สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 1 ก.พ.67 ก้าวไกล แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง-บิ๊กเต่าด่าแก๊งรีดทรัพย์-เด็ก4ขวบตกคอนโดดับ

โดย thichaphat_d

1 ก.พ. 2567

40 views

1. ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ “พิธา-ก้าวไกล” แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ พิธา – ก้าวไกล มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จากการเสนอแก้ ม.112 และสั่งให้หยุดการกระทำ ขณะที่พิธา ยิ้มบอกสื่อ สส.ทุกคนในพรรคยังอยู่กับเรา บอกโหวตเตอร์ เราทำเต็มที่แล้ว เสียดายใช้สภาถกเถียงเรื่องสำคัญไม่ได้ ยัน ไม่คิดแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความมั่นคงของชาติ ด้านชัยธวัช เผยขอดูคำวินิจฉัยตัวเต็มก่อน หวั่นเรื่องขอบเขตอาจเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ขอหารือก่อน กระทบเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่

2. ของขึ้น! “บิ๊กเต่า” เปรียบแก๊งรีดทรัพย์ คือ เหลือบไรหมาขี้เรื้อน

บิ๊กเต่า ลุยต่อ จ่อออกหมายจับเพิ่ม 2 ตัวการใหญ่ แก๊งศรีสุวรรณ รีดทรัพย์ ฟาดจัดหนักเปรียบแก๊งนี้เป็นเหลือบไรหมาขี้เรือน ไล่เห่าขออาหาร เตรียมแจ้ง เลขาฯตูน เพิ่มอีก 1 ข้อหา พร้อมเชิญ หมู สุธี สอบปากคำฐานะพยาน วอนพีระพันธุ์ รีบส่งหนังสือยกเลิกตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐ

ด้านภรรยาอธิบดีกรมข้าว โพสต์ภาพ-ไทม์ไลน์ นาทีล่อซื้อศรีสุวรรณ รีดทรัพย์ พ้อเคยขอสามีเป็นอธิบดีมันเหนื่อย ให้ลาออกมาช่วยงานที่บ้าน

3. รวบยกแก๊งร่วมแทง “น้องเร” ดับหน้าปทุมวัน


รวบยกแก๊ง 9 คนร่วมแทง “น้องเร” เทคโนปทุมวันดับหน้าสถาบัน เพชรมงคล อดีตนักศึกษาอุเทนฯ ที่ชูในกลางและใช้เท้าเหยียบดอกบัวในคลิป หนีไปซ่อนที่แปดริ้ว พร้อมตัดผมสั้นพรางตำรวจและอริ อ้างไม่ได้ตั้งใจหาเรื่อง ขณะที่ศิษย์เก่าอุเทนถวายจวก ศุภมาส ไม่เป็นกลางสั่งห้ามรับนักศึกษาใหม่ เอื้อประโยชน์บางหน่วยงาน จี้ขอดูคำสั่งอย่างเป็นทางการ ลั่นไม่ย้ายออกจากพื้นที่

4. ผบก.น.6 มั่นใจ “เอาอยู่” ตรึงกำลังรับวันบลูเดย์

ผบก.น.6 ยืนยัน เอาอยู่ จุดชุดปฏิบัติการพิเศษตรึงกำลังรับ วันสถาปนาอุเทนถวาย หรือ บลูเดย์ ได้แน่นอน หลังมีไลน์แจ้งเตือนผู้ปกครองเด็กเรียนพิเศษย่านสยามงดเข้าพื้นที่หวั่นถูกลูกหลงศึก 2 สถาบัน ก่อเหตุความวุ่นวายส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต ก่อนเผย ใช้กำลังตำรวจ 2 กองร้อยดูแลพื้นที่ สับเปลี่ยนตลอด 24 ชม. พร้อมด้วยอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน และรถควบคุมผู้ต้องหา

5. ไรเดอร์เกือบซวย โดนจ้างส่งพัสดุ แต่เอะใจ ก่อนพบเป็นยาเสพติด

ระทึกกลางกลางดึก ไรเดอร์หนุ่มเกือบซวย โดนลูกค้านิรนาม ว่าจ้างไปส่งพัสดุที่โรงแรมหรูย่าน RCA โดยอ้างว่าเป็นนาฬิกาข้อมือ แต่ตนรู้สึกเอะใจ เพราะกล่องมีน้ำหนักเบาผิดปกติ ก่อนพบพิรุธซ้ำ ผู้ส่งยกเลิกออเดอร์ จึงแกะพัสดุดูและพบว่าข้างในเป็นยาไอซ์ บรรจุถุงซิปล็อก ก่อนโร่หาตำรวจ สน.ประเวศ ลงบันทึกประจำวัน หวั่นตกเป็นผู้ต้องหา ด้านตำรวจเตรียมขยายผล ชี้ ติดตามได้ไม่ยาก

6. เด็กชายวัย 4 ขวบ พลัดตกคอนโดจาก ชั้น 23 เสียชีวิต

สุดเศร้า เด็กชาย 4 ขวบ ปีนมุดราวระเบียงเหล็กดัด คอนโดมิเนียม ชั้น 23 ย่าน สุขสวัสดิ์-พระราม 2 พลัดร่วงดับสลด ขณะที่น้าสาวร่ำไห้แทบใจสลาย ก่อนระบุ เพิ่งเช่าเข้ามาอยู่ได้เพียง 1 วัน ตอนเกิดเหตุตนกำลังยุ่งอยู่กับการจัดห้อง จึงลืมดูแลน้อง ซึ่งคาดว่าน้องจะเปิดประตูหลังห้อง มุดร่องรั้วระเบียงเหล็กดัดตกลงไป ขณะที่ตำรวจ นำศพส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช พิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต

7.ภูมิธรรม ดึง มาย-อาโป เล่นซีรีส์วายเรื่องใหม่ หวังดันสินค้าไทยสู่เวทีโลก

มิติใหม่กระทรวงพาณิช ภูมิธรรม ดึง มาย-อาโป นักแสดงชื่อดัง เล่นซีรีส์วายเรื่องใหม่ หวังช่วยผลักดันสินค้าไทยสู่เวทีโลก ด้านรัฐมนตรีพาณิชย์ เผยต้องคิดนอกกรอบ เพื่อโอกาสใหม่ จับมือเอกชน ยกระดับสินค้าและบริการของไทย ผ่านภาพยนตร์และซีรีส์วาย ชี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง โดยสอดแทรก สินค้า บริการ ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไทย ในภาพยนตร์และซีรีส์วาย



เรื่องเล่าการเมือง

- ศาล รธน. ชี้ "พิธา - ก้าวไกล" ล้มล้างการปกครองฯ - สั่งหยุดการกระทำ


เรื่องใหญ่ทางการเมืองเมื่อวาน คือ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า พิธาและพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากกรณีการเสนอแก้มาตรา 112 และรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยศาลสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าว

โดยศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในการออกบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย คดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องให้วินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล(ในขณะนั้น) ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรค 1 หรือไม่

โดยศาลฯได้ยกกรณีที่ สส.พรรคก้าวไกล จำนวน 44 คน เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ต่อสภาฯ และ มีการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งปี 2566 รวมถึงมีการแสดงความเห็นของกรรมการบริหารพรรค และ สมาชิกพรรค ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

จากนั้นศาลฯได้แจกแจงรายละเอียดร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ซึ่งศาลฯ มองว่ามีเจตนามุ่งหมายให้เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ถึงแม้ว่าการเสนอแก้ไขดังกล่าว จะไม่ถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ แต่ในเว็บไซต์ของพรรคก้าวไกล มีการเขียนถึงการแก้ ม.112 ในทำนองเดียวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ฯ ที่พรรคเคยเสนอ และสมาชิกพรรคมีการแสดงความเห็นทำนองเดียวกัน

นอกจากนี้ ศาลฯ ยังหยิบยกถึงกรณีที่สมาชิกพรรคก้าวไกลไปเป็นนายประกันให้ผู้ต้องหาคดี ม.112

รวมถึง สส.บางคนของพรรคก็เป็นผู้ถูกกล่าวหาตาม มาตรา 112 ด้วย โดยมีการระบุชื่ออย่างชัดเจน

และศาลฯยังกล่าวถึงกรณีช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ที่นายพิธา มีการติดสติ๊กเกอร์ให้ยกเลิกมาตรา 112 และกล่าวปราศรัยบนเวทีหาเสียงด้วย

ก่อนที่จะสรุปถึงพฤติกรรมโดยรวมของทั้งนายพิธา และพรรคก้าวไกล ว่าเป็นการ "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" สถาบันพระมหากษัตริย์ เข้าลักษณะเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

และสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา และพรรคก้าวไกล เป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 และสั่งให้หยุดการกระทำเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

ช่วงท้าย ศาลรัฐธรรมนูญ ยังได้เตือนผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นให้ระมัดระวังเรื่องการละเมิดอำนาจศาลด้วย ซึ่งมีโทษตั้งแต่ ตักเตือน / จำคุก / หรือ ปรับ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท



-พิธา – ก้าวไกล แถลง หลังศาล รธน. วินิจฉัย ล้มล้างการปกครอง

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย พรรคก้าวไกล นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร่วมกันแถลงท่าที ที่อาคารรัฐสภา ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย เพื่อแยก สถาบันพระมหากษัตริย์ ออกจากความมั่นคงของชาติ….

นายชัยธวัช มองว่า คำวินิจฉัย ที่ออกมาอาจก่อให้ผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาว อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ กับ ศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต อาจกระทบต่อความเข้าใจ และการให้ความหมายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ที่สำคัญอาจกระทบต่อดุลยภาพ ระหว่าง ประชาธิปไตย กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในระบอบการเมืองไทยในอนาคต อาจจะทำให้สังคมไทย สูญเสียโอกาสในการใช้ ระบบรัฐสภา ในระบอบประชาธิปไตย ในการยุติความขัดแย้ง ที่แตกต่างกันในอนาคต และสุดท้ายคำวินิจฉัย อาจส่งผลกระทบให้ประเด็นเรื่องสถาบันฯ กลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยมากยิ่งขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อ สถาบันฯ เสียงเอง

ส่วนนายพิธา ก็ ยืนยันเช่นเดียวกันว่า มีเจตนาที่บริสุทธิ์ใจ ไม่มีวาระซ่อนเร้น และไม่มีความตั้งใจที่จะแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกจากความมั่นคงของชาติ แต่ก็กังวลเรื่องคำนิยาม ความเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ อันเป็นประมุข กังวลเรื่องขอบเขตระหว่าง ฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญ ว่าอะไร ทำได้ หรือ ทำไม่ได้


-ธีรยุทธ ขอบคุณ ศาล รธน. เรืองไกรเดินหน้าร้องยุบพรรคต่อ

ทางด้านผู้ร้อง ในคดีนี้นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับทีมข่าวของเรา ขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ และบอกว่าวันนี้ จะมีความชัดเจน ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องคดีนี้ กล่าวขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ที่เมตตาวินิจฉัยคำร้อง ขอบคุณที่อธิบายขยายความว่าการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยจะขอกลับไปทบทวนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป คาดว่าวันนี้ (1 ก.พ.67) จะมีความชัดเจน ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร

ทั้งนี้ประเด็นที่อาจเป็นสารตั้งต้นนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกลนั้น นายธีรยุทธ กล่าวว่าตนเองไม่ได้เป็นคนกำหนดบทบาทว่าจะต้องยื่นร้องยุบพรรค แต่อยากให้ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มองว่า กกต.มีหน้าที่รับคำวินิจฉัยศาล ควบคุมกำกับดูแลนักการเมืองโดยตรง ต้องดำเนินการตามหลักกฎหมายเหมือนที่เคยปฏิบัติมา

ส่วนที่หลายคนมองว่าการร้องครั้งนี้เป็นการประหารชีวิตทางการเมือง ของพรรคก้าวไกลนั้น นายธีรยุทธ กล่าวว่าผู้ที่คิดอย่างนั้น น่าจะไปทบทวนคำวินิจฉัยเพราะ ศาลแจ้งชัดว่า พฤติกรรมหลายอย่างส่อให้ถึงเจตนาอันซ่อนเร้นของผู้ถูกร้องทั้งสอง และตั้งคำถามว่าทำไมไม่มองนายพิธา และพรรคก้าวไกลว่ามีเจตนาซ่อนเร้นอย่างไร

ขณะที่ สว.สมชาย แสวงการ แสดงความเห็นว่า คำวินิจฉัยที่ออกมา ถือว่าถูกต้องแล้ว หลังจากนี้ ใครจะไปร้องยุบพรรคก้าวไกล ก็ได้ไม่ต้องรอการกระทำในอนาคต เพราะถือว่าการกระทำที่ผ่านมาชัดเจนแล้ว และศาลจึงชี้ว่าเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครอง และหลังจากนี้ไม่เพียงแต่คดียุบพรรค เท่านั้น ยังมีหลายเรื่องที่ตามมา ทั้งคดีอาญา และคดีทางจริยธรรมด้วย

ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 10.00 น. จะเดินทางไป กกต. เพื่อยื่นยุบพรรคก้าวไกล

เพราะเคยร้อง เรื่องนี้ กับ กกต. มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ กกต.แจ้งว่าไม่เข้าเงื่อนไข ดังนั้น จะไปร้องอีกครั้ง เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ชัดเจนแล้ว



-ธนาธร ลั่นกฎหมายต้องแก้ไขได้ ไม่ใช่แฟกซ์จากพระเจ้า

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ก็ถูกถามประเด็นเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ระหว่างเข้าไปประชุมกรรมาธิการที่สภา โดยย้ำว่าขอให้ยืนในหลักการให้มั่น คือ กฎหมายต้องแก้ไขได้ และ สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ในการบัญญัติกฎหมาย

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลในวันนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้การแก้ไขมาตรา 112 ทำให้ยากขึ้น นายธนาธร กล่าวว่า อยากให้ยึด อยากให้กลับมายืนในหลักการมั่นๆ ยืนยันว่าฝ่ายนิติบัญญัติกฎหมาย


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WLLhSs2mZpg


คุณอาจสนใจ

Related News