คลิปเต็มรายการ

แฉหมดเปลือก ‘หมอเก๊’ กุโปรไฟล์หรูจบนอก ทำงานหลายรพ.ดัง หลอกให้รักสูญครึ่งล้าน

โดย JitrarutP

16 พ.ค. 2567

1K views

วันที่ 16 พ.ค. 67 รายการโหนกระแส พูดคุยกับ “เพ่ยเพ่ย” สาวผู้เสียหาย  ที่ถูกชายอ้างตัวเป็นนายแพทย์ โปรไฟล์อภิมหาอลังการ จบจากอเมริกา เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด เป็นอาจารย์หมอ สอนนักศึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลดังมากมาย เป็นอดีตทหาร อ้างว่าแม่ป่วยมะเร็ง ถูกโกงเงินไปจนไม่มีเงินจ่ายค่ายานอกให้แม่ สุดท้ายหลอกเงินของเพ่ยเพ่ยไปครึ่งล้าน

เพ่ยเพ่ย เล่าว่า ตนเคยมีข้อพิพาท ฟ้องร้องคดีฉ้อโกงกับคู่กรณีคนหนึ่ง ชื่ออ้อมตะวัน จู่ๆ ผู้ชายคนนี้ทักมาหา แจ้งว่า ตนเองก็เป็นผู้เสียหายที่ถูกอ้อมตะวันหลอกเงินไปเหมือนกัน จากนั้นเขาก็เริ่มชวนพูดคุยในลักษณะการจีบ คุยกันได้แค่ 1 สัปดาห์ เขาก็บอกรัก หว่านล้มต่างๆ นานา จนเราใจอ่อน และตกลงคบหากัน

ผู้ชายคนนี้ อ้างตัวเองว่าเป็นหมอ เป็นอดีตทหาร ไปไหนมาไหนก็จะแต่งชุดสครับแพทย์ มีชุดกาวน์แขวนที่รถ ชุดต่างๆ จะปักชื่อ ดร.(ชื่อจริงของเขา) ที่หน้าอกทุกชุด เขาบอกว่าเป็นแพทย์พิเศษที่ถูกรับเชิญ บอร์ดออฟอเมริกา ของ รพ.ในเครือ รพ.กรุงเทพ เพราะตนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด เคยผ่าตัดมากว่าหมื่นๆ เคส แล้วยังสอนนักศึกษาแพทย์อีกหลากหลายโรงพยาบาลดัง ทั้ง รพ.ศิริราชปิยมหาการุณ, รพ.ธรรมศาสตร์, รพ.ม.บูรพา, รพ.รามาธิบดี และ รพ.กล้วยน้ำไท


โดยทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นโรงพยาบาลที่ตนไม่เคยไปมาก่อน มีแค่ที่เดียวคือ รพ.กล้วยน้ำไท ที่เขาไปทำธุระกับศูนย์ความงามเปิดใหม่ของโรงพยาบาล คนในนั้นเขาก็เรียกผู้ชายคนนี้ว่า “พี่หมอกอล์ฟ” “อาจารย์หมอกอล์ฟ” ลักษณะดูเหมือนสนิทสนมกัน รู้จักกันดี ผู้ชายคนนี้อ้างว่าแม่ของเขาป่วยเป็นมะเร็ง พาเราไปเจอแม่ ก็เจอว่าแม่ป่วยจริงๆ น่าสงสารจริงๆ เขาไปนั่งทายาให้แม่ ร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าเรา ทำให้เราสงสารมากๆ

ช่วงหลังๆ เขามาอ้างว่า ไม่มีเงินเลย เพราะเงินเดือนต่างๆ ยังไม่ออก แต่หมดเงินไปกับการรักษาแม่ที่ป่วยมะเร็ง และเงินเก็บทั้งหมดก็สูญไปเพราะถูกอ้อมตะวันโกงไป มาขอยืมเงินเรา มาขอให้เราจ่ายค่านั่น ค่านี่ให้ หมดเงินไปร่วมๆ 5 แสนกว่าบาท

ต่อมาเขามาบอกว่า มีเด็กคนหนึ่งเป็นลูกของเพื่อนหมอด้วยกัน พ่อเด็กเสียชีวิต สงสารมาก อยากจะรับอุปการะเป็นลูกบุญธรรม เราก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะสงสารเด็ก ถึงกับซื้อนม ซื้อขวดนมให้ จนมาเห็นความจริงทีหลังจากรูป ผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กคนนี้ ที่แฟนเราส่งรูปมาให้ดูทุกวัน สืบจนรู้ว่าจริงๆ เด็กคนนี้คือลูกของเขาเอง ที่มาอ้างว่าเป็นลูกของเพื่อนที่ตาย

เรื่องราวมาแตกหัก คืออยู่ดีๆ วันหนึ่งเขามาบอกเลิกเรา อ้างว่าพฤติกรรมเรารุนแรง เพราะอาการวิตกกังวล เขาทนคบกับเราไม่ไหว ทั้งที่ที่ผ่านมาก็รักกันดีมาตลอด แต่อยู่ดีๆมาบอกเลิกตอนที่เราหมดเงินไปหลายแสนกับเขาแล้ว แล้วก็เป็นตอนที่มารู้ว่าเขามีลูกอยู่แล้ว และผู้หญิงคนเก่าของเขา (แม่ของลูก) ก็บอกว่ายังไม่ได้เลิกรากัน

เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ฝ่ายชายพยายามหลบหน้า เพ่ยเพ่ยจึงบุกไปหาที่ออฟฟิศ โดยพกอาวุธมีดไปด้วย แต่เขาล็อกประตูไม่ให้เข้า จึงมีเหตุอาละวาด ตะโกนด่าทอ ถีบประตู เพื่อจะให้ฝ่ายชายออกมาคุยกัน และยอมรับว่าได้ใช้อาวุธมีดแทงฝ่ายชายไป 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ

หลังจากที่เพ่ยเพ่ย ได้พูดในมุมของตัวเองไปแล้ว หนุ่มคู่กรณีได้โทรเข้ามา พยายามจะชี้แจงว่าความสัมพันธ์ของเขากับเพ่ยเพ่ย มีปัญหาเพราะผู้หญิงบังคับให้เขาไปจดทะเบียนสมรส แต่เขาไม่ยอม ทำให้เริ่มมีปัญหา ผู้หญิงมีพฤติกรรมติดแอลกอฮอล์ พอเมาแล้วก็มีอารมณ์รุนแรง ทำให้ตนทนอยู่ด้วยไม่ได้

แต่เมื่อถูกถามคำถามสำคัญคือ “เป็นหมอจริงไหม” หนุ่มคนนี้กลับตอบเลี่ยงไปเลี่ยงมา บอกว่า “ไม่ได้สอบใบประกอบโรคศิลปะที่นี่” และ “ที่นี่ผมไม่ใช่หมอ” และ “ผมจบจากนอกมา” แต่ไม่ยอมตอบตรงๆ ว่าเป็นหมอที่ไหน เป็นหมอได้อย่างไร ตำแหน่ง ผศ.ดร. มีจริงไหม สิ่งเหล่านี้ไม่มีคำตอบ ทำให้ในช่องแชตของไลฟ์สดรายการ นักเรียนในห้องโหนกระแสงงไปตามๆ กัน และจี้ให้หมอตอบว่า จริงๆ แล้วเป็นอะไร

หนุ่มคนนี้ยังถูกถามว่า เคยถูกจำคุก ต้องคดียาเสพติด แต่อดีตเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ สุดท้ายก็วางสายไป ไม่ยอมตอบอะไรอีก

ขณะที่ นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี บอกว่า การอ้างตำแหน่ง อ้างเป็นแพทย์ อะไรต่างๆ เหล่านี้ มันมีความผิดตามกฎหมาย จะมาอ้างลอยๆ มั่วๆ ไม่ได้ ถือว่ามีความผิด แล้วถ้ามีคนหลงเชื่อ ไปรับการรักษาทั้งที่เขาไม่ใช่หมอ มันก็จะเป็นความผิด

ต่อมายังมีคุณเล็ก ผู้เสียหายอีกคนที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกับเพ่ยเพ่ย ติดต่อเข้ามาเล่าว่า เขาไม่ได้อ้างว่าเป็นหมอ แต่บอกว่าตัวเองเป็นเภสัช ทำบริษัทยา บริษัทเครื่องมือแพทย์ เทรดคริปโต มีเหตุการณ์ชวนเชื่อมากมายอาทิ เวลาไปไหนมาไหนกัน จะมีคนแปลกหน้าเข้ามาทักเขา แล้วขอบคุณเขา ว่าเทรดตามที่เขาแนะนำแล้วร่ำรวย ได้เงินทองมากมาย ถึงกับมีคนซื้อทองมามอบให้เป็นการขอบคุณเลยก็มี

แต่สุดท้ายก็มามีปัญหา เลิกรา และมีคดีความกัน เราไปแจ้งเอาผิดเขา 2 คดี คือ ทำร้ายร่างกาย และ ฉ้อโกง โดยคดีอยู่ระหว่างกระบวนการตามกฎหมาย แต่ก็มารู้ความจริงที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือเมื่อเรากลับไปตามหาเขา ที่บ้าน ที่เราเคยไปอยู่อาศัยใช้ชีวิตกับเขามาก่อน เพื่อให้ตำรวจมาเอาตัวเขาไปสอบสวน ไปถามว่าเขายังอยู่ที่บ้านหลังนั้นไหม กลับพบว่า เขาถูกไล่ออกจากบ้านไปแล้ว เพราะจริงๆ มันเป็นบ้านของใครก็ไม่รู้ ที่เขาแอบอ้าง ทำเอกสารปลอม หลอกนิติบุคคล แล้วบุกรุกเข้าไปอยู่ จนความแตกเพราะเจ้าของบ้านตัวจริงมาเจอ แล้วก็เลยถูกไล่ออกมา

คุณอาจสนใจ

Related News