'เศรษฐา' รุดตรวจแฟลตทหารเกียกกาย ก่อนตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ แบบไม่แจ้งล่วงหน้า

ช่วงบ่าย วันที่ 24 ก.พ.67 ภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กลับจากเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพัก นายเศรษฐาได้ไปตรวจเยี่ยมอาคารสงเคราะห์กองทัพบก (ส่วนกลาง) เกียกกาย แบ่งเป็นตึกที่อยู่อาศัยของทหารชั้นประทวน และทหารชั้นสัญญาบัตร เพื่อดูความเป็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร มีขนาดห้องพักเหมาะสมหรือไม่


โดยมี พ.อ.สมเกียรติ ถนอมคุ้ม ผู้อำนวยการกองการสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารบก พล.ต.มงคล บุตรดาวงษ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และนายทหารพาเยี่ยมชม โดยนายเศรษฐาได้ขึ้นไปดูที่ห้องพัก พร้อมเสนอแนะให้มีการบริหารจัดการพื้นที่ co-working space ติดตั้งสัญญาณ WiFi ให้ได้ใช้งาน อาจจะไม่ต้องติดตั้งทีวี รวมถึงการก่อสร้างพื้นที่จอดรถแบบ 2 ชั้น จัดสรรให้มีห้องยิมไว้ออกกำลังกาย จัดจุดหัวชาร์จให้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมให้ใส่บิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้ครบและสวยงาม เพื่อนายทหารจะได้ไม่ต้องไปจัดหามาเพิ่ม และควรมีห้องสันทนาการที่ชั้นล่างด้วย พร้อมกำชับให้ดูเรื่องสถานที่ทิ้งขยะ รณรงค์การแยกขยะ ซึ่งก็เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีความสะอาด


นายเศรษฐา ยังแนะนำด้วยว่า การก่อสร้างสามารถพัฒนาได้ ห้องประมาน 45 ตารางเมตรของนายทหารชั้นประทวนกำลังสวย และให้มีการวางแผนออกแบบการก่อสร้างอาคารที่พักในระยะยาว 10 ปี โดยพิจารณาจากงบประมาณให้เกิดความเหมาะสม


"ต้องการไปดูความเป็นอยู่ของทหารชั้นผู้น้อย อยากให้ทหารชั้นผู้น้อยมีความเป็นอยู่ที่สมศักดิ์ศรี จะได้รู้ว่าในอนาคตถ้ามีความทะเยอทะยาน และมีความตั้งใจทำงาน จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีรองรับอยู่ในอนาคต ไม่ใช่ว่าจะใช้งานอย่างเดียว ต้องดูแลด้วย"


ทั้งนี้ นายเศรษฐา ยังเตรียมไปดูบ้านพักทหารเรือ ทหารอากาศ และกองทัพไทย ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ด้วย


ภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่พัก แฟลตเจ้าหน้าที่ทหารบก ที่อาคารสงเคราะห์ ทบ.ส่วนกลาง (เกียกกาย) เพื่อดูความเป็นอยู่และกำลังพลแล้ว ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายเศรษฐาเดินทางไปตรวจระบบบริการของสนามบินสุวรรณภูมิ


โดย นายเศรษฐา ระบุว่า แวะมาตรวจระบบบริการของสนามบินสุวรรณภูมิแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้า หลังจากเคยมาตรวจแบบนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว โดยครั้งนั้นมาตรวจช่วงเช้า วันนี้จึงมาช่วงเย็น ซึ่งผู้โดยสารหนาแน่นพอควร


พร้อมกันนี้ นายเศรษฐาได้จับเวลาการให้บริการภายในสนามบิน โดยเริ่มจับเวลาตั้งแต่ลงรถ เข้าสู่ระบบเช็คอิน ระบบรักษาความปลอดภัย เดินไปถึงเทอร์มินอล จนรอขึ้นเครื่อง และขาเข้า ตั้งแต่ลงเครื่อง มาถึงจุด Immigration และระบบการจัดการทั้งหมดแบบละเอียด พบว่าใช้เวลามาก จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า เราจะสามารถฟิคเวลาได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่แน่นอน ซึ่งส่วนนี้จะต้องมีการปรับปรุงแบบด่วนที่สุด อยากให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดไม่ว่าจะเป็นการท่าฯ หรือ ตม.ร่วมแรงร่วมใจกันลงไปตรวจสอบระบบช่วงเวลาที่คนหนาแน่นมาก ๆ ด้วยตัวเอง จะได้รู้ว่าต้องแก้ปัญหาตรงจุดไหน และครั้งหน้าก็จะลงมาตรวจด้วยตัวเองอย่างละเอียดอีกครั้ง


นายเศรษฐา ระบุด้วยว่า เรากำลังพยายามผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบิน และกำลังเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกชาติ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีจิตบริการ ใส่ใจนักท่องเที่ยว ให้เขาประทับใจตั้งแต่ก้าวขาลงจากเครื่องบิน ไม่อยากให้ทุกท่านมองว่าสิ่งที่ไม่พร้อมเป็นปัญหา วันนี้มาเพราะมองทุกอย่างเป็นโอกาสที่เราจะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยดีขึ้น

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/yoaCTqey6LI