปแล้ว จึงเหลืออยู่ไม่เต็มจำนวนตามที่บันทึกไว้ในที่ถูกยึดเป็นของกลาง
นอกจากนี้ ลูกเรือจากจำนวน 16 คน ตอนนี้เหลือเพียง 8 คนเท่านั้น และที่บริเวณตัวเรือพบว่ามีความพยายามที่จะอำพรางเปลี่ยนแปลงสีของเรือน้ำมันของกลางอีกด้วย
เจ้าหน้าที่สืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า หลังจากเรือทั้งสามพร้อมลูกเรือ หลบหนีออกจากท่าเรือตำรวจน้ำที่จังหวัดชลบุรีแล้ว ได้เข้าจอดเทียบท่าที่ท่าเรือประเทศกัมพูชา โดยมีลูกเรือบางส่วนลงจากเรือไป พร้อมทั้งน้ำมันบางส่วนก็หายไปด้วย
และหลังจากมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ทำการออกตรวจลาดตระเวนทางทะเล ทำให้เรือทั้ง 3 ลำ หลบหนีออกจากท่าเรือในกัมพูชา แล้วออกสู่น่านน้ำเพื่อที่จะหลบหนี แต่จากการประสานกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถค้นพบหรือทั้ง 3 ลำที่บริเวณดังกล่าว
ขณะเดียวกันก็พบว่า เรือหนึ่งใน 3 ลำไม่สามารถขับเคลื่อนได้เอง จึงต้องลากเข้าฝั่ง ส่วนอีกสองลำที่เหลือ สามารถแล่นได้ตามปกติ
สำหรับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนดังกล่าว ถูกตำรวจปราบปรามอาญาชกรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. จับและยึดมาพร้อมกันรวม 5 ลำ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีเรือ 2 ลำที่เป็นเรือเปล่า ส่วนอีก 3 ลำ มีน้ำมันเถื่อนรวมกันมากกว่า 3 แสน 3 หมื่นลิตร
หลังจากทำบันทึกตรวจยึดการจับกุมแล้ว เรือของกลางได้จอดที่สะพานตำรวจน้ำสัตหีบ แต่ห้วงวันที่ 9 มิถุนายนมีพายุ และคลื่นลมแรง เจ้าหน้าที่ได้ย้ายเรือ 3 ลำ ไปจอดทิ้งสมอ ห่างจากสะพานตำรวจน้ำประมาณ 100 เมตร
กระเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน เรือ 3 ลำ ที่ไปจอดทิ้งสมอดังกล่าว ก็หายไปแล้ว โดยเรือของกลาง 3 ลำ ประกอบด้วย 1.เรือเจ.พี. บรรทุกน้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 7 คน // เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 6 คน // และเรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 5 คน
ตำรวจยืนยันว่า เรือทั้ง 3 ลำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ที่ชื่อ โจ้ น้ำมันเถื่อน หรือที่รู้จักกันในชื่อ โจ้ ปัตตานี ผู้ต้องหาที่ยังหนีหมายจับ และเคยถูกตรวจค้นบ้านจนพบบัญชีรายการจ่ายเงินผิดกฎหมายเพื่อทำธุรกิจเถื่อนดังกล่าว