ชายวัย50 รับจ้างขุดบ่อบาดาล ลึก 40 เมตร เกิดขาดอากาศหายใจ เพื่อนเห็นโดดลงไปช่วย ดับ1 เจ็บ1

มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี เขตทองผาภูมิ รับแจ้งว่ามีคนตกลงไปในบ่อบาดาลจำนวน 2 คน ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้รีบจัดเตรียมอุปกรณ์ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมขอกำลังสนับสนุน และอุปกรณ์จากหน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัยแห่งประเทศไทย ธน 34-00 ฐานบุญวิภา จุดทองผาภูมิ และหน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 ร่วมช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงพบฟไ หน้ากว้างประมาณ 1.20 เซนติเมตร น้ำแห้งขอด ที่ก้นบ่อพบร่างชาย 2 คน นอนหมดสติทับกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการโรยลงไป สามารถช่วยขึ้นมาได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น เนื่องจากอากาศในถังหมดก่อน เพราะที่ก้นบ่อไม่มีอากาศ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องรีบขึ้นจากบ่อโดยทันทีเพราะอาจจะเป็นอันตรายไปด้วย ส่วนคนที่นำขึ้นมาได้ทราบชื่อคือนายโจวเพียวโพ่ อายุ 50 ปี สภาพหมดสติได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณหน้าอกและด้านหลัง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รับนำตัวส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นอากาศปลอดภัยแล้ว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สำนักงานใหญ่และเจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดกาญจนบุรี ให้นำอุปกรณ์ช่วยเหลือมาสนับสนุนการกู้ร่างขึ้นมา กระทั่งทางคณะช่วยเหลือเดินทางมาถึงจึงโรยตัวลงไปกู้ร่างขึ้นมาได้สำเร็จ ทราบชื่อคือนายทู อายุ 50 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงถึงจะสามารถนำร่างขึ้นมาได้ ตรวจสอบพบว่านายทูเสียชีวิตแล้ว และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงแรกแล้วเนื่องจากทางเจ้าได้ที่ที่ลงไปช่วยเหลือนายโจวเพียวโพ่ ขึ้นมาก่อนหน้านี้ได้จับตัวนายทูพบว่าตัวเย็นแล้ว

จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า นายทูอาศัยอยู่ใกล้ๆกับบ่อน้ำตรงนี้ และได้รับจ้างลงไปขุดบ่อบาดาลพร้อมกับนายโจวเพียวโพ่ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท โดยบ่อตรงนี้เป็นบ่อร้างไม่มีน้ำนายทูได้อาสาลงไปขุดที่ก้นบ่อเพื่อจะเปิดตาน้ำในระหว่างที่ทำการขุดอยู่นั้นนายทูได้หมดสติไป เมื่อนายโจวเพียวโพ่ เห็นเพื่อนหมดสติจึงได้พยามลงไปช่วยแล้วหมดสติไปอีกคน เนื่องใต้ก้นบ่อนั้นไม่มีอากาศหายใจจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ขณะที่นายเอกภพ สร้อยสูงเนิน อาสาสมัคร

มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี จุดชะแล บอกว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ได้รับแจ้งว่ามีคนหมดสติอยู่ใต้ก้นบ่อบาดาลเป็นชาย 2 ราย เมื่อมาถึงจึงได้ช่วยกันช่วยเหลือขึ้นมาก่อนได้หนึ่งคนและนำส่ง รพ.สต. ใกล้เคียง อาการปลอดภัย ส่วนอีกรายทางเจ้าหน้าได้ลงไปตรวจสอบดูพบว่าไม่มีชีพจรคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง แต่ระหว่างตรวจสอบทางเจ้าที่ต้องรีบขึ้นมาทันทีเพราะด้านล่างไม่มีอากาศหายใจ จึงต้องประสานขออุปกรณ์เครื่องให้อากาศมาช่วยสนับสนุนจึงสามารถนำร่างขึ้นมาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป