เปิดพิรุธ ชุดจับกุม 'ป้าศรีไพร' ปรักปรำรุกป่าสระบุรี เผยสำนวนคดี ใช้หลักฐานเท็จเล่นงาน

ความคืบหน้าหลังจากเมื่อวานนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง "นางศรีไพร ตุ่นสมบัติ" ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งจับกุม-ทำสำนวนส่งฟ้องในคดีบุกรุกป่า ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 ยืนยันว่าขณะนี้ ป.ป.ท.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมดเเล้ว ขณะที่ข่าว 3 มิติ พบข้อมูลที่น่าสงสัยว่า การจับกุม-ดำเนินคดีเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ หลังพบว่าภาพในเอกสารประเมินความเสียหาย ที่ชุดจับนำไปรายงานผู้ว่าฯสระบุรี เป็นภาพจากคดีอื่นที่ไม่ใช่เเปลงที่ทำกินของ นางศรีไพร



จากคำพิพากษาศาล ทั้งในชั้นต้นเเละชั้นอุทธรณ์ ทำให้เธอเเละลูก ๆ สบายใจมากขึ้น เเต่ก็ยังกังวลเเละหวาดระเเวง กลัวว่าวันหนึ่ง อาจจะมีใครกลับมาข่มขู่ หรือกลั่นเเกล้งไล่เธอกับลูก ๆ ออกจากที่ทำกินเล็ก ๆ ผืนนี้



เพราะก่อนจะเกิดเรื่องในปี 2564 เคยมีกลุ่มคนจากข้างนอก เข้ามาขอพื้นที่เล็ก ๆ สร้างกระท่อมอยู่ชั่วคราว ด้วยความสงสารเเละเห็นว่ายากจนเหมือนกันจึงให้มาอยู่ด้วย เเต่ผ่านไปไม่นาน คนกลุ่มนี้เริ่มทำทีเข้ามาอ้างสิทธิ์ ด้วยรูปเเบบเดิม ๆ ก็คือ เอาไม้ผล เอาทุเรียนเข้ามาปลูก เตรียมจะยึดเอาที่ทำกินผืนนี้ เอาตำรวจมากดดัน เกิดเป็นกรณีพิพาท



จากนั้นไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่สังกัดกรมป่าไม้กลุ่มหนึ่ง นำกำลังเข้ามาตรวจสอบ เเละอ้างว่า ถ้าไม่ไกล่เกลี่ยหรือตกลงกันจะจับทั้งคู่ สุดท้ายคนที่ถูกดำเนินคดีเเละทำสำนวนส่งฟ้องศาล กลับเป็นนางศรีไพร ซึ่งอยู่ทำกินมานาน ส่วนคู่กรณีที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่นานกลับรอด ท่ามกลางข้อสงสัยว่า มีเบื้องลึกบางอย่างเเอบเเฝงหรือไม่



เรื่องนี้ทราบถึง นายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการ ป.ป.ท.เขต 1 จึงเเฝงตัวเข้ามาสังเกตการณ์ เเละเห็นความไม่ชอบมาพากล ก่อนจะเเสดงตัวที่โรงพัก เเละใช้ตำเเหน่งตัวเอง ช่วยประกันตัวนางศรีไพร



จากข้อสงสัยนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า การจับกุมนางศรีไพร เป็นไปโดยชอบหรือไม่ จนเราได้เห็นเอกสารประเมินความเสียหาย ที่ชุดจับเคยส่งรายผู้ว่าฯสระบุรี



หลังจากนางศรีไพร ตัดสินใจไปร้องศูนย์ดำรงค์ธรรม ปรากฏเป็นภาพชุดนี้ ระบุข้อความบนหัวกระดาษ คดีอาญาที่ 242/64 บริเวณบ้านลำ ม.4 ต.บ้านลำ อ.วิหารเเดง ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2564



ที่น่าสนใจคือ ภาพในคดีของนางศรีไพร ที่ป่าไม้ชุดนี้ส่งรายงานผู้ว่าฯ เเละอ้างว่า การบุกรุกป่าครั้งนี้ คิดเป็นความเสียหายมากถึง 221,244 บาท กลับเป็นภาพชุดเดียวกับคดีที่ไปจับในพื้นที่มวกเหล็ก ลงคดีอาญาที่ 251/59 วันที่ 31 ตุลาคม 2559



เมื่อนำภาพทั้ง 2 คดีมาเทียบกัน จะเห็นชัดเจนว่าเป็นภาพเดียวกัน เเตกต่างก็ตรงที่หัวข้อด้านบน เเละภาพคดีนางศรีไพรในปี 64 เป็นภาพสี ส่วนคดีที่มวกเหล็ก ปี 59 เป็นภาพขาวดำ ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่า นี่เป็นการปลอมเเปลงหลักฐานเเละเเจ้งเท็จหรือไม่



นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม ยืนยันว่า จากการตรวจสอบการเเปลภาพถ่ายทางอากาศ เเละข้อมูลที่ได้มา นางศรีไพร อยู่ในเงื่อนไขที่รัฐผ่อนปรนให้อาศัยทำกินได้ การมาไล่จับเเละยึดที่ชาวบ้านลักษณะนี้ไม่ถูกต้อง



นอกจาก ป.ป.ท.จะดำเนินการกับชุดจับกุมเเล้ว มีรายงานว่า นางศรีไพร เเละทีมกฏหมาย เตรียมจะไปยื่นเรื่องที่ป.ป.ช.เเละอัยการสูงสุด ตรวจสอบพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนด้วย