อาชญากรรม

อัยการสูงสุด แถลง "ทักษิณ" ปฏิเสธข้อกล่าวหาคดีม.112 พร้อมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม

โดย nutda_t

6 ก.พ. 2567

117 views

นายประยุทธ เพรชคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด , นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษก และนายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษก แถลงความคืบหน้า กรณีที่ นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โพสต์หนังสือความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558

นายประยุทธ์ บอกว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับหนังสือการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร ของนายทักษิณ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ทางอัยการสูงสุดได้พิจารณา และมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ แต่ขณะนั้นนายทักษิณ ยังอยู่ต่างประเทศ จึงมีการออกหมายจับภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยคดีนี้จะขาดอายุความในวันที่ 21 พฤษภาคม 2573

แต่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายทักษิณ เดินทางกลับมาไทยและรับโทษในคดีอาญาเรื่องอื่น พนักงานสอบสวนจึงได้นำหมายจับไปแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหาในกรมราชทัณฑ์ ทำให้เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนและคณะพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดี ได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับนายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดย นายทักษิณ ได้ให้การปฏิเสธ พร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดภายในวันเดียวกัน ทำให้หลังจากนี้ทางอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ต้องส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนและหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดี นำไปประกอบสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสูงสุดพิจารณาซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดังกล่าว


โดยตามกฎหมาย ทางอัยการสูงสุดมีอำนาจในการออกความเห็น 3 อย่างของสำนวนนี้ คือ 1. หากเห็นว่าข้อเท็จจริงครบถ้วน สามารถสั่งให้พนักงานอัยการไปสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม 2. หากข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วให้ยืนตามความเห็นเดิมที่ว่า ให้สั่งฟ้องนายทักษิณ ตามข้อกล่าวหา 3. หากพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติกรรมไม่เข้าข่ายความผิดสามารถมีความเห็นไม่สั่งฟ้องนายทักษิณได้

ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามคำร้องหนังสือขอความเป็นธรรมที่นายทักษิณ แย้งมาว่ามีข้อต่อสู้อะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในสำนวนได้ หากไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้


ส่วนประเด็นการอายัดตัวนายทักษิณ นั้น นายนาเคนทร์ อธิบายว่า ขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ยังไม่มีคำสั่งชัดเจนในการอายัดตัวนายทักษิณ จึงต้องรอคำสั่งความชัดเจน จากกรมราชทัณฑ์ หากนายทักษิณ ได้รับการพักโทษในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ตามขั้นตอนกรมราชทัณฑ์จะต้องแจ้งพนักงานสอบสวน ล่วงหน้า 7 วันก่อนปล่อยตัว เพื่อให้ไปรับตัวนายทักษิณ มาดำเนินคดีในคดี ม.112 และเมื่อพนักงานสอบสวนไปรับตัวแล้วจะพิจารณาเรื่องให้ประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน หรือจะไปดำเนินการขั้นตอนการฝากขังผัดแรกของในคดี 112 และเมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วหรือรับตัวมาแล้วก็จะมีหนังสือมาแจ้งอย่างอัยการสูงสุดว่ามีการรับตัวนายทักษิณมาแล้วและอยู่ในขั้นตอนไหนของพนักงานสอบสวน และเมื่ออัยการได้รับขั้นตอนจากพนักงานสอบสวนมาแล้ว หน้าที่ของอัยการจากนั้นจะต้องมาพิจารณาเอกสารการร้องขอความเป็นธรรมและพิจารณาสำนวนคดี

ส่วนความกังวลสำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณ จะทำให้คดียืดเยื้อเหมือนกรณีของนายบอส อยู่วิทยา ที่มีการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง ประเด็นดังกล่าว นายประยุทธ ยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอน เนื่องจากสำนักอัยการสูงสุดได้ถอดบทเรียนจากกรณีของบอส อยู่วิทยา พร้อมปรับแก้ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดในกรณีการร้องขอความเป็นธรรม โดยผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเป็นผู้มายื่นคำร้องด้วยตัวเองไม่สามารถให้ทนายความหรือบุคคลบุคคลอื่นที่รับมอบอำนาจมายื่นให้โดยเด็ดขาด และหากเห็นว่าเป็นการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเพื่อประวิงเวลา อัยการสูงสุดก็มีอำนาจในการยุติการร้องขอความเป็นธรรมได้เช่นกัน พร้อมขอให้สังคมเชื่อมั่นการทำงานของอัยการสูงสุด ว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ทักษิณชินวัตร ,อัยการสูงสุด

คุณอาจสนใจ

Related News