นายกฯ เรียกถกสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา 'ปานปรีย์' ยันเครื่องบินจอดแม่สอด ขนแค่ 'เอกสารราชการ'

ก่อนการประชุมครม.วันนี้ นายยกรัฐมนตรีได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือในวงย่อยถึงสถานการณ์สู้รบในเมียนมา โดย นายเศรษฐา ย้ำจุดยืนของไทย ว่าจะไม่ก้าวก่ายกิจการภายในและวางตัวเป็นกลางต่อสถานการณ์นี้ ขณะรัฐมนตรีต่างประเทศ ยืนยันกรณีเครื่องบินเมียนมาลงจอดที่แม่สอด เป็นการขนเอกสารทางราชการเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับด้านทางทหารแต่อย่างใด



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประชุ่มร่วมกับ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก เพื่อติดตามสถานการณ์ ชายแดนไทย เมียนมา และการรับมือต่อสถานการณ์



โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าประเทศไทยมีจุดยืนที่เป็นกลาง ในการช่วยเหลือด้านมนุษยชนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ โดยไม่ก้าวก่ายในกิจการภายในของแต่ละประเทศ​



ขณะที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่พบประชาชนเมียนมาที่อพยพข้ามแดนเข้ามาเพื่อขึ้นเครื่องที่ฝั่งไทย จึงมีเพียงสัมภาระและเอกสารเท่านั้นที่นำเข้ามาเพื่อขนกลับ โดยเครื่องบินเมียนมา ที่ขอลงจอด ที่แม่สอด สรุปแล้ว เป็นการ ขนเอกสารทางราชการเท่านั้น ไม่มีอาวุธ หรือ กำลังพล ใดๆ ร่วมด้วย และเอกสารที่ผ่านด่านเข้ามาก็ได้รับการตรวจสอบแล้ว



ส่วนการหารือ กับนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงถึงการเตรียมรับมือของไทยในกรณีสถานการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งเบื้องต้นมีแผนรองรับแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถรับผู้หนีภัยสู้รบจากเมียนมาได้ประมาณ 1 แสนคน



ส่วนกรณีอาจเกิดปัญหาการเข้า-ออกระหว่างแดนไม่ได้ก็มีแผนจะเปลี่ยนไปพื้นที่ชายแดนอื่นต่อไป