อาชญากรรม
เด้ง 'พ.ต.ท' ปม 'อัยการ' โดนแอบถ่าย-คุกคาม ขอหยุดพักให้คำปรึกษา คดีตร.เอี่ยวเว็บพนันมินนี่
โดย nut_p
8 ก.พ. 2567
207 views
สั่งย้าย พ.ต.ท ตำแหน่ง รองผู้กำกับ สอท. ช่วยราชการประจำ ศปก. จากกรณีที่ นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน โดนแอบถ่าย และคุกคาม จึงทำหนังสือขอหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษา การสืบสวนสอบสวนในคดีตำรวจพัวพันเว็บพนันมินนี่ จนกว่ามีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัย
โดยกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ได้ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน โดยมีเนื้อหาใจความว่า ตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ขอให้อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เข้าเป็นที่ปรึกษาสอบสวนคดีที่กล่าวหา พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับเว็บพนันมินนี่ ทางอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 คนใดคนหนึ่ง เข้าให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน และได้เริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้แจ้งเชิญให้เข้าให้คำแนะนำปรึกษา ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา และขณะนี้ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนอยู่นั้น ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการที่เข้าให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนดังกล่าว
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการดังกล่าว พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผู้ต้องหา กับพวกรวม 8 คน ซึ่งผู้ต้องหาแต่ละคนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนของพนักงานอัยการดังกล่าว แต่พบว่าผู้ต้องหาผู้ร้องเรียนได้แนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฎภาพของนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ และนายสุริยน ประภาสะวัต ซึ่งภาพถ่ายมีลักษณะเป็นภาพถ่ายที่มีผู้เฝ้าติดตาม และแอบถ่ายในขณะที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ จึงได้นำให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตรวจสอบ และหาตัวบุคคลแอบถ่ายแล้ว และในเบื้องต้นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตรวจพบแล้วว่ามีผู้แอบถ่ายภาพดังกล่าว ประกอบกับข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนไม่จำเป็นต้องใช้ภาพถ่ายในลักษณะดังกล่าวเป็นหลักฐาน แต่การที่ผู้ต้องหาผู้ร้องเรียนทั้ง 8 ใช้ภาพถ่ายดังกล่าว เป็นพฤติการณ์ให้เห็นว่าต้องการให้พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่ได้พบเห็นและรู้ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาเฝ้าติดตามการปฏิบัติหน้าที่รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันโดยตลอด เป็นการกระทำโดยมิชอบ ในเชิงการคุมคามข่มขู่ให้เกิดความกลัว ว่าจะเกิดภยันตรายต่อชีวิตร่างกายของพนักงานอัยการผู้ปฏิบัติหน้าที่ และบุคคลภายในครอบครัว ทั้งได้กระทำต่อพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยที่ผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายระดับต่างกัน มีอำนาจหน้าที่ในการรักษากฎหมาย รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และทราบว่ายังคงรับราชการอยู่แต่มีพฤติการณ์กระทำโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายอันอาจเข้าข่ายขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวนเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยไม่สุจริต มีอำนาจหน้าที่และมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่สามารถสั่งการได้
คดีนี้เป็นคดีสำคัญ มีการกระทำความผิดเป็นกระบวนการ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวนหลายนายในหลายระดับถูกสอบสวนดำเนินคดี ย่อมทำให้พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่เกิดความกลัวว่าจะเกิดภยันตรายต่อชีวิตร่างกายของตนเองและบุคคลในครอบครัวเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ และหากมีการปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไป โดยที่ยังไม่ปรากฎว่าสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการที่จะปกป้องคุ้มครองพนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไร เป็นหลักประกันให้พนักงานอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเหตุดังกล่าว
นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบวน และนายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 จึงได้กราบเรียนอัยการสูงสุดพิจารณาอนุญาตให้หยุดพัก การปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสอบสวนคดีนี้ไว้ชั่วคราวจนกว่าสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ดำเนินการในมาตรการปกป้องคุ้มครองเป็นหลักประกันพนักงานอัยการที่ ปฏิบัติหน้าที่รวมทั้งบุคคลในครอบครัวให้มีความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินในการปฏิบัติหน้าที่
และให้พิจารณาดำเนินการตรวจสอบพฤติการณ์การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหา และบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่านายตำรวจคนดังกล่าวที่เเอบถ่ายภาพอธิบดีอัยการ เป็นนายตำรวจยศรองผู้กำกับการ สอบสวน กองบังคับการสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ทีมข่าวสอบถามไปยัง พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในฐานะโฆษก สอท. ยืนยันว่า พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รักษาราชการแทน ผบช.สอท. ได้มีการลงนามคำสั่งให้ พ.ต.ท.นายนี้ มาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ บช.สอท.
กรณีนี้ ก็สืบเนื่องมาจากกรณีที่มีภาพของท่านอัยการสองท่าน ทาง สอท.เอง ได้มีการเรียกผู้ที่ถูกอ้างอิงกล่าวถึงว่ามีการนำภาพของท่านอัยการทั้งสองหลุดออกไป เพื่อความเป็นธรรม และโปร่งใส ซึ่งต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริง จึงต้องนำผู้ที่ถูกอ้างอิงกล่าวถึง มาประจำ ศปก.ก่อน เพื่อการสืบสวนต่อ และเพื่อความเป็นธรรม โดยคำสั่งลงนามเมื่อวันที่ 6กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/K0QuiWXY9zI