นายอำเภอยืนยันช่วยเหลือการทำบัตรประชาชนให้ชายผู้พิการตามขั้นตอน

นาย เอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์ นายอำเภอศีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เปิดเผยกรณีนายมงคลผู้พิการที่โยกรถสามล้อผู้พิการ จากอำเภอศรีสัชนาลัย มากรุงเทพมหานคร เพื่อจะไปกรมบัญชีกลาง สอบถามเรื่องเงินผู้พิการที่ไม่ได้รับ และไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ โดยออกเดินทางจากอำเภอศรีสัชนาลัยมาถึงอำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางกว่า 300 กิโล

โดยนายอำเภอไล่เรียงไทม์ไลน์ให้ทีมข่าวฟังว่าได้สอบถามข้อมูลทั้งผู้นำชุมชน, มารดา, ชาวบ้าน และข้อมูลในระบบทะเบีบยนราษฎร์

คุณแม่นายมงคลให้ข้อมูลว่านายมงคลหนีออกจากบ้านตั้งแต่ ป.6 และไม่ได้ติดต่อกับทางบ้านอีกเลย จนกระทั่งกลับมาในสภาพขาพิการ โดยบอกว่าทำงานที่กรุงเทพแล้วตกตึก 6 ชั้น ทำให้ขาพิการ จากนั้น ผู้นำชุมชนเห็นผู้เป็นผู้พิการ จึงหารถสามล้อโยกสำหรับผู้พิการให้ และยังพบว่านายมงคลมีฝีมือเกี่ยวกับการแกะสลักไม้เป็นรูปต่าง ๆ จึงทำเรื่องจัดซื้ออุปกรณ์แกะสลักไม้ ให้นายมงคลได้มีอาชีพ แต่ปรากฎว่า นายมงคลนำอุปกรณ์ที่ได้มาไปขาย และในบางช่วงที่นายมงคลอาศัยอยู่กับพ่อแม่ มักมีอารณ์โมโหร้าย คุณแม่บอกว่าเมื่อปี 63 นายมงคลโยกรถสามล้อจากบ้านไปหาพ่อของตัวเอง และจะแทงพ่อ และเคยบีบคอพ่อเพราะโมโหพ่อ ตอนนั้นชาวบ้านต้องมาช่วยกันห้าม

จากนั้นก็พบว่านายมงคลย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง ครั้งแรกอยู่อำเภอศรีสัชนาลัย ก็ย้ายไปอำเภอศรีสำโรงแล้วก็ย้ายกลับมาศรีสัชนาลัย จนสุดท้ายช่วงปี 64 พบว่าชื่ออยู่ทะเบียนบ้านกลาง เพราะนายมงคลมีคดีอาญาติดตัว 3 คดี และเมื่อต้นเดือนมกราคม 2567 นายมงคลก็มาติดต่อที่อำเภอศรีสัชนาลัย เพื่อขอทำบัตรประชาชน และเช็กสิทธิ์เบี้ยคนพิการ แต่พบว่าข้อมูลในระบบทะเบียนราษฎร์ ยังอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง คือมีคดีอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำว่าให้ไปขอใบบริสุทธิ์จากตำรวจมายืนยัน และบอกว่าให้ไปที่สภ.ศรีสัชนาลัยแล้วโทรกลับมาหาเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่คุยกับตำรวจจะได้รู้เรื่อง


"ตอนนั้นนายมงคลก็เข้าใจแล้วตอบรับกับเจ้าหน้าที่ ไม่ได้โวยวายหรือมีเรื่องราวกับเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งมาเป็นข่าว ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามแนะนำ และบอกให้เอาใบบริสุทธิ์จากตำรวจมาก็เปิดระบบทำบัตรประชาชนได้ แต่ก็ไม่ฟัง และไม่มีใครรู้ว่า ใครแนะนำให้ไปกรมบัญชีกลาง" และจากการตรวจสอบพบว่า นายมงคลได้ใบบริสุทธิ์ จากตำรวจสน.บางซื่อ เมื่อปี 2564 ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีคดีความแล้ว แต่นายมงคลทำหาย และไม่ได้มาติดต่อเจ้าหน้าที่

นายอำเภอยังบอกว่าพยายามอธิบายแนะนำให้นายมงคลเข้าใจ แต่นายมงคลไม่ยอมฟัง และยืนยันจะไปกรมบัญชีกลางให้ได้ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยระยะทางที่นายมงคลเดินทางผ่าน และในช่วงบ่ายทางกระทรวงมหาดไทยได้ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดแล้วก็เปิดสิทธิ์ให้ในกรณีพิเศษ โดยพบว่ามีการตรวจเช็กเรื่องใบบริสุทธิ์แล้ว จึงยอมเปิดสิทธิให้สามารถทำบัตรประชาชนได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ พยายามแนะนำและบอกกับนายมงคลแล้วว่าให้กลับมาทำบัตรประชาชน แต่นายมงคลไม่ยินยอม

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจึงสามารถเปิดสิทธิ์ให้นายมงคลได้ เมื่อเป็นข่าวโยกรถสามล้อเข้ากทม.หรือไม่ นายอำเภอศรีสัชนาลัย ยืนยันว่าไม่ใช่เหตุนี้ แต่เป็นเพราะที่ผ่านมา ทำตามระบบการขอทำบัตรประชาชนหากมีคดีความต้องมีเอกสารมายืนยันมาก่อน แต่ที่ต้องเปิดให้นายมงคลระหว่างเดินทางเข้ากทม.ก็เพื่อความปลอดภัยของนายมงคล และทำการตรวจเช็กข้อมูลนอกระบบแล้ว