สังคม

อุกอาจ! คนร้ายบุกรพ. ทำทีขอรักษา บีบคอจนท.สาว ก่อนชิงรถชาวบ้านขับหนี

โดย nut_p

8 เม.ย. 2567

407 views

อุกอาจ! ชายปริศนา บุกโรงพยาบาล ทำทีขอรักษาหลายครั้ง ก่อนปรี่เข้าทำร้าย บีบคอเจ้าหน้าที่สาว โชคดีเจ้าหน้าที่ดิ้นหลุด คนร้ายจึงวิ่งไปชิงรถชาวบ้านขับหนี



เกิดเหตุคนร้ายสวมเสื้อแขนยาวคอปกสีฟ้า กางเกงขาสั้น เข้ามาทางด้านหลัง ก่อนใช้มือปิดปากและบีบคอ เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ห้วยแอ่ง ต.ห้วยแอ่ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ก่อนที่ตัวเจ้าหน้าที่จะดิ้นรนจนรอดพ้นเงื้อมมือคนร้าย และวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือ ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 7 มีนาคม 67 ภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านห้วยแอ่ง ต.ห้วยแอ่ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม



จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ห่างจาก รพ.สต.บ้านห้วยแอ่งไปประมาณ 150 เมตร พอดีกับที่นางราตรี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูมเมอร์เอ็กซ์ สีชมพู-ดำ ทะเบียน 1กจ 4763 มหาสารคาม ออกมาจากบ้านพัก ก่อนที่คนร้ายจะพูดจาข่มขู่ให้ลงจากรถ และคนร้ายก็ได้ขี่จยย หลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้



โดยวันนี้ (8 เมษายน 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าตูม และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานภายในที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำขวดน้ำ ผ้าก็อซ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมีลายนิ้วมือของคนร้าย ไปตรวจสอบเพื่อหา DNA ประกอบสำนวนคดี



สอบถาม นางสาวนันทิดา พรมมา หรือ หมอหนูแดง อายุ 31 ปี เล่าว่า เมื่อวานนี้ขณะที่ตนกำลังเข้าเวรอยู่ โดยนั่งอยู่ที่โต๊ะบริการจุด one stop service ก็ได้มีชายสวมเสื้อแขนยาวคอปกสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่รองเท้าเตะ เข้ามาภายใน รพ.สต. โดยมาขอใช้บริการล้างแผลที่บริเวณน่องข้างขวา มีแผลเย็บ ซึ่งตนเองดูแผลแล้ว ก็พบว่าแผลแห้งดี ไม่ต้องล้าง ก็ได้สอบถามถึงบัตรประชาชนเพื่อที่จะได้ตรวจสอบสิทธิ์ คนร้ายก็บอกว่าไม่ได้เอาบัตรมา เดินทางมาจาก จ.ร้อยเอ็ด ทะเลาะกับแม่มา และกำลังจะไปหาพระในจังหวัดมหาสารคาม จะต้องเดินเท้าไป พอตนไม่ล้างแผลให้ ก็บอกว่าปวดแผล ขอยาพารา ตนจึงได้ให้ยาพาราไป 1 แผง แต่คนร้ายแกะกินแค่ 1 เม็ด ก่อนที่จะเดินออกไป จากนั้นไม่นาน รอบที่ 2 คนร้ายก็เดินเข้ามาอีกบอกว่าที่เท้าเป็นแผลถลอกจากรองเท้ากัด และเดินมาไกล ขอพลาสเตอร์ปิดแผล ตนก็หยิบพลาสเตอร์ยาปิดแผลส่งให้ โดยให้คนร้ายนำไปติดแผลเอง และรอบที่ 3 ก็มาขอพลาสเตอร์ปิดแผลอีก ขอสำลีเพิ่ม เพราะว่าอันเก่ามันหลุด แล้วคนร้ายก็ขอยาพาราอีก 2 เม็ด ตนได้ให้พลาสเตอร์ยากับสำลีไป แต่ไม่ได้ให้ยาพารา ก็ได้อธิบายกับคนร้ายว่ายาพาราต้องกินทุก 4-6 ชั่วโมง



โดยที่คนร้ายได้มาบอกว่าจะเข้าไปที่ตัวเมืองมหาสารคาม แต่จะขอมารอรถโดยสารสีชมพูที่บริเวณศาลาใน รพ.สต. ได้ไหมตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ ให้ไปรอที่ศาลารอรถด้านนอกก็เหมือนจะเข้าใจ คนร้ายก็ขอบคุณแล้วก็ออกไป



ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้เดินสำรวจรอบ ๆ รพ.สต. ว่าคนร้ายได้ออกไปจริง ๆ ซึ่งตนก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ก็เลยกำลังแชทไลน์กลุ่มคุยกับเพื่อน ว่าจะทำอย่างไรดี เหตุการณ์มันแปลก ๆ จะแจ้งความดีไหม ซึ่งคนร้ายก็ได้เข้ามาอีกเป็นรอบที่ 4 โดยเข้ามาอีกประตู ก่อนที่จะมาเอามือปิดปากตน อีกมือหนึ่งก็บีบคอ จนเองสู้จนสุดแรง อยากจะร้องเรียกให้คนช่วย แต่ก็ร้องไม่ออก พอสะบัดหลุดจากคนร้ายก็รีบวิ่งออกมาที่ด้านนอก พร้อมกับกรี๊ด และตะโกนให้คนช่วย ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นก็เห็นถึงความผิดปกติ ก็เลยรีบวิ่งมาดู ส่วนคนร้ายก็วิ่งหลบหนีไปทางเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ก่อนที่จะไปแจ้งตำรวจ



ตนเคยดูแต่ในข่าว ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เห็นข่าวครูที่เชียงใหม่ก็ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง รู้สึกตกใจมาก ๆ รู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก น่ากลัวมาก ตนนี้ก็ยังเจ็บที่คออยู่นิดหน่อย แต่อาการโดยรวมก็ไม่ได้รุนแรงอะไร



นางกรรณิการ์ โง่นสุข ผอ.รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง กล่าวว่า ตอนช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ มีเพียงน้องหนูแดง กับน้องสาวมาอยู่เป็นเพื่อนกันที่ รพ.สต. แต่ช่วงที่เกิดเหตุ น้องสาวอยู่อีกห้องหนึ่งทางด้านหลังจึงไม่ได้ยินเสียง ก่อนที่จะทราบข่าวว่า น้องหนูแดงถูกทำร้าย ก็เลยสอบถามว่าน้องเป็นยังบ้าง ก็บอกมาว่าปลอดภัยแล้ว น้องก็ส่งคลิปให้ดู ก็เลยบอกน้องให้ไปแจ้งความ ซึ่งตนก็ตกใจมาก เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ทาง สภ.ท่าตูม ก็ได้ออกมาดูที่เกิดเหตุ และน้องหนูแดงก็ให้ปากคำในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งคนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน



โดยปกติแล้วในการรับบริการก็ต้องมีการใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตน แต่ด้วยความที่คนไข้แวะมา ก็ไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ ก็พิจารณาเป็นราย ๆ ไป อย่างรายไหนที่มีความเสี่ยง เราก็จะระมัดระวังตัวเอง แต่ด้วยน้องหนูแดงเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ได้เพียงปีกว่า ๆ ก็อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มากนัก และอาจจะไม่ได้คิดถึงความเสี่ยงกับตัวเอง ใจคงคิดแต่อยากให้บริการผู้ป่วยมากกว่า ส่วนใหญ่เวลาเจ้าหน้าที่อยู่เวร ก็จะเปิดประตูไว้ด้านเดียว แต่พอดีว่าวันที่เกิดเหตุ อสม. จะมาส่งเอกสาร ก็เลยเปิดประตูไว้ 2 ประตู จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น หลังจากนี้จะต้องมีการป้องกันเหตุเพิ่มเติม โดยช่วงเวลาเข้าเวรก็จะได้จัดเจ้าหน้าที่มาเข้าเวรครั้งละ 2 คน และขอเข้าแผนครุภัณฑ์ เพื่อจัดซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเพิ่มเติม



ด้านนายเกียรติศักดิ์ คำนวนอินทร์ ซึ่งมาทำแผลที่ รพ.สต. เล่าว่า เมื่อวานนี้เพื่อนในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่คนร้ายจะไปชิง รถ จยย.ของนางราตรี คนร้ายได้มาโบกรถของเพื่อนตน เพื่อนของตนก็จอดรถสอบถามว่าเป็นอะไร ไปยังไงมายังไง คนร้ายก็บอกกับเพื่อนว่า ถูกทำร้ายมาให้ไปส่งที่ในตัวเมืองมหาสารคามหน่อย แต่เพื่อนของตนไม่ไป คนร้ายก็เลยกระโดดคร่อมที่ด้านหลัง เพื่อนของตนก็บิดรถหนี คนร้ายก็เลยตกรถ ไม่ได้รถไป ก่อนที่คนร้ายจะไปชิงรถของยายราตรี



ด้านนางสาวนงนภัส โสดาวิชิต หลานสาวของนางราตรี เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองอยู่หลังบ้าน ป้ากำลังขี่รถ จยย. ออกไปซื้อของ พอดีกับคนร้ายวิ่งมา เหมือนกับมาวิ่งออกกำลังกาย ป้าก็เลยหยุดรถให้ แต่ก็ปรากฏว่าคนร้ายก็ได้มาพูดจาบอกให้ป้าลงจากรถ แล้วก็มาจับแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ด้วยความกลัว ป้าก็ลงรถ แล้วคนร้ายก็ขับขี่รถหลบหนีไป



ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม ก็ได้ลงพื้นที่จะติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิด และเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่ามีพลเมืองดีพบเห็นคนร้ายอยู่ในพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น แต่ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าคนร้ายจริงหรือไม่ ซึ่งหากใครพบเห็นบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว ก็สามารถแจ้งได้ ที่ สภ.ท่าตูม หรือ ที่งานสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม

คุณอาจสนใจ