อาชญากรรม

ฝากขัง ‘เต้ย บางโพ’ โจรโรคจิตใคร่เด็ก นักข่มขืนต่อเนื่อง ฉุดเด็กหญิงในชุดนักเรียนล่วงละเมิดหลายราย

โดย petchpawee_k

29 ก.พ. 2567

84 views

เตรียมฝากขัง “เต้ย บางโพ” ถูกรวบคาลิฟต์ สะกดรอยแอบอยู่บันไดหนีไฟฉุดเด็กหญิงในชุดนักเรียนไปข่มขืนในห้องพักไม่สวมถุงยาง สารภาพมีรสนิยมชอบเด็ก อ้างผู้เสียหายสมยอม ตำรวจเผยตระเวนข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงต่อเนื่อง มีพฤติกรรม “ใคร่เด็ก” เลือกเหยื่อสวมชุดนักเรียน ประวัติถูกดำเนินคดีเพียบ


วานนี้ (28 ก.พ. ) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุม นายวิษณุ หรือเต้ย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐาน “บุกรุกเคหสถาน ,กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยจับกุมได้ที่ ภายในลิฟต์คอนโดย่านเตาปูน ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ


สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ราย (ยังไม่แจ้งความอีกหลายราย) และเคยถูกจับกุมตัวไปแล้วตั้งแต่ 7 ก.ย. 2561 หลังจากก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงกว่า 2 คดี โดยเหตุการณ์ในครานั้นเหยื่อนักเรียนหญิงถูกสะกดรอยติดตาม จากนั้นคนร้ายปลอมตัวเป็นรถรับจ้างรับเธอกลับจากโรงเรียน พาเธอออกนอกเส้นทางไปยังใต้สะพานซังฮี้ ก่อนจะลงมือต่อยท้องก่อนจะข่มขืนกระทำชำเรา หลังโดนจับกุมและถูกส่งตัวเข้าไปรับโทษในเรือนจำอยู่หลายปี


ล่าสุดได้พ้นโทษออกมา กระทั่งในวันที่ 30 ต.ค. 2566 ผู้ต้องหารายนี้ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง โดยครั้งนี้เลือกเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนหญิงวัย 12 ปี โดยแอบเฝ้าอยู่ที่บันไดหนีไฟของตึกที่พักย่านสาทรของเหยื่อ จนกระทั่งเห็นเหยื่อนักเรียนหญิงกลับมาจากโรงเรียนเพียงลำพัง จึงเดินตามมาอย่างเงียบๆ จนถึงห้องพัก


ทั้งนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิด (30 ก.พ.66) ที่อพาร์ทเม้นต์ ซึ่งเป็นที่พักของเด็กหญิง ผู้เสียหาย วัย 12 ปี จะเห็นว่านายวิษณุ ได้เข้าดักรอเหยื่อที่ชั้น 1 ของอพาร์ทเม้นต์ หลังจากเห็นเหยื่อกลับมาแล้วขึ้นไปบนห้อง นายวิษณุ ก็สะกดรอยตามเข้าไป ทันทีที่เหยื่อนักเรียนหญิงไขประตูห้องพัก คนร้ายได้พุ่งเข้าไปประชิดและใช้มืออุดปากลากเข้าไปในห้องพักแล้วลงมือข่มขืนเธอโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ซ้ำยังขู่จะฆ่าให้ตาย


โชคช่วยที่ญาติของเหยื่อนักเรียนหญิงได้กลับมาที่ห้องพัก เมื่อได้ยินเสียงไขประตูจึงฮึดสู้ “กรี้ด” สุดเสียงก่อนจะได้รับความช่วยเหลือทันท่วงที หลังเกิดเหตุ ญาติและเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและจับกุมตัวได้บริเวณดังกล่าว


นอกจากนี้มีภาพจากกล้องติดตัวของตำรวจสายตรวจ เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2566 ที่เด็กหญิงผู้เสียหายวัย 12 ปี รายนี้ ถูกนายวิษณุ หรือเต้ย ลวนลาม ซึ่งหลังเกิดเหตุญาติของเหยื่อเด็กสาวคนดังกล่าวได้มาล้อมผู้ต้องหา แล้วเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาเชิญตัวนายวิษณุ ออกไป โดยในคลิปจะได้ยินเสียงเหยื่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกแอบตามมาหลายวันและถูกลวนลาม แต่นายวิษณุ อ้างว่าไม่ได้ลวนลาม ก่อนจะมีการโต้เถียงกับญาติของเหยื่อ และถูกตำรวจควบคุมตัวไป

เบื้องต้นในชั้นจับกุมนายวิษณุ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่า “ตนเองเป็นอดีตข้าราชการ มีรสนิยมชอบเด็ก แต่ผู้เสียหายทั้งหมดที่ตนเองเคยถูกดำเนินคดีนั้น สมยอมทั้งหมด บางรายยังถ่ายภาพการช่วยตัวเองมาให้ตนเก็บไว้ดู โดยกล่าวโทษว่าเหยื่อเด็กเหล่านั้นร้ายกว่าที่คิด สร้างเรื่องให้ตนเองโดนคดี ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าสะกดรอยซุ่มตามเหยื่อนั้น ตนเองไม่ได้ซุ่ม แต่แค่รู้ว่าบ้านของเหยื่ออยู่ที่ใด”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า ได้ส่งชุดพระกาฬแกะรอยอาชญากรรายนี้ จนทราบว่าเป็นพวกที่ “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่สวมชุดนักเรียน


กระทั่งทราบเบาะแสว่าคนร้ายรายนี้ “ขับรถรับจ้าง” และอาศัยเวลาว่างหรือระหว่างทำงานในการคัดเลือกเหยื่อ


และต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่คอนโดฯ ย่านเตาปูน ซึ่งเป็นห้องของแฟนสาว จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายค้นมาถึงพบว่า คนร้ายไม่อยู่ห้องพักจึงวางกำลัง “ซุ่ม” รอคนร้ายอยู่บริเวณลิฟต์ก่อนเข้าห้องพัก และสามารถจับกุมตัวอาชญากรรายนี้ได้ในที่สุด


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายวิษณุ หรือเต้ย พบประวัติการค้นหาดูคลิปลับในกูเกิ้ล ซึ่งเป็นการค้นหาคลิปเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ กับเด็กนักเรียนหญิง เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน หลังจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิษณุ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุงมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย


พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาเพราะจากแผนประทุษกรรมคนร้ายรายนี้เป็นอาชญากรต่อเนื่องที่มีรสนิยม “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหยื่อที่สวมชุดนักเรียน และจะใช้วิธีสะกดรอยติดตามเหยื่อจนสบโอกาสที่เหยื่ออยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ปกครองคอยดูแล ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย


ซึ่งคนร้ายรายนี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาประเภทเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง เมื่อพ้นโทษออกจากเรือนจำออกมากลับมาก่อเหตุซ้ำอีก จัดได้ว่าอยู่ในประเภท “นักข่มขืนต่อเนื่อง” เราจึงเชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่ต้องการให้คนแบบนี้เพ่นพ่านในสังคม


จากแนวทางการสืบสวนวิเคราะห์จากพฤติกรรมพบว่าเป็นพวกใคร่นิยมเด็กที่อายุน้อยๆ และสวมชุดนักเรียนและจะไปสะกดรอยตามดูเหยื่อหาจังหวะที่จะเข้าหาเหยื่อเพื่อล่วงเกินหรือละเมิดทางเพศ ส่วนใหญ่คนร้ายจะเจอแหยื่อทางโซเชียลมีเดีย โดยใช้โปรไฟล์เป็นรูปดอกไม้หลอกคุยกับเหยื่อ เหยื่อที่เป็นเด็กมีความไร้เดียงสาจึงเข้าใจว่าคุยกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ก็จะบอกข้อมูลส่วนตัวกับเหยื่อทั้งหมด เช่น พักอาศัยอยู่กับใคร ที่ไหน รวมถึงส่งภาพให้คนร้าย


จากนั้นคนร้ายก็มีการคุยกันเหยื่อทางไลน์หรือแชตส่วนตัว ก่อนจะขับรถเก๋งไปดักรอเหยื่อและสะกดรอยตามจากโรงเรียนไปที่บ้านและอาศัยจังหวะในการก่อเหตุ ส่วนสถานที่ก่อเหตุที่ได้รับแจ้งความจากเหยื่อพบว่ามีทั้งก่อเหตุสถานที่พักของเหยื่อและที่อื่น


วานนี้ (28 ก.พ.) เวลา 15.30 น. ภายหลังที่นำตัวนายวิษณุ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวิษณุ (ผู้ต้องหา) ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม / ทีมข่าวได้สอบถามนายวิษณุ เผยว่า เด็กหญิงผู้เสียหาย อายุ 12 ปี ได้โพสต์ข้อความในโลกโซเชียล ว่าต้องการคนเลี้ยง พอเห็นโพสต์ ตนเองจึงเสนอตัวไปว่าสามารถเลี้ยงดูได้ จึงได้คุยกันและชอบพอกัน จึงได้นัดกันขึ้นไปบนห้องสองต่อสองไม่ได้มีอะไรกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่คุณตาของเด็กเปิดห้องเข้ามาพอดี เมื่อถามว่าก่อเหตุกับเด็กมาแล้วกี่คน นายเต้ย ไม่ตอบ

พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า ภายหลังสอบปากคำ เหยื่อให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ว่านายวิษณุ มีการกักขังเหยื่อไว้ภายในห้องน้ำพร้อมกับข่มขู่ หากนำเรื่องดังกล่าวไปบอกคนอื่นจะฆ่าให้ตาย ถึงแม้นายวิษณุ จะให้การปฏิเสธ ทางพนักงานสอบสวนก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยวและทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว รวมทั้งหมดเป็น 4 ข้อหา เตรียมนำตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังวันนี้ (29 ก.พ.)


พ.ต.ท.อนันต์ วงศ์คำ รองผู้กำกับการปราบปราม  สน.ทุ่งมหาเมฆ เผยว่า ตำรวจได้มีการจับกุมนายวิษณุ มาแล้วในวันที่ 30 ต.ค.ปีที่แล้ว จากกรณีที่พบอยู่ในห้องกับเด็กหญิงอายุ 12 ปี ทันทีที่รวบตัวได้ ร้อยเวรได้นำตัวมาตรวจสอบประวัติอาชญากรรมรวมถึงตรวจสอบดีเอ็นเอ ที่เล็บ เนื่องจากอวัยวะเพศของเหยื่อมีรอยขีดข่วน และมีการตรวจสอบร่างกายเด็ก แต่ผลการตรวจยังไม่ออกมา ทำให้ร้อยเวรที่ทำคดีต้องปล่อยตัวไปก่อน


เพราะพยานหลักฐานยังไม่ครอบคลุม จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับนายวิษณุได้ และเมื่อผลการตรวจดีเอ็นเอออกมา ปรากฏว่าทั้งเล็บเเละรอยข่วนที่อวัยวะเพศของเหยื่อมีดีเอ็นเอที่ตรงกัน นอกจากนี้ผลการตรวจสอบสภาพร่างกาย จึงทำให้พบว่ามีการร่วมเพศเกิดขึ้นจริง เนื่องจากพบคราบอสุจิของนายวิษณุ อยู่ในช่องคลอดของเหยื่อ เท่ากับว่ามีหลักฐานครอบคลุม ตำรวจจึงเข้าจับกุมนายวิษณุ


นอกจากนี้ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามเจ้าหน้าที่คอนโดมิเนียม ย่านสาทร พื้นที่เกิดเหตุคนร้ายทำอนาจารเด็กหญิงวัย 12 ปี เจ้าหน้าที่คอนโดมิเนียม เล่าว่า หลังจากดูกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี ทำทีเป็นลูกบ้านเดินเข้ามาภายในอาคารอาศัยช่วงลูกบ้านเข้าออกประตู ในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 30 ตุลาคม 66 โดยทำทีเป็นเดินวนไปวนมาสำรวจอาคารตามชั้นต่างๆ ก่อนที่จะมานั่งเก้าอี้บริเวณหน้าลิฟต์รวมระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนที่ผู้เสียหายจะเดินทางกลับมาในเวลา 15.00 น.ด้วยชุดนักเรียน จากนั้นผู้เสียหายได้ขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกับผู้ชายที่เป็นลูกบ้าน 1 คน ไปยังชั้น 3 บริเวณห้องพัก


ส่วนคนร้ายเมื่อเห็นเหยื่อก็ได้วิ่งตามขึ้นไปทางบันไดหนีไฟ จนกระทั่งไปเจอผู้เสียหายบริเวณชั้น 3 ชายที่เป็นลูกบ้านก็เดินออกจากลิฟต์เลี้ยวขวาห้องพัก ส่วนผู้เสียหายเดินออกจากลิฟต์เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าห้องพักเช่นกัน จังหวะคนนั้นก็วิ่งตามเข้าไปจับลูกบิดประตูเข้าไปในห้อง


จนกระทั่งมีเสียงเอะอะโวยวาย ร้องขอความช่วยเหลือ ระหว่างนั้นตาของผู้เสียหายที่เดินกลับมายังห้องพัก เปิดประตูเข้าไปพบว่าคนร้ายอยู่ในห้อง ประกอบให้ลูกบ้านที่อยู่ติดกันได้ยินเสียงโทรมาลงมาแจ้งนิติบุคคล จากนั้นนิติบุคคลก็ได้แจ้งตำรวจก็ออกมาช่วยเหลือตามที่ปรากฎในคลิป


สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายพบว่าแต่งตัวดีพูดจารู้เรื่อง โดยมีการกล่าวอ้างว่าผู้เสียหายชอบและชักชวนให้มาเที่ยวหาที่ห้อง แต่ระหว่างที่พูดมีอาการหวาดระแวง ดูร้อนรนและเหงื่อออกท่วมตัวและเดินไปบิดลูกบิดประตูดูหลายห้อง เป็นจังหวะที่ห้องของผู้เสียหายไม่ได้ล็อคเพราะคิดว่าตายายคงจะกลับมาคนร้ายจึงเข้าไปได้


เจ้าหน้าที่ของคอนโดมิเนียม ยังกล่าวด้วยว่ารู้สึกตกใจและหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ควรไปก่อเหตุกับเด็กและเมื่อรู้ว่าเคยก่อเหตุมาหลายพื้นที่ ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายและเป็นภัยสังคม /ผู้เสียหายยืนยันไม่รู้จักชายคนดังกล่าวและมีความกังวลอย่างมาก หลังเกิดเหตุพ่อแม่ของผู้เสียหายได้มารับตัวลูกกลับไปดูแลเพราะที่ผ่านมาอยู่กับตาและยายและยังคงเรียนหนังสือตามปกติ


จากการตรวจสอบพบประวัติการนายวิษณุ ถูกดำเนินคดี 3 คดี ปี 2560 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” พื้นที่ จ.นนทบุรี/ ปี 2561 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” พื้นที่ สน.สามเสน ผู้เสียหายเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 16 ปี /และปี 2566 ก่อคดีดังกล่าว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jtZY7UxW5ss

คุณอาจสนใจ

Related News