สังคม

สาวสุดงง! ซื้อรถ 11 วัน ถูกตามดักยึดรถ เช็คประวัติอึ้ง รถถูกศาลฟ้อง เต็นท์ขายรถค้างไฟแนนซ์ 3 ปี

โดย paweena_c

27 มี.ค. 2567

119 views

เซลล์สาว และน้องชาย ร้องขอความเป็นธรรม หลังซื้อรถจากเต็นท์รถมือสองย่านบางนา ขับได้ 11 วัน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คนขับรถดักหน้า ดักหลัง ตามยึดรถ เช็คประวัติพบ รถคันดังกล่าวถูกศาลสั่งฟ้องค้างค่างวดและไม่ได้ต่อภาษีนานกว่า 3 ปี

คุณหมู อายุ 28 ปี ร้องขอความเป็นธรรม บอกว่า เธอทำงานเซลล์ขายรถมือ 1 ยี่ห้อหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา น้องชายอยากได้รถเพื่อนำมาขับรถส่งพัสดุ เธอจึงได้เข้าไปดูในเฟซบุ๊กชื่อกลุ่มว่า "ผ่อนรถโดยตรงกับเต็นท์" และสนใจเต็นท์รถ เต็นท์หนึ่ง ที่ดูมีความน่าเชื่อถือเป็นบริษัทใหญ่อยู่แถวซอยลาซาล เขตบางนา กรุงเทพฯ ต่อมาเธอและน้องชายพร้อมครอบครัวจึงพากันเดินทางไปดูรถที่เต็นท์ดังกล่าว

และใช้ชื่อพ่อเป็นคนซื้อ ส่วนเธอเป็นคนค้ำ โดยรถที่เธอไปดูเป็น รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียว มีหลังคาตู้ทึบ ราคา 359,000 บาท

วางเงินจองไป 5,000 บาท หลังจากนั้นในวันที่ 9 มีนาคม 2567 วันออกรถ จ่ายเงินรวมไปเป็นเงินกว่า 60,000 บาท และรับรถออกมา แต่ก็พบว่ารถคันดังกล่าวขาดต่อภาษี มา 3 ปี แล้ว เธอจึงติดต่อทักท้วงให้เต็นท์รถดังกล่าวต่อภาษีให้

ทางเต็นท์ก็ยินดี ขอรถกลับไปเพื่อทำการต่อภาษี ซึ่งน้องชายได้นำรถไปให้ที่เต็นท์วันศุกร์ ที่ 15 มีนาคม โดยทางเต็นท์บอกว่า วันนี้ไม่ทันให้จอดรถไว้ก่อนแล้วค่อยมารับ วันจันทร์ ที่ 18 มีนาคม แต่พอถึงวันนัดไปรับรถ ทางเต็นท์ก็ยังอ้างว่า ต่อภาษีไม่ได้โดยทางเต็นท์ให้เหตุผลว่า ต่อภาษีใช้เวลาหลายวัน จึงให้เราเอารถออกมาใช้ก่อน

ซึ่งเธอก็แปลกใจหลายเรื่อง เพราะตอนแรกที่โอนเงินจองก็เป็นชื่อของบริษัท แต่ตอนที่โอนเงินตอนหลังเป็นชื่อส่วนบุคคล แถมชื่อในใบครอบครองก็ไม่ตรงกับชื่อของเจ๊ เจ้าของเต็นท์ ซึ่งเขาก็บอกว่าเจ๊เปลี่ยนชื่อ นามสกุล จึงไม่เหมือนกัน ซึ่งเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเต็นท์รถขนาดใหญ่ คงไม่น่าจะมีอะไร ก็เลยนำรถกลับมา

หลังจากนั้นน้องชายเธอได้ขับรถคันดังกล่าวไปหาแม่ที่คอนโดแห่งหนึ่งแถวถนนลาดปลาเค้า จากนั้นมีรถเก๋งสีขาวมาจอดปิดหน้ารถของน้องชาย พร้อมทั้งมีชายฉกรรจ์จำนวน 6-7 คนเดินลงมาจากรถ

บอกน้องชายเธอว่า ไม่ให้ไปไหน และอ้างว่ามาจากไฟแนนซ์จะมายึดรถคันดังกล่าว น้องชายจึงได้โทรศัพท์มาหาเธอ และให้เธอพูดคุยกับบุคคลที่อ้างตัวว่ามาจากไฟแนนซ์ และพยายามอธิบายว่า เธอซื้อมาถูกต้องและใช้รถได้เพียง 11 วัน กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็ยืนยันจะยึดรถให้ได้ เธอจึงออกอุบายให้ไปตกลงกันที่ สน.บางเขน และบอกน้องชาย ให้หาจังหวะขับรถหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เพราะในรถของน้องชายมีภรรยาที่กำลังท้องแก่และมีเด็กอยู่ในรถด้วย

หลังน้องชายตนหลบหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมาได้ เธอจึงติดต่อไปที่เจ้าของเต็นท์รถ ทางเจ้าของเต็นท์รถ ก็พูดบ่ายเบี่ยง จนสุดท้ายเขาก็ ยอมรับว่ารถคันดังกล่าวมีปัญหาฟ้องร้องอยู่จริงและไม่ได้บอกกับลูกค้า ก่อนจะยอมให้เอารถมาคืน บอกว่าเดี๋ยวจะคืนเงินให้ แต่ไม่คืนเต็มจำนวน จะต้องหักค่าใช้จ่ายที่เอารถไปใช้

ซึ่งเธอมองว่า ไม่ยุติธรรม เพราะเธอต้องการเงินคืนเต็มจำนวน เพราะฝ่ายเธอไม่ได้ผิด แต่ทางเจ้าของรถก็ไม่ยอม จึงได้อัดคลิปลงใน ติ๊กต๊อก ซึ่งก็มีคนเข้ามาชมและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก จนมีพี่ ๆ ที่ใจดี (พี่ต้อย วินวิน) ติดต่อมาช่วยเรื่องตรวจสอบรถเพราะคาดว่า น่าจะมีการติด จีพีเอส ที่รถ

หลังจากที่ตรวจสอบอยู่นาน ก็พบว่ารถถูกติดจีพีเอสจริง ติดตั้งอยู่ที่บริเวณหลังพวงมาลัย พร้อมด้วยไมค์โครโฟน ซึ่งหลังจากที่พบจึงได้เเกะออกมา พร้อมทั้งให้น้องชายเดินทางไปแจ้งความ สน.บางเขน

ขณะที่นายแซ็ค น้องชาย เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์วันที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ขับรถมาดักหน้ารถตน ว่า ตอนนั้นเดินทางไปหาแม่ที่คอนโด ย่านลาดปลาเค้า ไปกับภรรยาที่กำลังท้องแก่และลูกอีก 1 คน จู่ๆก็มีรถเก๋งขับมา จอดปิดด้านหน้ารถของตนเอง และมีชายฉกรรจ์ลงมาตอนแรก 3-4 คน ก่อนแสดงตัวว่ามาจากไฟแนนซ์ มาเพื่อยึดรถคันดังกล่าวขอดูเอกสารจากตนเอง ซึ่งตนเองก็นำเอกสารการซื้อรถมาให้ดู กลุ่มชายฉกรรจ์บอกว่าเป็นเอกสารปลอม ยืนยันที่จะยึดรถคันดังกล่าวและบังคับให้ตนเองเข้าไปนั่งรถของเขา

แต่ตนไม่ยอมเพราะ กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับภรรยาที่กำลังท้องและลูกอีก 1 คน ยอมรับว่าตอนนั้นตนเองตกใจกลัวมากจึงโทรศัพท์แจ้งพี่สาวให้ช่วยเจรจา แล้วพี่สาวแนะนำให้ตนเองขับรถหนี ถึงหลุดจากชายฉกรรจ์พวกนั้นมาได้

ซึ่งตนก็แปลกใจ ว่าพึ่งออกรถมาขับได้ 11 วัน แต่กลับถูกบริษัทมาตามยึดรถแถมยังถูกติด GPS ติดตามอีก แล้วพอมาตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบอีกว่า แผ่นป้ายทะเบียนที่เต็นท์รถติดมาให้ เลขตรงกับรถจริง แต่ตัวแผ่นป้ายเป็นป้ายปลอมที่ไม่มีตราปั๊มของกรมการขนส่งทางบก

นายแซ็ค บอกว่า ตอนนี้ตนเองเครียดมากตั้งใจออกรถมาวิ่งงานส่งของและเก็บเงินเตรียมคลอดลูก แต่กลายเป็นว่า ตอนนี้มาเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/VPceSECaMQQ


คุณอาจสนใจ

Related News