สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 23 ก.พ.67 ก้าวไกลตั้งกระทู้จี้ รมว.ยุติธรรม-บิ๊กโจ๊ก VS บิ๊กเต่า-เปิดภาพเรือหลวงสุโขทัยจมทะเล

โดย thichaphat_d

23 ก.พ. 2567

47 views

1.บิ๊กโจ๊ก ยันบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวเว็บพนัน แฉตำรวจใหญ่อยู่เบื้องหลังดิสเครดิต

2.บิ๊กเต่าแฉกลับ ตำรวจสีดำ เป็นองค์กรอาชญากรรม แต่สร้างภาพเป็นเทวดา

3.ออกหมายจับแล้ว ไอ้นนท์ ลวงเด็กชายล่วงละเมิดทางเพศนับสิบราย

4.ลูกบ้านหัวร้อน ฉุน รปภ.ไม่ให้เข้าหมู่บ้าน ชักปืนขู่ คว้ามีดแทง

5.หนุ่มเมาคลั่ง รำคาญผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย ถือปังตอบุกฟันหัว

6.ผู้โดยสารโวย AIR JAPAN ยกเลิกเที่ยวบินกะทันหัน หลังดีเลย์กว่า 3 ชม.

7.เปิดภาพแรก เรือหลวงสุโขทัย หลังอับปางในทะเลนานกว่า 1 ปี



เรื่องเล่าการเมือง

-สส.ก้าวไกล ตั้งกระทู้จี้ รมว.ยุติธรรม ตอบทักษิณเข้าเกณฑ์ พักโทษข้อไหน


เรื่องการพักโทษ ของนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวานนี้ ในสภาฯ สส.พรรคก้าวไกล มีการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา รัฐมนตรียุติธรรม ถึงเงื่อนไข ที่นายทักษิณ ได้รับสิทธิพักโทษ

เป็นการตั้งกระทู้ โดย สส.กาย-ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล ถามรัฐมนตรียุติธรรม ถึงหลักเกณฑ์ในการพักโทษนายทักษิณว่าเข้าเงื่อนไขข้อใด แต่ปรากฎ พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรัฐมนตรียุติธรรม ตอบเพียงความจำเป็นในการพักโทษ นักโทษ แบบรวมๆ จนทำ สส.กาย ทักท้วงว่า เหมือนมาอ่านคำถามซ้ำ

สส.กาย ตั้งคำถามย้ำว่า การพิจารณาพักโทษแบบ พิเศษให้กับ นายทักษิณ ใช้วิธีการใด เหตุใดนักโทษมีมากถึง 280,000 ราย แต่ได้รับการพักโทษพิเศษ เพียง 8 ราย

และถ้าจะบอกว่าเข้าเงื่อนไขป่วย ตามระเบียบของราชทัณฑ์ จะต้องป่วย 7 โรค อาทิ โรคร้ายแรงรักษาไม่หายขาด / โรคระยะวิกฤตเสี่ยงต่อการตาย / โรคที่ทำให้ดูแลตัวเองไม่ได้ หรือมะเร็งระยะสุดท้าย

และถ้าอ้างว่า พักโทษพิเศษ เพราะ ชรา อายุถึง70 ตามระเบียบของราชทัณฑ์ ใช้คำว่า ต้องมีอายุเกิน 70 ปี และต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สรุปแล้ว นายทักษิณ เข้าเกณฑ์ข้อไหน

พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า กฎหมายใช้คำว่าเจ็บป่วยร้ายแรงหรือพิการหรืออายุ 70 ปีขึ้นไปที่ช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย ซึ่งผู้อายุ 70 ปีขึ้นไปที่จะได้รับการพักโทษ อาจจะไม่แข็งแรง และเรื่องนี้ ก็เป็นการประเมิน จากหมอและพยาบาล

ด้าน สส.กาย บอกว่า วันนี้รัฐมนตรีได้ตอบหลักเกณฑ์ชัดเจนแล้ว ต่อไปนี้นักโทษเด็ดขาดอายุ 70 ปีขึ้นไป สามารถไปขอแบบฟอร์มจากกรมอนามัย และประเมินตนเองส่งให้รัฐมนตรีได้เลย เพราะจะมีนักโทษมากมายที่เข้าหลักเกณฑ์ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ก็เอาเทปการประชุมวันนี้ไปเปิดให้อธิบดีฟังว่า เป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

การตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ มีการประท้วงต่อเนื่องจาก สส.พรรคเพื่อไทย โดยนายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงว่า กระทู้ถามต้องไปเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใด และต้องไม่เอ่ยถึงบุคคลภายนอก

แต่นายปดิพัทธ์ ประธานการประชุมฯ วินิจฉัยว่า สส.กาย ถามถึงปัญหา กระบวนการยุติธรรม และมาตรฐานของการใช้กฎหมาย

ขณะที่ สส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ประท้วงถึง 3 ครั้งว่า สส.กาย แสดงความเห็นและใช้วาทกรรมบิดเบือน ให้เกิดความเข้าใจผิด แต่นายปดิพัทธ์วินิจฉัยว่า ยังอยู่ในประเด็น จนเกิดการโต้เถียงกัน กันไปมา



-คู่กัดคู่ใหม่ หมออ๋อง- อัครเดช โต้เดือดกลางสภาฯ ถูกเบรกอภิปราย

ส่วนกระทู้ถาม เรื่องการจัดการสายไฟและสายสื่อสาร เกิดการโต้เถียงระว่าง สส. อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ กับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ นักข่าวใช้คำว่า คู่กัดคู่ใหม่ในสภาฯ เป็นการโต้เถียงกัน เนื่องจาก นายปดิพัทธ์ ไปเตือน สส.อัครเดช ที่กำลังตั้งคำถามไปได้ 10นาที

โดยนายปดิพัทธ์ บอกว่า นายอัครเดชใช้เวลาเกือบ 10 นาทีแล้ว และยังไม่เข้าสู่คำถาม ทำให้ สส.อัครเดช ไม่พอใจ ตอกกลับว่า กระทู้ถามทั่วไปไม่ได้ระบุเวลา และตนเองรู้ข้อบังคับดี พร้อมขอว่า นายปดิพัทธ์ อย่าทำตัวเอียง ต้องวางตัวให้เป็นตรง ทำให้ นายปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า เตือนเพราะแค่อยากจะให้ช่วยบริหารเวลาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ให้อภิปราย

ส่วน สส.อัครเดช ก็ตอบโต้กลับ โดยปกติถ้าเป็น กระทู้ถามสด ผู้ถามมีเวลาถาม 15 นาที และผู้ตอบมีเวลา 15 นาที แต่กรณีนี้เป็นกระทู้ถามทั่วไปที่ตน เพิ่งถามไปได้ 10 นาที แต่กลับมาโดนเบรก พร้อมถามนายปดิพัทธ์ว่า "มีอะไรกับผมเปล่าครับ"

นายปดิพัทธ์ บอกว่า ไม่มี แค่บอกเฉยๆ ว่าตอนนี้ควรที่จะต้องเข้าสู่คำถามได้แล้ว

จากนั้น ก็มีการตอบโต้กันไปมา จน สส.อัครเดช มีการขอให้ สภาฯ บันทึกไว้ว่า สส.นำปัญหาของพี่น้องประชาชนมาอภิปราย ตามข้อบังคับแล้ว แต่ประธานที่ประชุม กลับ มาให้ สส.หยุดอภิปราย ตนจึงขอไม่ถามกระทู้ต่อ



-นายกฯ โชว์ 8 วิสัยทัศน์ไทย ชี้ขัดแย้งการเมือง บดบังศักยภาพ

ขณะที่ท่านนายกฯ เมื่อวานนี้ได้ แสดงวิสัยทัศน์ โดยหยิบยกถึงการพัฒนาศักยภาพประเทศไทยใน 8 ด้าน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาค

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงวิสัยทัศน์ "IGNITE THAILAND (อิ๊กไนท์ ไทยแลนด์) : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง" ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยเริ่มต้น พูดถึง ความขัดแย้งปัญหาการเมือง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บดบังศักยภาพ บดบังแสงสว่างของประเทศไทย ตั้งแต่ 6 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ความสงบ ความสมัครสมานสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจกันของพวกเราทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ให้ชาวโลกรู้ว่าแสงสว่างในประเทศไทยเกิดขึ้นแล้ว

จากนั้น นายกฯ ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการไล่เรียงถึงศักยภาพของประเทศไทยใน 8 ด้าน ที่จะทำให้ไทยสามารถทำให้ก้าวไปเป็นเบอร์ 1 ของภูมิภาคได้ อาทิ

-การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว

-ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ

-ศูนย์กลางเกษตรกรรมและอาหาร รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการบิน

ช่วงหนึ่งของการพูดเรื่องการพัฒนาศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน / นายกฯได้พูดถึงเรื่องการยกระดับสนามบินทั่วประเทศ รวมถึงสนามบินดอนเมือง และแจ้งว่า ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ยินดีมอบสนามกอล์ฟกานตรัตน์ หรือ สนามงู คืนให้รัฐบาล เพื่อให้สามารถพัฒนาสนามบินดอนเมืองให้เป็นสนามบินที่ 2 ได้ดีขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีที่รัฐบาลพยายามทำให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกฯ ระบุว่า ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะแถลงรายละเอียดเรื่องการยกระดับสนามบิน พร้อมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



-เศรษฐา วอนผู้ว่าฯธปท. คิดถึงปชช. หลังยืนกรานไม่ลดดอกเบี้ย

ส่วนอีกประเด็นร้อน เกี่ยวกับจุดยืนที่ต่างกันเรื่อง “นโยบายดอกเบี้ย” เมื่อวานนี้ท่านนายกฯ ออกมาเรียกร้องให้ “ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย” คิดถึงความเดือดร้อนของประชาชน หลังให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ยืนยันจะไม่ปรับลดดอกเบี้ย

ภายหลังนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ยืนยันจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ย ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้องขอก่อนหน้านี้

ก็บอก “ถ้าลดอัตราดอกเบี้ยลง ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายมากขึ้น หรือทำให้บริษัทจีนนำเข้าปิโตรเคมีจากไทยมากขึ้น หรือทำให้รัฐบาลกระจายงบประมาณเร็วขึ้น นี่คือ 3 ปัจจัยหลักที่เป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจชะลอตัว”

เมื่อวาน นักข่าวไปถามเรื่องนี้กับ ท่านนายกฯ ย้ำว่า "เรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่ท่านผู้ว่าแบงก์ชาติ พูดออกมา 3 ข้อไม่มีเรื่องประชาชนเลย จึงอยากให้กลับไปคิดว่า วันนี้ประชาชนเดือดร้อน เราช่วยกันได้ ก็คงต้องพูดคุยกันต่อไป"

นักข่าวถามว่า รัฐบาลได้ส่งสัญญาณไปแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่มีการตอบรับ ท่านนายกฯ ระบุว่า "ก็จะทำครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 ต่อไป ใช้เหตุและผล โดยตัวเลขการชี้นำของเศรษฐกิจต่างๆ ก็บ่งบอกอะไรหลายๆอย่าง"



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/SsqKdcMpO9I

คุณอาจสนใจ

Related News