สังคม

เปิดใจป้าถูกชายสวิสทำร้ายปางตายกลางห้าง เผยถูกเบียดหลายที พอเตือนเจอหมัด

โดย panwilai_c

6 มี.ค. 2567

215 views

เปิดใจป้าถูกชายชาวสวิสทำร้ายปางตาย แค่เข็นรถเบียดกันในห้าง ลั่นไม่ใช่แค่โกรธแล้วบันดาลโทสะ แต่เหมือนพยายามฆ่า ด้านลูกชายขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะแม่ป่วยเพิ่งดีขึ้น แต่มาถูกทำร้ายหวั่นอาการทรุดซ้ำ ส่วนชาวสวิส ถูกแจ้ง 2 ข้อหา ทำร้ายร่างกายจนสาหัส และขัดขืนเจ้าพนักงาน ถูกส่งฝากขังแล้ว



เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เกิดเหตุ น.ส.นัฎชนันท์ หรือ ป้ารี อายุ 53 ปี ถูก Mr.Straumann Dieter Mathhias อายุ 62 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทำร้ายร่างกายขณะเดินซื้อของในห้างแห่งหนึ่ง ที่อำเภอเมือง จังหวัดตรัง จนบาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกท่วมศีรษะ กู้ภัยรีบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง หมอตรวจอาการ พบว่า ดั้งหัก เบ้าตาข้างขวาแตก หัวแตก



ส่วนผู้ก่อเหตุถูกตำรวจสายตรวจคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองตรัง แต่นายสตรูมัน ไม่ยอมให้ปากคำใด ๆ กระทั่งตี 1 พนักงานสอบสวนได้อ่านบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส โดยให้ล่ามแจ้งให้นายสตรูมันทราบ เจ้าตัวรับฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยปฏิเสธ และไม่ยอมเซ็นรับข้อกล่าวหา



ส่วนสาเหตุของการทำร้ายร่างกาย เกิดจากป้ารี ซึ่งไม่ค่อยแข็งแรง ไปซื้อของที่ห้าง โดยเข็นรถเดินเลือกของตามปกติ แล้วมีฝรั่งเดินมาเบียดจนป้ารีเกือบจะล้ม จึงพูดเป็นภาษาอังกฤษไปว่า ช่วยให้เกียรติกันหน่อย แต่ชาวต่างชาติไม่พอใจ โวยวายเสียงดัง จึงถูกต่อย 4 ครั้ง ก่อนจะเดินหนีไป ป้ารีจึงเอาขวดน้ำอัดลมปาใส่แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งกลับมาผลักจนล้ม และเอาหัวเข่ายันคอไว้ ก่อนจะต่อยไม่ยั้ง น่าจะเกิน 20 ครั้ง แล้วยังจับหัวโขกพื้นจนบาดเจ็บ เลือดอาบหน้า



จากการตรวจสอบข้อมูลของนายสตรูมัน พบว่า ถือวีซ่าพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ เพิ่งต่อวีซ่าไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 และจะครบกำหนดต่ออายุอีกครั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567



ผู้สื่อข่าวตามตำรวจไปที่บ้านเช่าของนายสตรูมัน ซึ่งพักอยู่กับภรรยาชาวไทย อยู่ที่ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ประตูหน้าบ้านล็อกด้วยแม่กุญแจแบบใส่รหัส ภายในบ้านมีการเปิดไฟไว้ 1 ดวง ตำรวจส่งเสียงเรียกคนในบ้าน แต่ไม่มีคนอยู่



จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่า พฤติกรรมของนายสตรูมัน เป็นคนสันโดษ ชอบถอดเสื้อเดินตอนเช้าและกลางดึก ได้คบหากับผู้หญิงชาวไทย โดยได้เช่าที่บ้านหลังนี้นานหลายปีแล้ว สามารถพูดไทยได้ และพูดใต้ได้บางคำ ระยะหลังมีปัญหาระหองระแหงกับภรรยา จนภรรยาหนีไปอยู่จังหวัดกระบี่



ขณะที่บรรยากาศที่ สภ.เมืองตรัง เมื่อช่วงเช้า นายสตรูมัน ยังถูกคุมตัวอยู่ และยังไม่ยอมให้การใด ๆ เบื้องต้นตำรวจซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งไปให้ ขณะที่ล่ามของนายสตรูมัน บอกว่า เช้านี้นายสตรูมันพูดคุยมากขึ้น กินอาหารที่ตำรวจซื้อให้ แต่ยังไม่ยอมพูดรายละเอียดของคดี โดยบอกว่า ยังไม่ไว้ใจใคร ส่วนที่ไม่ตอบคำถามตำรวจ เขาบอกว่า เป็นสิทธิ์ของเขา ที่จะไม่ตอบและไม่ทำในสิ่งที่ตำรวจร้องขอ



ต่อมาตำรวจได้แจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ขัดขืนเจ้าพนักงาน ที่ไม่ยอมเซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหา กระทั่ง 11.00 น. ได้ให้ล่ามแจ้งนายสตรูมันว่า กำลังจะถูกส่งฟ้องศาลจังหวัดตรัง ทำให้นายสตรูมันมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด และมีท่าทีขัดขืน ยืนยันจะไม่ไปไหนจะขออยู่ต่อที่ สภ.เมืองตรัง ล่ามจึงต้องพยายามพูดอธิบายเหตุผล จนนายสตรูมันมีท่าทีอ่อนลง ยอมให้ตำรวจใส่กุญแจมือ พาขึ้นรถส่งฝากขัง



ขณะที่นายกฤตพงศ์ อายุ 25 ปี ลูกชายของป้ารี บอกว่า ตอนนี้แม่ย้ายออกมารักษาอยู่ในหอผู้ป่วยห้องรวม อาการล่าสุดยังปวดหัว มีเลือดไหลขอบตา และใบหน้า กระดูกเบ้าตาหัก ยืนยันว่าจะเอาเรื่องชายชาวสวิสคนนี้ให้ถึงที่สุด เพราะเป็นต่างชาติ มาทำร้ายคนในประเทศ ซึ่งแม่ก็ป่วยก่อนหน้านี้เพิ่งไปถอนฟันมา แต่หมอถอนผิดซี่ ทำให้เส้นประสาทอักเสบ ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นอยู่นานนับปี จนต้องใช้ไม้ค้ำยัน และเพิ่งจะทิ้งไม้ค้ำยันไม่ถึง 1 เดือน ก็มาเกิดเหตุซ้ำ



ต่อมา นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เดินทางไปเยี่ยมป้ารี พร้อมมอบกระเช้า พูดคุยให้กำลังใจ และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



ด้านนายแพทย์สินชัย รองเดช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง เผยว่า อาการของป้ารีน่าจะต้องใช้เวลาในการรักษาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน กว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บ เนื่องจากมีกระดูกจมูกแตก



ขณะที่ป้ารี เล่าว่า ตอนนั้นป้าเข็นรถไปเลือกซื้อน้ำอัดลม ได้เข็นรถไปชนชั้นวางของ จากนั้นก็เอื้อมไปหยิบน้ำมาได้ 1 ขวด ขณะกำลังหยิบขวดที่ 2 มาถือ ถูกฝรั่งเดินเบียดจากข้างหลัง จนรถเข็นถูกเหวี่ยงออกไป ครั้งแรกไม่ได้พูดอะไร แต่ฝรั่งคนเดิมก็เข้ามาเบียดอีกครั้ง จนรถเข็นเป๋ออกนอกทาง จึงพูดออกไปว่า Excuse Me แต่ฝรั่งก็ไม่หยุด และเข้ามาเบียดอีกรอบหนึ่ง จึงพูดไปอีกครั้งว่า Excuse Me , Be polite please ทำให้ฝรั่งหันมามองหน้า แต่ป้าไม่อยากยุ่งด้วย จึงเดินหันหลังเข็นรถออกไป แต่ฝรั่งได้เดินตามหลัง แล้วพูดออกมาเสียงดัง ๆ และใส่อารมณ์ แต่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ซึ่งตนเองก็ฟังไม่ออก จึงพูดกลับไปอีกครั้งว่า Be polite please หรือ สุภาพหน่อยได้ไหม ทำให้เขาตะคอกใส่ และชี้หน้า มีคำหนึ่งที่ฟังออกเป็นภาษาอังกฤษคือ บูชิต ก่อนง้างหมัดชกรัวๆ เข้าที่หน้า แล้วเขาก็หันหลังเดินกลับ



ป้าเลยขว้างขวดน้ำที่อยู่ในมือใส่เขา แต่ไม่มีแรงขวดน้ำจึงตกลงกับพื้น ฝรั่งเลยเดินกลับมากระชากป้า แล้วรัวหมัดใส่อีกครั้งจนนับไม่ถ้วน จากนั้นก็เหวี่ยงป้าจนหัวฟาดพื้น ขึ้นคร่อมเอาหัวเข่ากดหลอดลม ป้าพยายามตะโกนให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครช่วย จนต้องฮึดสู้ส่งเสียงกรี๊ดลั่น ฝรั่งจึงยอมปล่อย แล้วลุกเดินหนีไป ทิ้งป้านั่งจมกับกองเลือด ก่อนที่จะมีพนักงานห้างช่วยเอากระดาษมาห้ามเลือด แล้วแจ้งรถพยาบาล พร้อมสกัดฝรั่งไว้ไม่ให้หนี



หลังเกิดเหตุยอมรับว่า งง มาทำคนไทยแบบนี้ได้ยังไง เขาโกรธมาก ถึงขนาดเข้ามาทำร้ายจนปางตาย แถมยังใช้หัวเข่ากดตรงที่หลอดลม เหมือนจงใจฆ่า ตอนนี้ไม่อยากจะพูดอะไรกับฝรั่งคนนั้น เพราะมันเป็นการทำที่ไร้เหตุผลมากๆ ถ้าโกรธมาก อย่างดีก็แค่ต่อยนิดหน่อย แต่นี่เอาหัวเข่ามากดหลอดลม เหมือนพยายามฆ่า ก็ขอให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย สำหรับอาการบาดเจ็บตอนนี้ ยังรู้สึกมึนๆ หัว และปวดตรงบ่า ตรงไหล่ ส่วนดวงตาก็มองเห็นไม่ค่อยชัด เนื่องจากน้ำตาไหลตลอด ขณะที่กระดูกจมูกก็แตก จนหมอต้องเย็บทั้งหมด 8 เข็ม


https://youtu.be/dKjJrx2GHCw

คุณอาจสนใจ

Related News