สังคม

ครูสาวลูก 3 ร้อง ถูกอดีต ส.ห.อดีตสามีทุบตีทำร้ายตัวเองและลูก 2 ขวบ

โดย kanyapak_w

23 มี.ค. 2567

342 views

ครูสาวลูก 3 วัย 32 ร้องสมาคมสื่อฯเมืองคอนช่วย-หลังโดนอดีต ส.ห.อดีตสามีทุบตีทำร้ายตัวเองและลูก 2 ขวบอย่างโหดร้ายทารุณ




ครูสาวลูก 3 วัย 32 คิดสั้นจะปลิดชีพหนีปัญหาก่อนตัดสินใจร้องสมาคมสื่อฯเมืองคอนช่วย-หลังโดนอดีต ส.ห.อดีตสามีทุบตีทำร้ายตัวเองและลูก 2 ขวบอย่างโหดร้ายทารุณ-แถมยังไปหลอกเอารถยนต์กระบะของแม่หลบหนีหายจ๋อยทราบว่าไปมีเมียใหม่ ผจก.บริษัทเมล็ดมะม่วงหิมพานต์แห่งหนึ่ง




(22 มี.ค.) น.ส.ปภัสรา อายุ 32 ปี คุณครูแนะแนวโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี เข้าร้องเนียนขอความช่วยเหลือศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.ชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนจังหวดนครศรีธรรมราช ว่าเมื่อ 5-6 ปีก่อนได้แต่งงานอยู่กินกับอดีตสารวัตรทหาร(ส.ห.) มทบ.41 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพื้นเพเดิมของอดีตสามีเป็นชาว จ.พังงา จนมีบุตรด้วยกัน 3 คน แต่ต้องเลิกรากันไปเนื่องจากอดีตสามีมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป มีอารมรณ์ฉุนเฉี่ยวทำร้ายตนและลูกอย่างโหดร้ายทารุณ



โดยได้จดทะเบียนอย่าขาดจากกันอย่างเป็นทางการ แต่ต่อมาอดีตสามีมาวิงวอนขอกลับมาคืนดีโดยยืนยันจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ไม่ทำร้ายตนและลูกอีก จึงอยู่กินกันเป็นรอบที่ 2 โดยไม่มีการจดทะเบียนสมรส แต่อยู่ได้ไม่นานอดีตสามีก็กลับมามีพฤติกรรมแบบเดิม ๆ และได้ขาดงานหายไปไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าที่ระเบียบกำหนดหลายครั้งต่อเนื่อง แม้ผู้บังคับบัญชาจะพยายามช่วยเหลือ แต่กลับมีปัญหาทะเลาะและทำร้ายผู้บังคับบัญชา จนทางผู้บังคับบัญชาเสนอไล่ออกจากหน้าที่ แต่ทางผู้บังคับยังบัญชาสงสารตนและลูก 3 คนจึงขอให้อดีตสามีลาออกเพื่อจะได้รับเงินบำนาญนำมาช่วยเลี้ยงตนและลูกละประมาณ 10,000 บาทเศษ




ในช่วงที่อดีตสามีได้มาอาศัยอยู่กับตนที่บ้านเช่าใกล้โรงเรียนที่ตนสอนอยู่ ในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดตนก็จะไปรับลูกจาก จ.นครศรีธรรมราชมาอยู่ด้วย โดยบางครั้งก็พามาอยู่คนเดียว หรือ 2 และ 3 คน โดยในช่วงที่ตนพาลูกสาวคนเล็กอายุ 2 ขวบมาอยู่ด้วย เมื่อตนไปโรงเรียนก็ให้ลูกอยู่กับอดีตสามี เมื่อตนกลับมาจากโรงเรียน ก็จะพบว่าลูกเนื้อตัว เขียวซ้ำเป็นจ้ำ ๆ เมื่อตนถามลูกก็จะบอกว่า “ปะป๊า ตี ปะป๊าทำน้อง” ตนเอ็นดูสงสารลูกวัย 2 ขวบเป็นอย่างมาก ทุบตีทำร้ายตนยังพอทนได้ แต่คนเป็นพ่อทุบตี กระทำทารุณกรรมลูกไนไส้ของตัวเองวัยแค่ 2 ขวบ มันไม่ใช่มนุษย์ มันเป็นยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน หมาแมวมันยังรักลูกของมัน แต่อดีตสามีมีร่างกายเป็นมนุษย์แท้ ๆ เป็นพ่อแต่จิตใจเหี้ยมโหด ไร้สำนึกความเป็นมนุษย์ จึง เกิดการทะเลาะวิวาท และทำร้ายตนจนบาดเจ็บ และข่มข่มขู่ต่าง ๆ นา ๆ ตนอดทนและไม่กล้าไปแจ้งความเพราะเกรงว่าตนและลูกจะถูกทำร้ายหนักมากขึ้น




“จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน สามีได้หายไปจากบ้าน ตนจึงฉวยโอกาสเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี และมาทราบว่าสามีไปมีภรรยาใหม่ เป็นผู้จัดการบริษัทผลิตเมล็ดมะม่วงหิมพานต์แห่งหนึ่งใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และได้ไปหลอกเอารถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ของตนที่ซื้อในนามของแม่ของตนหายไป และเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2567 เวลา 16.52 น.แม่ของตนได้ไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.กล้าหาญ ใจกระจ่าง พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมนราช”




คุณครูสาวกล่าวต่อไปว่า ต่อมาในวันที่ 16 มี.ค.2567 ที่ผ่านมาแม่ของตนได้อุ้มหลาน เดินทางด้วยรถโดยสารไปตามหาอดีตลูกเขย ที่ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพราะทราบว่าอดีตลูกเขยได้ไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งใน ต.ท่าขึ้น โดยได้รับความอนุเคราะห์ประจำป้อมยามตำรวจท่าขึ้นเข้าไปตามจนพบ โดยอดีตลูกเขยยินยอมคืนรถยนต์กระบะให้ และทางตำรวจมีการนำมาทำบันทึกข้อตกลงกันที่ป้อมยามตำรวจ และลงลายมือชื่อกำกับเรียบร้อย แต่หลับจากนั้นอดีตลูกเขยออกอุบายอ้างว่าจะขับรถยนต์ไปส่งแม่และหลานที่บ้านแม่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และจะคืนรถยนต์ไปแม่ไปเลย แต่ระหว่างทางอดีตลูกเขยอ้างว่าขอแวะเก็บเสื้อผ้าข้าวของที่บ้านเพื่อนก่อนและพยายามเตะถ่วงเวลาหลาย ชม.จนเม่เผลอพาหลานเข้าห้องน้ำ อดีตลูกเขยจึงฉวยโอกาสขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป โดยมีกระเป๋าสัมภาระเอกสารการแจ้งความ บัตรประชาชนและกระป๋องนม ขวดนมของหลานชายติดรถไปด้วย หลังจากนั้นแม่ได้อุ้มหลานขึ้นรถโดยสารอย่างยากลำบากมาแจ้งความที่ สภ.ท่าศาลา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั้งบัดนี้อดีตสามีก็ยังไม่นำรถยนต์กระบะมาคืนตามบันทึกตกลงที่ทำกันที่ปอมยามตำจรวจท่าขึ้น อ.ท่าศาลา




“ตนสงสารพ่อแม่ ที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกของตน 3 คน เงินเดือนตนก็แทบไม่พอใช้จ่าย ส่วนอดีตสามีได้ยังได้เงินบำนาญเดือนละ 10,000 บาทเศษก็เอาไปใช้ส่วนตัว ไม่เคยช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียว อยากให้ทางผู้บังคับบัญชาทางทหารช่วยดำเนินการเรื่องเงินเดือนละ 10,000 บาทของอดีตสามี ที่มีการตกลงดำเนินการมาตั้งแต่ต้นว่าจะนำมาใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก 3 คน ในขณะที่รถยนต์กระบะที่ตนจะได้นำมาใช้ในการขายของในช่วงวันหยุดก็ยังไม่ได้กลับคืน ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งที่ สภ.เมือง และ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้ช่วยเหลือตนและแม่อย่างจริงจังต่อเนื่องด้วยเถิด ขอให้ช่วยตามจับกุมอดีตสามีมาดำเนินคดีตามกฎหมายและนำรถยนต์กระบะกลับมาคืนแม่ตนโดยเร็ว”




น.ส.ปภัสรา คุณครูผู้เสียหาย กล่าวในตอนท้ายอีกว่า ส่วนเรื่องคดีที่ตนแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีในข้อหาทำร้ายร่างกายตนและลูกสาววัย 2 ขวบก็ไม่คืบหน้า สอบถามพนักงานสอบสวนก็แจ้งว่าตนเองมีหลายคดี ต้องรอก่อน และจะต้องสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งตนไม่เข้าใจขั้นตอนข้อกฎหมาย และตนตัวคนเดียวไม่มีใครวิ่งเต้นช่วยเหลือใด ๆ เลย ตนเครียดมาก ๆ คิดจะปลิดชีพหนีปัญหา แต่ก็สงสารลูก 3 คนรวมทั้งพ่อแม่



จนในที่สุดมีคนแนะนำให้เข้ามาร้องเรียนขอความช่วยเหลือศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.ชมรมนักข่าว/สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตนจึงเดินทางจาก จ.สุราษฏร์ธานี กลับมายังจังหวัดนครศรีธรรมราชและเข้าร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนดังกล่าว





แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม

คุณอาจสนใจ

Related News