เตือนภัย ‘ทองปลอม’ ระบาด เอาโลหะมาเจือปน ตะลึง ร้านเอาเข้าเครื่องตรวจยังดูไม่ออก

มาทุกรูปแบบ! เตือนภัย “ทองปลอม” ระบาด เอาโลหะมาผสมเจือปน ร้านเอาเข้าเครื่องตรวจยังดูไม่ออก ความแตกเพราะเอาทองไปหลอมถึงรู้ว่าส่วนทองบริสุทธิ์เจือปนต่ำกว่ามาตรฐาน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. และ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร  ผบก.พฐก. และ พ.ต.อ.หญิง วิภาวดี เกษมวรภูมิ นวท.(สบ.๓) กคม.พฐก. ได้แถลงข่าวร่วมกับ นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสภาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อเตือนภัยผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชน ในกรณีการพบการปลอมแปลงโลหะทองคำรูปแบบใหม่ ซึ่งใช้วิธีนำโลหะอื่นมาเจือปนกับโลหะทองคำ ทำให้ทองคำลักษณะเหมือนทองคำแท้ แต่มีน้ำหนักและมูลค่าต่ำกว่าทองคำแท้

ผู้ต้องหาได้นำทองคำแท่ง ประมาณ 2 กิโลกรัม มาขายให้บริษัทห้างทองแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนซื้อขายทางบริษัทได้ตรวจสอบแล้วเบื้องต้นกับร้านตรวจสอบทองคำ สามารถตรวจหาทองคำเป็นเปอร์เซ็นมาตรฐานได้ โดยเมื่อร้านที่ทำการตรวจสอบได้ตรวจสอบแล้ว จึงได้ตอบกลับมาว่าทองคำจำนวนทั้งหมดผ่านการตรวจ

ซึ่งมีเปอร์เซ็นได้ค่ามาตรฐานที่ 96.5% จึงรับซื้อไว้ในราคาประมาณ 5 ล้านบาท ต่อมาผู้ต้องหาได้นำทองคำแท่ง จำนวนประมาณ 2 กิโลกรัม มาขายอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ตรวจสอบตามมาตรฐาน จากทางร้านตรวจสอบทองก็ยืนยันว่าเป็นทองคำตามมาตรฐานเช่นเดิม โดยรับซื้อไว้เป็นเงินสดจำนวนประมาณ 4 ล้านบาท


ต่อมาทางร้านที่ตรวจสอบทองคำได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ทองที่รับซื้อไว้ครั้งแรกได้นำไปหลอม เพื่อแปรรูปทอง ไม่สามารถนำมาขึ้นเป็นงานได้เนื่องจากเปราะแตกหัก ซึ่งไม่ใช่ทองมาตรฐาน มีอัตราส่วนทองบริสุทธิ์เจือปนต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ได้รับความเสียหายจึงรู้ว่าถูกหลอกลวง



ผลการตรวจพิสูจน์ของกลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พบว่า โลหะที่ใช้ผสมกับโลหะทองคำ เป็นธาตุโลหะรีเนียม (Rhenium) และทังสเตน (Tungsten) ซึ่งไม่สามารถใช้เทคนิคพื้นฐาน เช่น หยดกรด เผาไหม้ หรือใช้เครื่องมือ X-ray ขนาดเล็กในการตรวจวิเคราะห์เจอได้ ทำให้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ขั้นสูงในการตรวจพิสูจน์