สังคม

'มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน' ติง กมธ.กาสิโน ยก 'สิงคโปร์โมเดล' แต่ไร้องค์กรกวดขัน คล้ายกัมพูชา-ฟิลิปปินส์

โดย nut_p

24 มี.ค. 2567

49 views

เลขาฯ 'มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน' ติง กมธ.กาสิโน “ขึ้นต้นเป็นสิงคโปร์ แต่ว่าลงท้ายเป็นกัมพูชา+ฟิลิปินส์” ระวังอันตราย ตีเช็คเปล่าให้ซุปเปอร์บอร์ดใช้อำนาจได้เต็มที่






ตามที่คณะกรรมาธิการศึกษาการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ของสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเสนอรายงานผลการศึกษาพร้อมร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 28 นี้ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวแสดงความเห็นต่อผลการศึกษาและร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า



“การจะเปิดกาสิโนสำเร็จหรือไม่นั้น อยู่ที่การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคม หากสังคมเชื่อมั่นว่ากาสิโนจะมีความรับผิดชอบ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้เข้าไปเล่นพนัน ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย การคอรัปชั่น และการฟอกเงิน รวมทั้งไม่แสวงหาประโยชน์จากกลุ่มคนเปราะบางที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น  กลุ่มผู้มีรายได้น้อย  กลุ่มผู้ติดพนัน และเด็กเยาวชน ก็น่าจะเปิดได้ จึงต้องฝากความหวังไว้ที่ประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และการบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐ   ซึ่งกรรมาธิการมักอ้างอิงเอาสิงคโปร์เป็นต้นแบบ แต่พอเห็นในร่างกฎหมายที่ออกมาเรากลับพบว่า มันไม่ได้ยึดต้นแบบนั้น  และมีทีท่าว่าจะเชื่อมั่นไม่ได้ ที่จะกำกับดูแลกิจการกาสิโนบนดินได้จริง”



“หลักของสิงคโปร์คือแยกอำนาจเป็นสองฝ่าย  ฝ่ายกำกับดูแลการประกอบกิจการกาสิโนด้านหนึ่ง กับฝ่ายดูแลปัญหาและผลกระทบอีกด้านหนึ่ง  ฝ่ายกำกับดูแลต้องกำหนดมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ภายใต้หน่วยงานที่น่าเชื่อถือ  ซึ่งสิงคโปร์ขึ้นชื่อในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ร่างกฎหมายของกมธ.นี้กลับเสนอการรวมอำนาจไว้ที่บอร์ดนโยบายหรือซุปเปอร์บอร์ด มีอำนาจในการกำหนดแทบทุกอย่างเกี่ยวกับกาสิโน ภายใต้คนกลุ่มหนึ่งที่มาโดยรัฐบาลทั้งหมด และเป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจล้วน ไม่มีแม้กระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวงพม.อยู่ในซุปเปอร์บอร์ดนี้เลย  เหมือนการตีเช็คเปล่าให้คนกลุ่มนี้ใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่  ขณะที่บอร์ดบริหารที่ประกอบด้วยปลัดกระทรวงต่าง ๆ ที่เป็นข้าราชการประจำ ก็มีหน้าที่เป็นเพียงแม่บ้านทำหน้าที่ในการบริหารจัดการตามคำสั่งของซูปเปอร์บอร์ดเท่านั้น ไม่มีอำนาจในการถ่วงดุลการตัดสินใจใด ๆ และมีสำนักงาน กธบ.เป็นมือไม้ในการรับไปปฏิบัติ”



“ลองคิดดูว่า รัฐบาลที่เห็นดีเห็นงามกับการมีกาสิโนอยู่แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากาสิโนจะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ  มีหรือที่ซุปเปอร์บอร์ดจะไม่พยายามอุ้มและออกกฎที่เอื้อต่อทุนกาสิโนอย่างเต็มที่  การกำกับดูแลจึงมีแนวโน้มจะเอนเอียงไปทางสนับสนุนมากกว่าควบคุม อีกประเด็นคือ กมธ.ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันปัญหาและลดผลกระทบเลย เห็นได้จากการไม่กำหนดให้มีองค์กรลดผลกระทบจากการพนัน เหมือนอย่างที่สิงคโปร์มี  เพียงแต่กำหนดมาตรการที่แผ่วเบา เช่น จำกัดอายุ จำกัดรายได้ และมีเรื่องกองทุนเติมเข้าไปให้ดูดี แต่ไม่มีรูปธรรมของฝ่ายปฏิบัติที่ชัดเจน”



“การจัดรูปองค์กรแบบนี้คล้ายคลึงกับกัมพูชาและฟิลิปปินส์ ที่ขึ้นรูปองค์กรแบบรวมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ที่ศูนย์กลาง และมีบทบาทที่ทับซ้อน เป็นทั้งฝ่ายหนุนผู้ประกอบการ เป็นทั้งฝ่ายกำกับดูแล และเป็นทั้งฝ่ายดูแลปัญหาและผลกระทบ ซึ่งเป็นการขัดแย้งในบทบาทหน้าที่  มีที่ไหนที่องค์กรกำกับดูแลจะมาเข้มงวดกวดขันกับกิจการที่ตนสนับสนุนและหวังพึ่ง  มีที่ไหนที่ผู้สร้างผลกระทบจะมาทำงานลดผลกระทบจากสิ่งที่ตัวเองสร้าง จึงอยากให้สภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ การมีกาสิโนมีได้แต่ด้วยความเชื่อมั่นที่มากพอ และไม่มีความจำเป็นต้องหลบอยู่ใต้เงาของเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ด้วย เพราะพอเอาเรื่องนี้ไปซุกใต้ร่มใหญ่ทำให้ยิ่งออกกฎหมายยากและจะเกิดช่องโหว่เยอะมาก” นายธนากรกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News