ไฟป่าโหมหนักอำเภอแม่แจ่มและอำเภอแม่วาง ฮ.ปักเป้าส้มบินโปรยน้ำ

ไฟป่าโหมหนักอำเภอแม่แจ่มและอำเภอแม่วางฮอปักเป้าส้มบินโปรยน้ำ

สถานการณ์ไปในอำเภอแม่วาง และแม่แจ่มโหมไหม้ขึ้นอย่างหนัก ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่เร่งทำการดับไฟป่าทั้งภาคพื้นดิน ส่วนทางอากาศ ฮ.ปักเป้าส้มของ ปภ.บินโปรยน้ำ 12 เที่ยวบินดับไฟป่าอำเภอแม่วาง ยังไม่สงบ

โดยที่อำเภอแม่แจ่มเกิดไฟป่าลุกลามหลายพื้นที่ขยายวงกว้างต่อเนื่องมาหลายวัน ทั้งในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่โถ บางจุดยังไม่สามารถดับได้ เช่นที่ตำบลท่าผาและตำบลช่างเคิ่ง ที่มีสาเหตุมาจากชาวบ้านลักลอบเผาป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ และบางส่วนลุกลามมาจากพื้นที่ที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงชิงเผา และมีผู้ไม่หวังดีเข้าไปลักลอบจุดไฟเผาป่าเพิ่มและลุกลามออกไป ด้วยสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นป่าเต็งรังที่ผลัดใบไม้แห้งลงมากองทับถมอยู่บนพื้นดินจำนวนมาก ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงและหน้าผาทำให้ยากต่อการเข้าดับไฟ ส่วนที่ตำบลกองแขก เป็นการบริหารจัดการการเผาในพื้นที่ของชาวบ้านที่หลุดรอดแนวกันไฟออกไป และไหม้ลุกลามอย่างหนักข้ามเขาหลายลูกในช่วงคืนที่ผ่านมา

มีพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านวอดเสียหายไปหลายไร่ เนื่องจากในพื้นที่อำเภอแม่แจ่มไม่มีแหล่งน้ำที่ให้เฮลิคอปเตอร์ตักน้ำขึ้นมาโปรยน้ำดับไฟได้ นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ได้ปรับแผนระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติแม่โถและสถานีไฟป่าแม่โถ ที่ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ 60 นาย ใช้วิธีการดับไฟแบบไฟชนไฟหรือที่เรียกว่าแนวไฟเผากลับ โดยทำแนวกันไฟไว้แล้วจุดไฟสวนทางกลับไปหาแนวไฟป่า เมื่อไฟไปบรรจบกันไฟจริงจะดับลงเนื่องจากขาดเชื้อเพลิง ขณะเดียวกัน ยังมีการเสริมกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 โดยกรมทหารพรานที่ 35 ออกลาดตระเวนป้องปรามการลักลอบจุดไฟเผาป่าเพิ่มอีก รวมถึงสำรวจการเกิดไฟเพื่อจะได้ดับไฟได้อย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันวันนี้ไฟป่าในพื้นที่อำเภอแม่วาง จ.เชียงใหม่ก็ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอำเภอแม่วางนั้นมีพื้นที่ไม่ห่างจากอำเภอเมืองซึ่งจะเกิดผลกระทบเรื่องปัญหาหมอกควันโดยตรงหากควันไฟลอยเข้ามาสะสมตัว โดยวันนี้ตรวจพบสุดความร้อนขึ้นในอำเภอแม่วางทั้งหมด 38 จุดแบ่งเป็นเช้า 24 จุด และ บ่าย 14 จุด แล้วจะอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบขาน, ต.บ้านกาด ต.ทุ่งปี้ ต.แม่วิน ต.ดอนเปา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ระดมกำลังเข้าดับไฟทั้งภาคพื้นดินและด้วยอากาศยาน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่งเฮลิคอปเตอร์ KA.32 หรือปักเป้าส้ม จำนวน 12 เที่ยว โปรวยน้ำจำนวน 36,000 ลิตร เข้าช่วยดับไฟ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในพื้นที่ยังไม่น่าไว้ใจ ส่วนหนึ่งมาจากสาภพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งอย่างหนักทำให้มีเชื้อไฟที่สะสมตัวจำนวนมากเมื่อเกิดไฟป่าจึงลุกลามได้อย่างรวดเร็ว