สังคม
เปิดใจ ‘เสี่ยเจษ’ ยันได้รับอนุญาต ขนย้ายกากแคดเมียม หลังถูกแจ้ง 4 ข้อหา
โดย attayuth_b
18 เม.ย. 2567
52 views
นายเจษฎา เข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีรับซื้อกากแร่แคดเมียม เพื่อเตรียมส่งขายให้ชาวจีนที่ตั้งโรงงานในประเทศลาว
นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร นำหลักฐานชี้แจงยืนยันว่า ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขนย้ายต้นทาง ถึงปลายทางได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ยอมรับผิดในส่วนที่นำไปขายก่อน เรื่องนี้ข่าว 3 มิติมีข้อสังเกตนะครับว่า โดยปกติ กากแคดเมียมที่ถูกฝังกลบถือเป็นวัตถุอันตรายโดยหลักบริษัทต้นทาง ต้องว่าจ้างให้นำไปกำจัด แต่กรณีนี้ไม่ใช่ว่าจ้าง แต่เป็นการซื้อขาย และพบว่าเตรียมการมา ตั้งแต่ปี 3 ปีที่แล้ว
นายเจษฎา ยื่นเอกสารให้สื่อมวลชนตรวจสอบได้ว่าทุกขั้นตอนของการซื้อกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบอยู่แล้ว ของบริษัทเบาวด์ แอนด์บียอนด์ จ.ตาก เขาเชื่อว่าเป็นไปอย่างถูกต้อง เอกสารส่วนหนึ่งจาก 26 แผ่นที่นายเจษฎา นำมาเปิดเผยเช่นภาพเครื่องอบ บด ร่อน กากตะกรัน ที่บริษัทเจ แอนด์ บี ซื้อมาจากอังกฤษ และเตรียมไว้เพื่อรองรับการบด เป็นสิ่งยืนยันว่ามีเครื่อมือ แม้จะชี้แจงว่าเครื่องอยู่ระหว่างซ่อม นอกจากนี้ ยังหลายภาพ บ่งชี้ว่ามีการลงพื้นที่ จ.ตาก โดยเฉพาะภาพนี้ ที่ระบุว่า เป็นการสำรวจกากช่วงปลายปี 2565 เป็นสิ่งยืนยันข้อสันนิษฐานของข่าว 3 มิติว่า การขุดกากแร่แคดเมียมขึ้นมาขายนั้น เริ่มดำเนินการมาเกือบ 3 ปีแล้ว
นายเจษฎา เปิดเผยว่าบริษัทเขาเป็น 1 ใน 4 บริษัท ที่ยื่นประมูลซื้อกากแคดเมียมจากบริษัทเบาวด์ แอนด์บียอน โดยชนะการประมูลด้วยการซื้อกิโลละ 1 บาท 25 สตางค์ รวมประมาณ 80 ล้านบาท ทำคำขอขนย้าย 15,000 ตัน แต่ขนย้ายจริง ราว 13,800 ตัน ซึ่งเชื่อว่าที่พบตอนนี้ราว 12,000ตัน ครบแล้ว เพราะที่เหลือเป็นของ เหลวและ ความชื้ื้นที่หายไป
ประเด็นสำคัญคือเขายืนยันว่า ในขั้นตอนการขออนุญาตขนย้าย ที่จ.ตาก มาถึงสมุทครสาคร ได้รับอนุญาตถูกต้อง หรือแม้แต่การนำมาเก็บและครอบครองไว้ที่โรงงาน เจ แอนด์ ที ที่สมุทรสาครก็ถูกต้อง เพราะได้เพิ่มการขออนุญาตกำจัดแคดเมียมไปเมื่อปลายปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยอมรับว่าเขาทำผิดเงื่อนไขตรงที่ เขารับกากแคดเมียมมา เพื่อกำจัด แต่ได้ส่งขายให้นายจาง 5พันตัน ตันละ 8.25 สตาง์ หรือกำไรตันละ 7 บาท และที่เหลือกำลังเจรจา ส่งขายให้ชาวจีนที่ไปตั้งโรงงานในประเทศลาว แต่อยู่ระหว่าง ขออนุญาตกรมโรงงาน
นายเจษฎา อ้างว่าในสัญญาซื้อขายเขารู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ แต่เมื่อคำนวณถึงกำไร จึงยอมตกลง และอ้างว่าผู้ขายได้แจ้งเรื่อง EIAอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ในรายละเอีย โดยเขาเชื่อว่า น่าจะเป็นเรื่่องที่เบาวด์ แอนดบียอด์ ในฐานะผู้ขายต้องรับผิดชอบ
ประเด็นว่าการขุดกากแร่ขึ้นมาใหม่ ได้ทำEIA หรือไม่ และเป็นหน้าที่ใครระหว่างผู้ซื้อหรือผู้ขาย เป็นคำถามที่ข่าว 3 มิติ ตามแกะรอยมาตลอด กระทั่งวันนี้ที่ผู้บังคับการ ตำรวจ ปทส.เปิดเผยโดยอ้างอิงสัญญาระหว่าง เจ แอนด์ บี กับเบาวด์ แอนด์ บียอนด์ว่า ความรับผิดชอบทั้งเรื่อง EIA แจ้งหน่วยงานรัฐ และรับผิดชอบผลกระทบ ให้เป็นเรื่อง ของผู้ซื้อ ทั้งหมด
หากยึดตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายดังกล่าว เท่ากับว่าบริษัท เจ แอนด์ บี ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบเรื่อง EIA ก่อนขุดขึ้นมาด้วย แม้จะมีคำถามว่าโดยหลักแล้ว เจ้าของกาก หรือ west genarator ควร ต้องเป็นผู้รักษามาตรการนี้ตาม EIA นอกจากนี้ ข่าว 3 มิติ ยังมีข้อสังเกตุว่าบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอน ที่เป็นผู้ก่อกำเนิดกาก /หากต้องการย้ายกากออก เพื่อพัฒนาที่ดิน ก็ต้องว่าจ้างบริษัทเจ แอนด์บี ที่เป็นผู้รับจำกัดกาก หรือ west processor ตามประเภท กิจการ 106 หรือรีไซเคิล เพื่อไปกำจัด แต่กรณนี้ ไม่ใช่สัญญาว่าจ้างนำไปกำจัด แต่เป็นสัญญาซื้อขาย และได้ใบอนุญาตขนย้ายระหัส 049 ก็เป็นการอนุญาตเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้วยวิธีอื่น ซึ่งไม่สอดคล้องกับการกำจัด ประเด็นข้อสังเกตเหล่านี้พนักงานสอบสวนจะนำไปตรวสอบอย่างละเอียด
วันนี้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานายเจษฎา 4 ข้อหา ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมลงบันทึกแจ้งความไว้ 4 คดี คดีแรก ที่ตั้งบริษัท เจแอนด์บี 132 หมู่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง สมุทรสาคร แจ้งเอาผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน คดีที่ 2. ความผิด ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย กรณีเก็บกากแคดเมียมในโรงงานที่ไม่ได้ระบุในเอกสารอนุญาต คดีที่ 3 ร่วมกันครอบครองวัตถุอันตราย กรณีไปเช่าโกดังในตำบลคลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน เก็บกากแคดเมียม และคดีที่ 4 ความผิดฐานฐานครอบครองวัตถุอันตราย กรณีนำกากแคดเมียม ไปเก็บไว้ที่บริษัท ล้อโลหะไทย แมททอล จำกัด ย่านบางซื่อ ซึ่งอ้างว่าเป็นสินค้าตัวอย่างให้ลูกค้าชาวจีนได้ไปตรวจสอบคุณภาพ
ด้านทนายความนายเจษฎา ระบุว่าได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และจะให้การอย่างละเอียดในภายหลัง