สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 3 เม.ย.67 แบ่งเวลาซักฟอกไม่ลงตัว-บิ๊กโจ๊กมอบตัว-ล่าตัวเสี่ยเอิร์ธ ยิงสนั่นวัด

โดย thichaphat_d

3 เม.ย. 2567

20 views

1.ล่าตัว เสี่ยเอิร์ธ ออเงิน คลั่งยิงสนั่นวัดย่านสายไหม

2.ออกหมายจับ บิ๊กโจ๊ก หลังเบี้ยวหมายเรียกคดีเว็บพนัน 3 ครั้ง

3.ทนายตั้ม ปัดอุ้มเจ้าของบัญชีม้า แจ้งความเพจดังปล่อยคลิปเสียง

4.ตัดวงจร แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลากสายเน็ตมุดดิน-ข้ามแดน

5.รวบแก๊งอำมหิตฟันแขนเจ้าของร้านขาด สารภาพยัวะถูกห้ามสูบบุหรี่

6.ทนายอนันต์ชัย บุกปราบมาเฟียวัด ตรวจเส้นเงิน 11 ล้าน

7.มารผจญ พระหนุ่มสายเดินธุดงค์ เจอกะเทยตามตื๊อขอมีอะไรด้วย



เรื่องเล่าการเมือง

-ส่อวุ่น! “วิปรัฐบาล-ฝ่ายค้าน” แบ่งเวลาซักฟอก ม.152 ไม่ลงตัว


ไฮไลต์การเมืองวันนี้ ฝ่ายค้าน จะเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย.นี้ ซึ่งต้องจับตาบรรยากาศ ก่อนเริ่มอภิปราย ว่าที่สุดแล้วจะหาข้อสรุปเรื่องกรอบเวลากันได้หรือไม่ หลัง 2 ฝ่าย ยังแบ่งเวลาไม่ลงตัว

เมื่อวานนี้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน พูดถึงกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อตกลงกรอบเวลาการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ใหม่ โดยฝ่ายค้านจาก 22 ชั่วโมงเหลือ 18 ชั่วโมง และ เพิ่มให้รัฐบาล จาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง ก็บอกว่าการจัดสรรเวลา ได้มีข้อตกลงร่วมกันเมื่อ 23 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งฝ่ายรัฐบาลเสนอมาเอง

แต่ “อยู่ๆ จะมีตัดเวลาของฝ่ายค้านออก 4 ชั่วโมงทั้งที่เตรียมผู้อภิปรายหมดแล้ว 22 ชั่วโมง คิดว่าไม่มีความยุติธรรม และไม่มีความชอบธรรม” ก็บอกว่า ฝ่ายค้านยินดีเพิ่มเวลาให้ โดยเลิกประชุมดึกกว่าเดิม ทั้ง 2 วันก็ได้ ไม่มีปัญหา จะได้คำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาล แต่หากปิดกั้นการตรวจสอบของรัฐสภา จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่สง่างาม”

ก็บอกว่าในการนัดหารือวิป 3 ฝ่ายช่วงเช้าวันนี้ ตนคงไม่สะดวกเข้าร่วม และอาจต้องเจรจาในห้องประชุม สภาก่อนเริ่มอภิปราย

ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะวิปรัฐบาล บอกว่าเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฏร ได้นัดวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล มาพูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อถึงกรอบเวลาในการอภิปราย

แต่ปรากฎว่า ฝ่ายค้านไม่มาร่วมประชุม ทั้งรองประธานพิเชษฐ์ และวิปรัฐบาล มานั่งรอเก้อในห้องประชุม แต่ไปตอบโต้ผ่านสื่อมวลชน ก็ชี้แจงว่า การหารือจัดสรรเวลาใหม่นั้น เป็นเพราะ “จากการอภิปรายของ สว. ทางประธานวิปรัฐบาลได้รับทราบปัญหาจากครม.ว่า รัฐมนตรีมีเวลาชี้แจงแค่ 3 ชม.ต่อ 1 วัน ไม่เพียงพอ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการอภิปรายฝ่ายเดียว”

ดังนั้น “ขอให้ฝ่ายค้าน ใจเย็นมาพูดคุยด้วยเหตุผล โดยไม่ต้องลงมติในสภาฯ จะดีกว่า เพราะถ้าถึงขั้นลงมติแบ่งเวลากัน จะทำให้การทำงานร่วมกันในอนาคตไม่ราบรื่น



-นายกฯ ชี้ ปรับ ครม. ดึง ปชป.ร่วมรัฐบาล แค่ข่าวลือ

กระแสข่าวปรับ ครม. แล้วดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาล ล่าสุด วนกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อวานนี้ นายกฯออกมายืนยันว่าเป็นแค่ข่าวลือ ที่ผ่านมายังไม่เคยพูดคุย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ถึงกระแสข่าวลือการปรับคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ยิ้มก่อนจะบอกว่า "ข่าวลือก็จบที่ข่าวลือ"

ส่วนที่มีข่าวถึงขั้นว่าจะดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ 314 เสียง ก็แข็งแกร่งพอแล้ว เรามีความสามัคคี พูดจากันรู้เรื่องอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าสมมุติว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ยังเหลือโควตาอีก1 ที่ อาจจะต้องมีการขยับเขยื้อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบ ทันทีว่า "สมมุติก็คือสมมุติเพราะท่านบอกว่าสมมุติ วันนี้เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่า"

ส่วนที่มีการเรียกรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางท่าน เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้านั้น นายกฯ ระบุว่า เป็นการพูดคุยเรื่อง เขตการค้าเสรี FTA และ ปัญหา IUU ยืนยัน ว่าไม่ได้คุยเรื่องปรับ ครม. "ไม่แม้แต่เฉี่ยว แม้แต่นิดเดียว"

เช่นเดียวกัย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าไม่มีใครรู้ เรื่องปรับ ครม. เพราะเป็นเรื่องอำนาจของนายกรัฐมนตรี และข่าวต่างๆที่ออกมาตนเองไม่เคยได้ยินจากนายกฯ เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาจะต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีจุดเริ่มต้น ขออย่าเพิ่งไปคิดไกล เพราะเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องโคมลอย

ขณะที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็ยืนยันว่าไม่ทราบกระแสข่าวและ ไม่ได้ยินรัฐมนตรีพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มีแต่เพิ่ม 1 ซึ่งเป็นโควต้าเดิม ที่มีการวางตัว นายไผ่ ลิกค์ ไว้ และคาดว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องคุณสมบัติ ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้



-ปชป.ปัดคุยร่วมรัฐบาล ชี้ปล่อยข่าว ทำพรรคเสียหาย

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานนี้โฆษกพรรค ก็ออกมายืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล และบอกว่า ไม่อยากให้มีข่าวแบบนี้ เพราะทำให้พรรคเสียหาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พูดถึงกระแสข่าวเรื่องการดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลและมีชื่อบุคคลของพรรคอยู่ในชื่อโผการปรับครม. ว่า ไม่ทราบว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด ต้องไปถามคนปล่อยข่าว และขอยืนยันว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ไม่เคยพูดคุยกับใครในเรื่องดังกล่าว ก็บอกว่า "ตนไม่อยากให้มีการรายงานข่าวเช่นนั้น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายได้ และย้ำว่า พรรคจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ในการอภิปรายเต็มที่ ไม่มีมวยล้ม"



-สว. รับหลักการ วาระแรก พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม

เมื่อวานนี้ ที่ประชุมวุฒิสภามีมติรับหลักการ วาระแรก ร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมแล้ว หลังจากผ่านความเห็นชอบ จากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไปเมื่อ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มของ สว. ต่างไฟเขียวไปในทิศทางเดียวกัน

โดย สว. มีมติเสียงข้างมาก 147 เสียง ต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 7 คน รับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา จำนวน 27 คน กำหนดพิจารณา ภายใน 60 วัน ก่อนเข้าสู่การลงมติรายมาตรา วาระ2 และ พิจารณาทั้งฉบับวาระ3 ต่อไป

สำหรับบรรยากาศการประชุม ของ สว. แม้จะถูกจับตาว่าเป็นคนรุ่นเก่า แต่ พบว่าการอภิปราย ของ สว. ส่วนใหญ่เห็นด้วย กับ ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม อย่าง สว.เสรี สุวรรณภานนท์ ชี้ว่า เราพยายามเรียกร้องความเท่าเทียมมาโดยตลอด บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหลายฉบับ และค่อยๆพัฒนาขึ้น เพียงแต่ปัญหาเรื่องเพศไม่ค่อยยอมรับกันเท่าไหร่ในโลกความเป็นจริง แม้จะพบเจอกันคนใกล้ตัวที่เราได้พบเสมอมา

"สมัยมัธยม ผมก็มีเพื่อนมีรุ่นน้องโรงเรียนที่แสดงออกไปในแนวทางคนละเพศกัน แรกๆ ก็อาจจะดูว่าแปลกออกไป แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าสังคมได้ยอมรับมากขึ้น ตอนแรกต้องปิดๆบังๆ แอบๆ แต่เมื่อสังคมยอมรับมากขึ้น ก็มีความชัดเจน"

ย้ำว่า เรื่องเพศเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบันโลกเจริญขึ้นเยอะ เป็นเรื่องที่แปลก ธรรมชาติสร้างให้มีหญิงกับชาย แต่ธรรมชาติเองกลับสร้างให้ชายเป็นหญิง หรือหญิงเป็นชาย แล้วจำนวนคนมากขึ้น

ส่วนพลตำรวจโทสานิตย์ มหถาวร อภิปรายเห็นด้วย แต่เสนอให้ ชั้นกรรมาธิการได้ ปรับแก้ช่วงอายุในการสมรสจาก 18ปี เป็น 20 ปี เพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่จะตามมา เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ และอยากให้กฎหมายฉบับนี้ มีผลทันที ไม่จำเป็นต้องรอ 180 วัน เพราะมีคนจำนวนไม่น้อย ที่รอคอยกฎหมายฉบับนี้อยู่ ได้ใช้กฎหมายนี้โดยเร็วที่สุด ส่วนกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องแก้ไขตาม คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแบบฟอร์ม ในระบบราชการเป็นต้น


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/sENZ_Y5TCnA

คุณอาจสนใจ

Related News