สังคม

เจอ 'กากแคดเมียม' 7 พันตัน ซุกโกดังชลบุรีของชาวจีน - ตากตรวจบ่อฝังกลบ ขอปชช.วางใจ

โดย passamon_a

7 เม.ย. 2567

423 views

จากกรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมโรงงาน และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบและยึดอายัดกากแคดเมียม ที่อยู่ภายในโรงงาน เจแอนด์บี เมททอล จำกัด พื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร


ทั้งนี้ ระหว่างการเข้าตรวจค้น ตำรวจ บก.ปทส. ซึ่งรับผิดชอบสืบสวนการกระทำความผิดอาญาที่เกิดขึ้น ตรวจสอบพบว่า กากแคดเมียมที่ขนย้ายมาจาก จ.ตาก 15,000 ตัน สูญหายไปจากบริษัทฯ บางส่วน จึงขอหมายค้นบริษัทฯ และตรวจยึดเอกสารต่าง ๆ จนไปพบเอกสารการขนส่งจากบริษัทดังกล่าว มาที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี


เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 เวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจ บก.ปทส. พร้อมด้วย นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงเข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบถุงบิ๊กแบ็คบรรจุวัตถุลักษณะคล้ายกากแคดเมียม และหน้าถุงพ่นสี วัน เดือน ปี การขนส่ง เหมือนกับที่เจอในโรงงาน จ.สมุทรสาคร วางตั้งอยู่ในโรงงาน 2 โกดัง จึงประสานกรมโรงงาน และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เบื้องต้นกรมโรงงานยืนยันว่า เป็นกากแคดเมียมจริง


ทั้งนี้ มีรายงานจาก บก.ปทส. ที่ร่วมตรวจค้นระบุว่า พบกากแคดเมียมกว่า 7,000 ตัน ในโกดัง จ.ชลบุรี และมีคำสั่งปิดโกดังเพื่อตรวจสอบ จากข้อมูลยังพบว่า พื้นที่บริเวณที่ถูกตรวจพบ มีอาคารลักษณะเป็นโกดังไม่ต่ำกว่า 20 อาคาร ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ระบุว่า โกดังของโรงงานบริเวณนี้ มีใบอนุญาต 4 โรงงาน แต่ยังไม่ได้แจ้งประกอบกิจการ นั้นหมายความว่ายังไม่สามารถประกอบกิจการได้ นอกจากนี้ยังระบุว่าโกดังอื่น ๆ ภายในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาต


นอกจากนี้ยังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า มี 3 บริษัทเป็นเจ้าของ ในจำนวนนี้ มีใบอนุญาต 1 ใบ ระบุเป็นโรงงานลำดับที่ 53 บดอัด หล่อหลอมพลาสติก โรงงานที่ 2 มีใบอนุญาต 1 ใบ ระบุเป็นโรงงานลำดับที่ 53 บดอัด หล่อหลอมพลาสติก และโรงงานที่ 3 มีใบอนุญาต 5 ใบ ระบุเป็นโรงงานลำดับที่ 53 จำนวน 4 ใบ ส่วนอีกใบเป็นโรงงานลำดับที่ 105 คัดแยกของสียที่ไม่เป็นอันตราย แต่ใบอนุญาต ทั้ง 7 ใบ ยังไม่ได้แจ้งขออนุญาตประกอบการ


ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายหลิว ลู่ อายุ 38 ปี ชาวจีน เจ้าของโกดัง ไปดำเนินคดี ที่ สภ.คลองกิ่ว โดยมีนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และนายพรชัย แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมแถลงผลทางคดี


โดยผลตรวจสารทั้งหมดจำนวน 7,000 ตันนั้น เป็นสารแคดเมียม ซึ่งเป็นสารอันตราย แต่จากการตรวจสอบพบว่ายังบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ค ยังไม่มีการเอาออกมาหลอมละลาย และจากการสอบปากคำนายหลิว ลู่ รับสารภาพว่า รับซื้อมากากแคดเมียมมาจากมิสเตอร์จาง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 7 พันตัน ในราคาตันละ 1 หมื่นบาท เพื่อรอการจำหน่าย โดยจะนำลงเรือส่งขายให้ลูกค้าที่ประเทศจีน แต่อ้างว่ายังหาตู้คอนเทนเนอร์ไม่ได้ จึงยังไม่ได้ส่งแม้แต่เที่ยวเดียว


นายหลิว ลู่ ยังอ้างอีกว่า เริ่มขนย้ายกากแคดเมียมมาเก็บที่โกดังนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีหลักฐานเอกสารบัญชีสินค้าที่จะขอส่งให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย


อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งให้เขาทราบว่า เขามีความผิดและจะถูกดำเนินคดี และให้เขาให้ความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลเอกสารสำคัญ จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินสำรวจอีก 1 โกดังที่อยู่ห่างกันราว 300 เมตร ที่โดยเป็นโกดังที่หลังคาและผนังสังกะสีแต่ก็ผุกร่อนไปมาก เสี่ยงที่จะเกิดการปนเปื้อนอย่างมาก  


ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อหานายหลิว ลู่ ในข้อหาครอบครองวัตถุสารอันตราย พร้อมทั้สั่งอายัดโกดังดังกล่าว ห้ามผู้ไม่มีส่วนเข้าออก เพื่อรอการจัดการสารแคดเมียมทั้งหมด โดยในวันนี้ (7 เม.ย.) ทาง รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะมีการเปิดแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้งต่อไป


ด้าน นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอน จำกัด (มหาชน) หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บกากอุตสาหกรรมแคดเมียมต้นทางของสารดังกล่าว ที่มีการขนย้ายไปยังโรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสารแคดเมียม มีอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรงตามที่เสนอข่าวไปแล้ว หลังจากที่ไปปรากฎตามข่าวที่ จ.สมุทรสาคร สร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนจำนวนมาก เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสารดังกล่าว


ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งการห้ามเคลื่อนย้ายเข้ามา และจะให้ส่งกลับกากอุตสาหกรรมแคดเมียมกลับไปยังแหล่งกำเนิด ที่จังหวัดตาก และจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการ และอยู่ในระหว่างเตรียมการ


ในส่วนของจังหวัดตาก นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานที่ ที่จะรองรับกากอุตสาหกรรมแคดเมียมที่กำลังเป็นปัญหา ขนย้ายกลับมายังแหล่งกำเนิดตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใน 7 วัน


ซึ่งจากการที่คณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยมีเจ้าหน้าที่พนักงานของผู้ประกอบการนำตรวจสอบ และชี้แจงข้อมูลอันเป็นประโยชน์ โดยจุดแรกคือบ่อกักเก็บกากอุสาหกรรม ที่ได้ทำการเปิดบ่อ ขุดกากอุตสาหกรรมไปแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสภาพความแข็งแรงของพื้นที่บ่อ มีความสมบูรณ์แข็งแรงตามมาตรฐานแม้จะผ่านการใช้งานไปหลายสิบปี และจุดที่ 2 เป็นบ่อที่กำลังดำเนินการเปิดบ่อไปบางส่วน โดยมีการปิดประกาศคำสั่งอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ยึดอายัดตาม พรบ.โรงงาน พ.ศ.2535 ห้ามเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมอย่างเด็ดขาด ลงวันที่ 4 เมษายน 2567 เพื่อป้องกันอันตราย


สำหรับการตรวจความพร้อมของหลุมฝังกลบกากอุตสาหกรรม โดยรวมบ่อทั้ง 2 ที่ทำการเปิดบ่อไปแล้วนั้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่ก็จะให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อจะให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละด้านเข้ามาดูแลอย่างเข้มข้น โดยในส่วนของบ่อที่ 2 ที่อยู่ในขั้นของการการเปิดบ่อนั้น จะสั่งการให้ผู้ประกอบการทำการซีลปากบ่อ เพื่อป้องกันมลภาวะเป็นพิษ ในระหว่างขั้นตอนการรอการเคลื่อนย้ายกลับมายังแหล่งกำเนิด และระหว่างดำเนินการจะมีการปิดล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นกากอุตสาหกรรมดังกล่าว ขอให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล คณะทำงานของจังหวัดจะดำเนินการตรวจสอบ ดูแลการปฏิบัติการเคลื่อนย้ายมาฝังกลบที่แหล่งกำเนิด ทั้ง 2 บ่อ อย่างเข้มงวดและเข้มข้น


https://youtu.be/x4KWOWYZhQQ


แท็กที่เกี่ยวข้อง  กากแคดเมียม ,แคดเมียม

คุณอาจสนใจ

Related News