อาชญากรรม

ชาวบ้านแค้น! หวิดกระทืบลูกไล่ฟันพ่อจับโยนตึก สารภาพหลอนดื่มท่อม-พี้กัญชา 4 วัน 4 คืน

โดย paweena_c

8 มี.ค. 2567

1.2K views

ชาวบ้านแค้นจัด หวิดรุมประชาทัณฑ์ “บิ๊ก” ลูกแท้ๆ คลุ้มคลั่ง จับพ่อโยนลงตึกจากชั้น 3 เจ้าตัวสารภาพ ดื่มน้ำกระท่อม – ดูดกัญชา 4 วัน 4 คืน อ้างเป็นสมุนไพร สำนึกผิดจากนี้จะไม่ทำอีก ขณะที่พ่ออาการตอนนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู


กรณีที่พลเมืองดีรายหนึ่งถ่ายภาพและคลิปวิดีโอ ขณะที่นายบิ๊ก อายุ 25 ปี ล็อคคอ นายอั๋น อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ อยู่ที่ริมระเบียงชั้น 3 ของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยสุเหล่าคลองตัน ย่านสวนหลวง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ตอนประมาณ 2 ทุ่ม

จากในคลิปจะเห็นว่าลูกชายถือมีดดาบยาวอยู่ในมือขวา ส่วนแขนซ้ายก็ล็อกคอพ่อติดกับระเบียงห้อง โดยที่ลูกชายซึ่งมีอาการหลอน ได้ตะโกนโวยวายร้องเรียกแม่ให้มาช่วยอยู่ตลอดเวลา ขณะที่พ่อของนายบิ๊ก ได้ร้องบอกกับนายบิ๊กว่า ปล่อยพ่อเถอะลูก พ่อไม่ไหวแล้ว

จากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนายบิ๊ก ได้เหวี่ยงพ่อ จนตกลงมาจากระเบียงชั้น 3 แต่โชคดี ที่ร่างของนายอั๋น ไม่ได้ร่วงสู่พื้นโดยทันที โดยจังหวะที่ร่วงหล่นลงมา ขาของนายอั๋นได้ไปเกี่ยวกับระเบียงชั้น 2 แล้วร่วงลงมาใส่แทงก์น้ำ และร่างกระแทกใส่เบาะมอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ แล้วหล่นลงมาที่พื้น จึงทำให้นายอั๋นไม่เสียชีวิต แต่ก็ได้รับเจ็บที่หัวและที่ขา

นอกจากนี้ตามร่างกายยังพบรอยถูกมีดฟันที่แขน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ

โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่นำร่างของพ่อส่งโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจ สน.คลองตัน ได้บุกขึ้นไปที่ห้องพักของ นายบิ๊ก แต่พบว่าห้องล็อก ตำรวจได้ตะโกนให้นายบิ๊กเปิดประตูห้องอยู่ ประมาณ 4 นาที แต่นายบิ๊กไม่ตอบและไม่ยอมเปิดประตู แต่กลับทุบกระจกบานเกล็ดภายในห้องหลายครั้ง

ต่อมาเจ้าของอพาร์ทเมนต์ได้นำกุญแจมาให้ แต่พบว่านายบิ๊กได้ล็อกกลอนจากในห้อง ตำรวจจึงตัดสินใจถีบประตูเข้าไป โดยเมื่อเข้าไปในห้องพบนายบิ๊กนั่งอยู่บนที่นอน ในมือถือมีดยาว 1 เล่ม และมีดสั้นอีก 1 เล่ม ตำรวจจึงเข้าชาร์จตัวนายบิ๊ก โดยที่นายบิ๊กไม่ได้โวยวายหรือต่อสู้ขัดขืน จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายบิ๊กลงมาข้างล่างเพื่อจะนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.คลองตัน

โดยระหว่างที่นำตัวนายบิ๊กขึ้นรถประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งไม่พอใจในพฤติกรรมของบิ๊กที่ทำร้ายพ่อตัวเอง ได้พยายามเข้าไปจะรุมประชาทัณฑ์ แต่ตำรวจสามารถกันไว้ได้ และรีบนำตัวนายบิ๊กขึ้นรถไป ที่ สน.คลองตันทันที โดยใช้เวลาปฏิบัติการในการสยบหนุ่มคลั่งรายนี้ ประมาณ 30 นาที

เบื้องต้นจากการสอบปากคำแม่ของนายบิ๊ก ทราบว่าลูกชายได้โทรศัพท์มาหาตนตั้งแต่ตอนช่วงเที่ยง บอกว่ามีคนจะมาทำร้ายให้รีบมาช่วย และให้ตามพ่อมาด้วย ตนจึงโทรศัพท์โทรหาสามีให้มาช่วยลูก ซึ่งสามีมีอาชีพเป็นไรเดอร์ จึงได้รีบกลับมาทันที แต่ปรากฏว่ามาถึงพบว่ามาถึงพบว่าลูกมีอาการคุ้มคลั่ง และเอามีดดาบยาวทำร้ายพ่อของตัวเอง และเหตุการณ์ที่บานปลายจนมาถึงตอนช่วงค่ำ

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ โดยพบว่าแม่ของนายบิ๊ก ได้อยู่ในห้องพัก แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับทีมข่าว ขณะที่คนที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่าตนอยู่ตึกตรงข้ามกับห้องของผู้ก่อเหตุ เมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวาย จึงออกมาดู และพบว่านายบิ๊กกำลังล็อกคอพ่อ และถือมีดอยู่ในมือ ซึ่งส่วนตัวตนมองว่าหากคนที่มีอาการปกติจะไม่เป็นแบบนี้

ขณะที่ญาติสนิทของนายบิ๊ก บอกว่า ปกตินายบิ๊กจะเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ค่อยพูดกับใคร โดยก่อนหน้านี้นายบิ๊กไปเกณฑ์ทหารและเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวตนเชื่อว่านายบิ๊กน่าจะคลุ้มคลั่งโดยมีสาเหตุมาจากการใช้สารเสพติด เพราะตนเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากทางญาติๆ

พันตำรวจเอกวชิราภรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เปิดเผยว่าหลังจากที่เมื่อคืนนี้ตำรวจได้คุมตัวนายบิ๊กมาที่สน. ยังไม่ได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะนายบิ๊กอยู่ในอาการเบลอ และพูดจาไม่รู้เรื่อง ตำรวจจึงได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่ามีสารเสพติดประเภทกัญชา อยู่ในร่างกาย เบื้องต้นดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาพระโขนงฝากขัง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว

ล่าสุดตำรวจได้คุมตัวนายบิ๊ก ออกมาจากห้องขังเพื่อสอบปากคำ โดยนายบิ๊กได้เปิดใจ ยอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ ตนได้ดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชาถึง 4 วัน 4 คืน โดยไม่ได้นอน จนทำให้เกิดอาการหลอน และจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง

เรื่องที่เกิดขึ้นตนขอยอมรับผิดทุกอย่าง และอยากขอโทษพ่อที่ทำกับพ่อแบบนี้ หลังจากนี้ตนตั้งใจจะบวชให้พ่อ และขอเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด

สำหรับอาการของนายอั๋น ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าต้องเย็บที่ศีรษะ และได้รับบาดเจ็บที่หลัง ขาซ้ายผิดรูป ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zQ_IfuB23WM

คุณอาจสนใจ