‘มณฑล’ โยกสามล้อ มุ่งหน้าเข้า กทม. ปฏิเสธเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ยันตั้งใจร้องสิทธิให้ผู้พิการ

ชายพิการโยกรถสามล้อจากสุโขทัยไปขอสิทธิที่กรมบัญชีกลาง ขณะจนท.เข้าช่วยเหลือแต่ถูกปฏิเสธ ยืนยันทำตามความตั้งใจเรียกร้องสิทธิให้ผู้พิการกลุ่มเปราะบาง

จากกรณีนายมณฑล อายุ 48 ปี ชาว ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย โยกรถเข็นสามล้อจากบ้านมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยืนยันตัวตนตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง เนื่องจากถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย จ.อ่างทอง พบเจอและพาไปพักผ่อนที่โรงพัก แต่นายมณฑลหลบหนีออก พร้อมกับโยกรถสามล้อคู่ใจมาตามถนนสายเอเชีย อ.บางปะหัน จ.อยุธยาฯ เมื่อช่วงสายวานนี้ (5 ก.พ. 2567)

ต่อมานายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังทราบเรื่องได้เข้าพูดคุยให้การช่วยเหลืออำนวยความสะดวก และช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้น อยู่ที่บริเวณศาลาริมทางถนนสายเอเชีย กม.36 หน้าตลาดบางปะหัน พบว่านายมณฑลไม่มีบัตรประชาชน ชื่อถูกย้ายไปอยู่ทะเบียนกลาง เนื่องจากถูกตำรวจออกหมายจับในคดีทำร้ายร่างกายบุพการี ทำให้ชื่อของนายมณฑลถูกคัดไปอยู่ในทะเบียนกลางตามระบบ และกรณีมีหมายจับ ทำให้นายมณฑลไม่พอใจ กลายเป็นอีกสาเหตุต้องโยกรถเข็น ร้องกรมบัญชีกลาง โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนของคนกลุ่มผู้เปราะบาง คนพิการทั่วประเทศที่ขาดการเหลียวแลอยู่ในขณะนี้ ให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม ตามระเบียบของทางราชการ

ระหว่างที่นายไพรัตน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พยายามเข้าพูดคุยเจรจา ปรับความเข้าใจ และอธิบายถึงสาเหตุที่ต้อง ย้ายชื่อไปอยู่กรมบัญชีกลางให้ได้ทราบ พร้อมกับจะประสานงานย้ายชื่อเข้าสารบบเดิม เนื่องจากคดีสิ้นสุดลงแล้ว และจะทำบัตรประชาชนให้ใหม่ แต่นายมณฑลปฏิเสธการช่วยเหลือ ก่อนโยกรถเข็นสามล้อ ฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ออกไปริมถนนอย่างรวดเร็ว ซ้ำยังโยกรถสามล้อวกกลับไปชนรถตำรวจที่ขับตามมา ก่อนจะหนีไป

ด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่ละความพยายาม ได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับนายมณฑลอีกครั้ง หลังพบหลบมาพักชั่วคราวอยู่ภายในวัดตานิม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม เพื่อที่จะพานายมณฑลไปดำเนินการทำบัตรประชาชน เพื่อไปดำเนินการยื่นขอสิทธิรับเบี้ยผู้พิการ ซึ่งเจ้าตัวยินดีที่จะไปทำบัตร แต่จะต้องหลังจากที่ไปพบกับผู้บริหารกรมบัญชีกลางและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก่อน พร้อมทั้งยอมให้เจ้าหน้าที่นำรถสามล้อโยกไปซ่อมให้ โดยจะขอนอนพักที่หลังเมรุของวัด

จนเวลา 6.00 น.ที่ผ่านมา นายมณฑลเก็บสัมภาระคลานออกมาจากที่พักหลังเมรุ ก่อนจะขึ้นรถเข็นโยกออกจากวัด มุ่งหน้าถนนสายเอเชีย มาถึงอำเภอนครหลวง เข้าสู่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ผ่านศูนย์ราชการจังหวัดฯ และเข้ามาหยุดพักที่หน้าบ้านพักคนชรา ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยมีกำลังตำรวจคอยดูแลความสงบเรียบร้อย

ระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามนายมณฑล ว่ามีแผนจะเดินทางต่อหรือไม่ นายมณฑลกลับไม่พอใจ ต่อว่านักข่าวที่มาติดตามทำข่าวตนเอง

ต่อจากนั้นนายมณฑลใช้รถโยกออกจากบ้านพักคนชรา มาตามทางคู่ขนานถนนสายเอเชียมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ได้ประมาณ 300 เมตร ไม่พอใจกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ขับรถเกาะติดทำข่าว ถึงกับหยุดรถ วิ่งย้อนศรสวนรถนักข่าว ทำการจราจรวุ่นวาย พร้อมทั้งชี้หน้าด่ากราดนักข่าวทุกคนที่ติดตามรายงานข่าว แล้วโยกรถเข้าไปจอดที่บ้านพักคนชราด้วยอาการหงุดหงิด จนไม่มีนักข่าวคนไหนเข้าไปพูดคุย ยืนสังเกตการณ์อยู่ระยะห่างๆ

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/DTeDjkTlILU