อาชญากรรม

บุกค้น 17 บริษัทนอมินีรัสเซีย รับทำเอกสารเท็จ ให้ชาวรัสเซียในภูเก็ต

โดย nutda_t

4 เม.ย. 2567

103 views

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์  มีมุสิก สว.กก.5บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. นำหมายศาลอาญา ร่วมกันตรวจค้น ที่ตั้งของบริษัทต้องสงสัยซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของคนต่างชาติ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 จุด รวม 17 บริษัท

สืบเนื่องจาก ก่อนหน้าที่มีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับควบคุมโทรศัพท์ จากนั้นได้ดูดเงินจากบัญชีของผู้เสียหายโอนไปยังบัญชีของคนร้ายรวมกว่า 5 แสนบาท พบว่าคนร้ายได้โอนเงินไปยังบัญชีต้องสงสัยชายชาวรัสเซียคนหนึ่ง ก่อนจะพบว่าชายชาวรัสเซีย ได้ทำรายการถอนเงินสดออกจากบัญชีผ่านธนาคารในพื้นที่จ.ภูเก็ต ในเวลาต่อเนื่องกัน

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าการทำธุรกรรมของชายชาวรัสเซีย มีพฤติการณ์รับโอนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี จากกระเป๋าดิจิตอลที่ไม่มีการยืนยันตัวตน (non-custodial wallet) จากนั้นจะมีการขายเหรียญจำนวนมาก โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยของตน และถอนเงินที่ได้ออกเป็นเงินสดโดยทันที  

ในช่วงระหว่างวันที่ 7 ก.ค.66-19 พ.ย.66 พบว่าชายชาวรัสเซียคนดังกล่าว ได้มีการถอนเงินสดผ่านเคาท์เตอร์ธนาคาร และตู้ ATM จากบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี รวมเป็นเงินประมาณ 186 ล้านบาท อย่างผิดปกติ เชื่อได้ว่าเป็นรูปแบบการฟอกเงินอย่างหนึ่ง จากตรวจสอบหลักฐานการเปิดบัญชีพบว่า ชายชาวรัสเซียคนดังกล่าว ได้แสดงหลักฐานใบอนุญาตทำงาน ยืนยันว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.ภูเก็ต

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าว ไม่มีการดำเนินกิจการอยู่จริง น่าเชื่อว่าได้จดทะเบียนขึ้นมาเพื่อใช้ในการสร้างเอกสารเท็จเพื่อขอใบอนุญาตทำงาน และขออนุญาตอยู่ในต่อในราชการอาณาจักรเป็นการชั่วคราว (VISA) ให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ โดยบริษัทดังกล่าวมีกรรมการ และผู้ถือหุ้นเป็นผู้หญิงไทย จำนวน 2 คน และหญิงชาวรัสเซีย จำนวน 1 คน

นอกจากนั้นยังพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการ ของบริษัทอื่นอีกรวมทั้งสิ้น 38 บริษัท เชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด 2 ลักษณะ ได้แก่


1.แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

2.ให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุนการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวอันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้าง หุ้นส่วนหรือบริษัทจํากัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย (นอมินี)


จากการตรวจค้นที่ตั้งของบริษัทต้องสงสัย ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 จุด รวม 17 บริษัท พบผู้หญิงชาวไทย จำนวน 2 คน รับว่าได้จัดตั้งบริษัทรับจ้างจดทะเบียนบริษัท , รับดำเนินการขอใบอนุญาตทำงาน , ดำเนินการขอ VISA ให้กับชาวต่างชาติ และยื่นขอใบอนุญาตต่างๆให้กับชาวต่างชาติ โดยมีการจัดตั้งบริษัทที่ไม่ได้มีการดำเนินกิจการจริงขึ้นมา เพื่อใช้ในการสร้างเอกสารเท็จเพื่อยื่นขออนุญาตต่างๆให้กับชาวต่างชาติจริง

โดยบริเวณชั้นสองของอาคารสำนักงาน มีการจัดวางอุปกรณ์คล้ายสำนักงานไว้สำหรับจัดฉาก เพื่อถ่ายภาพการทำงานเพื่อใช้ในการยื่นขอใบอนุญาตต่างๆให้กับชาวต่างชาติ จึงได้ตรวจยึด 1.คอมพิวเตอร์สำหรับจัดทำเอกสารเท็จ และจัดเก็บข้อมูลลูกค้าชาวต่างชาติ จำนวน 2 เครื่อง , 2.ตราประทับบริษัทต่างๆ กว่า 50 บริษัท , 3.เอกสารต่างๆ จำนวนประมาณ 500 แผ่น ซึ่งจะได้ตรวจสอบรายละเอียดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายกับคนไทยและชาวต่างชาติ ที่ร่วมกันกระทำความผิดต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News