ตะวันออกกลางตึงเครียดหนัก หลังอิสราเอลถล่มสถานทูตอิหร่านในซีเรีย นานาชาติออกโรงประณาม

วิกฤติตะวันออกกลางร้อนระอุมากขึ้นทันที หลังจากที่รัฐบาลอิหร่านประกาศลั่นเมื่อวานนี้ (2 เม.ย. 67) ว่า จะเอาคืนอย่างสาสม หลังจากที่อาคารสถานกงสุล ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับสถานเอกอัครราชทูตของตน ในกรุงดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ 6 ลูก จากอิสราเอล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้สมาชิกกองกำลังปฏิวัติอิหร่านเสียชีวิต 7 นาย ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการอาวุโส 3 นาย

อญาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศลั่นว่า อิสราเอลจะต้องถูกลงโทษ “ระบอบปกครองลัทธิฟื้นชาติยิวไซออนนิสต์ที่ชั่วร้ายนี้ จะต้องถูกลงโทษโดยน้ำมือของเหล่าบุรุษผู้กล้าของเรา เราจะทำให้พวกมันเสียใจกับอาชญากรรมรายนี้ และรายอื่น ๆ”

ก่อนหน้านั้น ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดี อิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน ก็แถลงกร้าวว่า เตหะรานจะไม่ปล่อยผ่านการก่ออาชญากรรมอย่างขี้ขลาดนี้

ทางด้าน ไฟซาล เมคดัด รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ได้ประณาม 'การโจมตีอย่างป่าเถื่อน' ครั้งนี้ ซึ่งพุ่งเป้าใส่สถานกงสุลอิหร่าน ที่เป็นอาคารสูง 5 ชั้น และอยู่ในบริเวณเดียวกับสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส ทำให้หลายคนเสียชีวิต

ซึ่งที่ผ่านมา อิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีที่ตั้งทางทหารของอิหร่าน และกองกำลังซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน เช่น กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ของเลบานอน ในซีเรีย มาโดยตลอด แต่การโจมตีครั้งล่าสุด เมื่อวันจันทร์นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลเล่นงานสถานเอกอัครราชทูตอิหร่าน

ทางด้านคณะผู้แทนของอิหร่าน ในสหประชาชาติ แถลงว่า การโจมตีครั้งนี้ เป็นการละเมิดอย่างโจ่งแจ้งทั้งกฎบัตรยูเอ็น และหลักการพื้นฐานอันละเมิดมิได้ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่จะต้องไม่โจมตีอาณาบริเวณสถานทูต และสถานกงสุล อีกทั้ง ยังคุกคามสันติภาพ และความมั่นคง ของตะวันออกกลาง อย่างร้ายแรง

ขณะที่ทางด้าน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ซึ่งทรงอิทธิพลที่สุดในตะวันออกกลาง ประกาศจะตอบโต้อิหร่านด้วยเช่นกัน  

เวลาเดียวกัน ประเทศมุสลิมต่าง ๆ เป็นต้นว่า อิรัก จอร์แดน โอมาน ปากีสถาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ต่างประณามการโจมตีสถานกงสุลอิหร่าน เช่นเดียวกันกับรัสเซีย และจีน

ขณะเดียวกัน ทางด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แถลงประณามการโจมตีสถานที่ทางการทูตของอิหร่าน ในกรุงดามัสกัส พร้อมเรียกร้องให้ “ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุด และหลีกเลี่ยงการบานปลายออกไปอีก”  

ส่วนทางด้าน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า วอชิงตันยังคงกังวลว่า อาจมีบางสิ่งที่ทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางบานปลาย แต่ไม่คิดว่า การโจมตีสถานกงสุลของอิหร่าน จะกระทบต่อการเจรจาปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่ถูกฮามาสคุมขังอยู่

---------------