สังคม

ป.ป.ท.เขต 1 เตรียมสอบ จนท. เเจ้งข้อหารุกป่า 'ป้าศรีไพร' พบหลักฐานส่อผิดทั้งวินัย-อาญา

โดย panwilai_c

30 มี.ค. 2566

529 views

ความคืบหน้า หลังจากศาลจังหวัดสระบุรี มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนางศรีไพร ตุ่นสมบัติ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง ร่วมกันจับกุมเเละเเจ้งข้อหาบุกรุกป่า ทั้งที่มีพยานหลักฐาน ยืนยันว่า นางศรีไพรกับครอบครัว ได้รับการผ่อนผันให้ทำกินมาตั้งเเต่ปี 2512 เเละวันนี้ก็มีประชาชนเเละผู้นำท้องถิ่นหลายคน ออกมาช่วยยืนยันเเละพร้อมเป็นพยานให้นางศรีไพรกับครอบครัว



ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 1 ได้ยื่นเรื่องต่อ สำนักงาน ป.ป.ช.เเล้ว เตรียมตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพิจารณาชี้มูลความผิดทั้งวินัยเเละอาญา ไล่ตั้งเเต่ชุดจับกุม ทีมสอบสวน ไปจนถึงชั้นอัยการ



ภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง ที่นางศรีไพร ซึ่งถูกกล่าวหาเเละตกเป็นจำเลยในคดีบุกรุกป่า ใช้เป็นหลักฐานต่อสู้คดีในขั้นศาล จากภาพย้อนหลังระหว่างปี 2529 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2539 จะเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ อยู่นอกเขตอุทยานฯ เเละอยู่นอกเขตป่าสงวนฯ เป๋นที่ว่างเปล่าไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์ในพื้นที่ชัดเจน ไม่ได้เป็นการบุกรุกหรือขยายขอบเขตพื้นที่ป่าตามที่ถูกกล่าวหา



เเละถ้ามาดูในเเผนที่ระวางขอบเขตในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นางศรีไพร ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุม จะเห็นว่านางศรีไพรกับครอบครัว ยังทำกินอยู่ที่เดิม ตรงกันข้าม สภาพป่าเเละที่ว่างเปล่าข้างเคียงเเละในบริเวณรอบ ๆ กลับเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสุสานฮวงซุ้ยของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน



หลายฝ่ายจึงตั้งคำถามว่า ทำไมการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดจับกุม ถึงพุ่งเป้ามาที่ครอบครัวของนางศรีไพร ทั้งที่ทำกินอยู่ภายใต้เงื่อนไขของภาครัฐมาโดยตลอด หรือมีอะไรบางอย่างเเอบเเฝงหรือไม่



ทีมข่าว 3 มิติ ได้พบกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่ประจำการอยู่ไม่ไกลจากบ้านของนางศรีไพรบอกว่า เคยโต้เเย้งชุดจับไปเเล้วว่า นางศรีไพรไม่ได้บุกรุก รวมทั้งชาวบ้านเเละผู้นำชุมชนใน ต.บ้านลำ อ.วิหารเเดง จ.สระบุรี เข้ามาให้ข้อมูลเจ้าที่ ป.ป.ท.เขต 1 วันนี้ ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ ทุกคนที่นี่ก็พร้อมเป็นพยานเเละเคยโต้เเย้งชุดจับกุมไปเเล้ว เเต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยฯ สบ.2 ลำพญากลางเป็นหัวหน้าชุดในขณะนั้น รวมไปถึงพนักงานสอบสวนสภ.วิหารเเดง กลับไม่นำพยานหลักฐานเหล่านี้ใส่ในสำนวน



นายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 1 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับข่าว 3 มิติ ได้ตั้งเรื่องส่งไปสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนเรื่องนี้เเล้ว



จากนี้จะทำหนังสือเรียกดูข้อมูลเอกสารทั้งหมด จากเจ้าหน้าที่ชุดจับ พนักงานสอบสวน เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เพื่อดำเนินการทั้งวินัยเเละอาญา โทษมูงสุดคือจำคุก เเละไล่ออกจากราชการ

คุณอาจสนใจ