สังคม

เปิดข้อสงสัย เอกชนซื้อ-ขายกากแคดเมียม ทำได้หรือไม่?

โดย panwilai_c

19 เม.ย. 2567

78 views

ประเด็นการเตรียมความพร้อมสำหรับนำกากแร่แคดเมียมกลับไปฝังกลบที่จังหวัดตากแล้ว ยังมีประเด็นที่น่าติดตามว่าการที่ บริษัทเบาวด์ แอนด์ บียอนด์ ประมูล ขายกากแร่แคดเมียม และทำสัญญาซื้อขายกับบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล นั้น แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เอกชนทำได้ แต่ในทางกฎหมายภาครัฐแล้วยังเป็นข้อสงสัยว่าทำได้ หรือไม่ เพราะกากแร่นั้นถูกฝังกลบถาวรตาม EIA เพราะเป็นสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นของเสียอันตราย และโดยปกติหาก บริษัทเบาวด์ แอนด์ บียอน ต้องการย้าย กากแร่แคดเมียม ออกจากพื้นที่ ก็ควรจะเป็นไปในลักษณะว่าจ้างให้ไปกำจัด มากกว่าจะเป็นการซื้อขาย



การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล เมื่อวานนี้ เขาได้เปิดเผยว่ามีสัญญาซื้อขายกากแร่แคดเมียม กับบริษัทเบาวด์ แอนด์ บียอนด์ รวมถึงเอกสารขออนุญาตขนย้ายและครอบครองกากแร่ ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง



แต่ข่าว 3 มิติ มีข้อสังเกตุว่ากากแร่แคดเมียมที่ถูกฝังกลบอย่างถาวร ตาม EIA ถือเป็นสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นของเสียอันตราย อยู่ภายในการกำกับดูแล ของเจ้าหน้าที่นั้น เอกชนจะขุดขึ้นมาขายได้หรือไม่ เพราะข้อกฎหมายบ่งชี้ว่า เมื่อเป็นสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นของเสียอันตราย ถูกฝังกลบถารแล้วนั้น สิ่งที่จะทำได้คือการย้ายไปกำจัดที่อื่นด้วยวิธี และมาตรการที่ปลอดภัยไม่น้อยไปกว่าเดิม



และมีข้อสังกตุว่าการดำเนินการดังกล่าว ควรจะเป็นไปในลักษณะที่บริษัทเบาวด์ แอนด์ บียอน์ด ในฐานะผู้ก่อกำเนิดกาก ต้องว่าจ้างให้บริษัท เจ แอนด์บี รับไปกำจัด แต่กรณี้ไม่ใช่ทำสัญญาว่าจ้าง แต่เป็นการซื้อขาย ซึ่งเอกชนอาจทำกันเองได้ แต่กับภาครัฐอนุญาตได้หรือไม่



กรณีนี้ เจ้าหน้าที่รัฐจะอ้างว่าไม่ทราบว่ามีการซื้อขายก็เป็นไปได้ยาก เพราะเอกสาร จำนวน 17 หน้า ที่อุตสาหกรรมจังหวัดตาก นำมารายงานต่อกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 3 เมษายที่ผ่านมานั้น เอกสารใบที่ 15 ที่อุตสาหกรรมจังหวัดตาก ใช้อ้างอิงขั้นตอนการขออนุญาตขนย้ายกากปฏิกูลชนิดนี้ มีข้อมูลการที่บริษัท เบาว์ แอนด์ บียอน ขอขนย้ายกาก ระบุว่าชัดเจนว่า ชื่อวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว คือกากแคดเมียม กากสังกะสี จำนวน 15,000 ตัน โดยผู้รับดำเนินการปลายทาง คือ ระหัสของบริษัท เจ แอนด์บี



นอกจากระบบนี้จะบอกชนิดของกากว่าเป็นแคดเมียม และกากสังกะสีแล้ว ยังแนบไฟล์ประกอบคำขอ ทั้งหมด 7 รายการ โดยรายการที่ 1 คือสัญญาซื้อขาย ที่เหลือจากนี้เป็นไฟล์ภาพถ่าย รง.4 และผลวิเคราะห์เป็นต้น



ข่าว 3 มิติ ยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหาว่ากรณีนี้เป็นข้อความเป็นเท็จ แต่ข้อเท็จจริงที่มีสัญญาซื้อขาย ต่อกากแร่ที่ต้องกำจัดเพราะถุกจัดเป็นวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว นั้นถูกต้องตาม กฎหมายหรือไม่ หรือที่ถูกต้องแล้วต้องเป็นการว่าจ้างไปกำจัด



ขณะเดียวกันข่าว 3 มิติ ก็ยืนยันว่า ต่อให้กรณนีี้มีการทำสัญญาว่าจ้าง ไปกำจัด การที่จะขุดขึ้นมาใหม่ ก็ยังมีข้อสังเกตุว่า บ.เบาด์ แอนด์บียอนด์ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการเรื่อง EIA หรือไม่ เพราะแม้ในสัญญาระหว่างเอกชนสองฝ่าย จะกำหนดให้ เจ แอนด์ บี รับผิดชอบเรื่อง EIA แต่ผู้ก่อกำเนิดกากตามกฎหมายแล้ว ถือว่าเป็นของ เบาวด์ แอนด์ บียอนด์



ในกรณี้ สอดคล้องกับที่ผู้บังคับการตำรวจ ปทส. ระบุว่า บริษัทเบาด์ แอนด์ บียอน ที่เป็นเจ้าของกากนี้ ที่จ.ตาก ไม่อาจพ้นความผิดรับผิดชอบไปได้ เพราะกฎกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีผลเมื่อ 1 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ระบุชัดเจนว่า บริษัทผู้ก่อกำเนิดกาก ต้องรับผิดชอบจนกว่ากากนั้นจะถูกกำจัดไปอย่างถูกต้อง



แม้ข้อสงสัยของข่าว 3 มิติว่า กากแร่นี้แท้จริงขุดขึ้นมาประมูลขายได้หรือไม่ จะยังไม่ได้คำตอบ แต่การชี้แจงในกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก็มีคำตอบจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่า ในประเทศนีไม่มีโรงงานใดมีศักยภาพ และได้รับอนุญาตให้หลอมแคดเมียมได้นั้น นั่นจึงเกิดคำถามว่า ใบอนุญาตที่ขอไปกำจัดนั้น ไม่สอดคล้องกับการสัญญาซื้อขายอย่างแน่นอน

คุณอาจสนใจ